ข่าว
กิ๊ก มยุริญ โกนหัวบวชชีแล้ว ที่วัดป่าในพม่านาน 7 เดือน

หลังจากประกาศเตรียมละทิ้งทางโลก แล้วหันหน้าพึ่งพระธรรม สำหรับนักแสดงสาว กิ๊ก มยุริญ โดยก่อนหน้านี้ออกมาเผยว่า ตั้งใจจะขอบวชสักครั้งในชีวิต เมื่อมีโอกาสจึงขอบวชที่วัดป่าในพม่าเป็นเวลา 6-7 เดือน

ล่าสุดมีภาพดาราสาว กิ๊ก มยุริญ โกนหัวบวชแล้ว ก่อนเตรียมเดินทางไปปฏิบัติธรรมยังพม่าเป็นเวลาครึ่งปี โดยได้โพสต์ภาพและแคปชั่นในเฟซบุ๊กว่า “พี่กิ๊ก มยุริญ ได้ทำการบวชแล้วเมื่อวานนี้เวลา 17:00 น. ตามเวลาประเทศพม่าค่ะ และออกรับบาตรเป็นครั้งแรกเมื่อเช้านี้ ตลอดระยะเวลาการบวชครั้งนี้จะไม่ได้มีรูปมาให้ชมกันนะคะ ระยะเวลาในการบวชครั้งนี้ 7 เดือนค่ะ ขออนุโมทนาบุญกับการบวชครั้งนี้ของพี่กิ๊กด้วยนะคะ”

งานนี้แฟนๆ ละครเข้ามาร่วมอนุโมทนาบุญจำนวนมาก

จำปาสัก-อัตตะปือ สปป.ลาว เขื่อนแตกภัยพิบัติระดับชาติ!

ภัยธรรมชาตินี่น่ากลัวจริงๆ ล่าสุด...เกิดเหตุเขื่อนแตกที่แขวงอัตตะปือ-จำปาสัก สปป.ลาว ทำให้พี่น้องชาวลาวได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก น้ำท่วมฉับพลัน มีผู้เสียชีวิตและสูญหายจำนวนมาก น่าเป็นห่วงจริงๆ ไม่น่าเกิดขึ้นในเมืองที่สวยงามอย่างจำปาสักเลย

1. แขวงจำปาสัก อยู่ส่วนไหนของลาว?

แขวงจำปาสัก ตั้งอยู่ตอนใต้ของ สปป. ลาว ห่างจากนครหลวงเวียงจันทน์ 610 กม. ทิศเหนือติดกับแขวงสาละวัน, ทิศใต้ติดกับประเทศกัมพูชา, ทิศตะวันออกติดกับแขวงเซกอง-แขวงอัตตะปือ สปป.ลาว, ทิศตะวันตกติดกับจังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย และยังเป็นแขวงเดียวทางตอนใต้ของ สปป.ลาว ที่มีพื้นที่บน 2 ฝั่งแม่น้ำโขง

2. อากาศดี หนาวเย็นทั้งปี

แขวงจำปาสัก มีคลองผ่ากลางและตั้งอยู่ในเขตภูเขาภูเพียงล้อมรอบ ทำให้มีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดปี ธรรมชาติสวยงาม เหมาะกับการเกษตร เลี้ยงสัตว์ มีเส้นทางเชื่อมต่อกันผ่านทางหลวงหมายเลข 23 และมีด่านเข้าออก 3 แห่ง และมีสนามบิน 1 แห่ง

3. แหล่งท่องเที่ยวโด่งดัง

ที่นี่เป็นเมืองท่องเที่ยวชื่อดังในประเทศลาว ประกอบไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวกว่า 280 แห่ง เช่น น้ำตกคอนพะเพ็ง มหานทีสีพันดอน เป็นน้ำตกไม่มีวันแพ้ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย และใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก

ในพื้นที่ของน้ำตกคอนพะเพ็ง มีต้นไม้ใหญ่ชื่อว่า 'มณีโคตร' ชาวบ้านที่นั่นเชื่อกันว่าเป็นตะบองของเจ้าแก้วสีโคตร เป็นต้นไม้ที่มีค่าอย่างหาที่สุดไม่ได้

4. เขื่อนผลิตไฟฟ้า แบตเตอรี่ของเอเชีย

พื้นที่ในแขวงจำปาสัก-แขวงอัตตะปือ มีเขื่อนเก็บน้ำขนาดใหญ่ เอาไว้ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าจำนวนมหาศาล นำส่งจำหน่ายไปยังประเทศเพื่อนบ้านข้างเคียง ว่ากันว่าการผลิตกระแสไฟฟ้าขายถือเป็นรายได้หลักของ สปป.ลาว เลยทีเดียว รองลงมาก็เป็นรายได้จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการเกษตร

5. เขื่อนแตกครั้งใหญ่ ภัยระดับชาติ

จากรายงานข่าว ระบุว่า เขื่อนที่แตกจนทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน มีชื่อว่า 'เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย' ซึ่งเป็นเขื่อนไฟฟ้าพลังงานน้ำที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในแขวงอัตตะปือของ สปป.ลาว แตกพังลง ทำให้มีมวลน้ำปริมาณ 5 พันล้าน ลบ.ม. ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่เมืองสะหนามไซ ส่งผลให้ประชาชนสูญหายกว่า 100 คน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน และประชาชนกว่า 6,000 คนที่ต้องไร้ที่อยู่อาศัย (ข้อมูล ณ วันที่ 25 ก.ค.)

6. เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย

เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย เขื่อนแตกพังที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ เป็นเขื่อนในแม่น้ำสาขาของแม่น้ำโขง ตั้งอยู่ในเขตที่ราบสูงโบโลเวน รอยต่อเมืองปากซอง แขวงจำปาสัก กับเมืองสะหนามไซ แขวงอัตตะปือ

เป็นเขื่อนในแผนงานของประเทศลาวโดยตรง อยู่ระหว่างการก่อสร้างแล้วเสร็จกว่าร้อยละ 90 โดยเริ่มเก็บกักน้ำแล้ว ซึ่งคาดว่าจะเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าได้ในปี 2562 และผลิตกระแสไฟฟ้า 410 เมกกะวัตต์ ใช้งบก่อสร้างราว 2 หมื่นล้านบาท และขายไฟฟ้าให้ประเทศไทย

7. รายชื่อชุมชนที่ได้รับผลกระทบ

สำหรับหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบ เป็นชุมชนริมแม่น้ำเซเปียน ประกอบไปด้วย บ้านท่าม่วง เมืองสะหนามไซ แขวงอัตตะปือ บ้านใหม่ บ้านสะหนองใต้ บ้านหินลาด บ้านท่าหินใต้ บ้านท่าบก บ้านท่าแสงจัน และบ้านตะหมอยอด

รัฐบาลลาวได้อนุมัติเงินเพื่อจัดการบรรเทาสาธารณภัยฉุกเฉิน ว่ากันว่ายอดเงินสูงถึงหลักพันล้านกีบ พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคเพื่อช่วยผู้ประสบภัยอีกทางด้วย


นายกฯ แจงผลครม.สัญจรอีสานตอนล่าง ปลุกศักยภาพพื้นที่เชื่อมต่อยุทธศาสตร์

เมื่อเวลา 20.15 น.วันที่ 27 ก.ค. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)กล่าวในรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนว่า สำหรับการเดินทางไปตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 หรือ กลุ่มจังหวัดราชธานีเจริญศรีโสธร ประกอบด้วย จังจ.อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และยโสธร เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งแปลกใจแม้ว่าจะมีแม่น้ำโขง - ชี - มูล หล่อเลี้ยงภาคการผลิต ตั้งอยู่ในผืนแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การทำเกษตรกรรม มีผลผลิตที่หลากหลาย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ที่ได้รับรองมาตรฐานเพิ่มขึ้น เป็นพื้นที่ศูนย์กลางอุตสาหกรรมแปรรูปทางการเกษตร แหล่งแปรรูปสมุนไพร แต่ทำไมยังคงเป็น "กลุ่มจังหวัด" ที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมต่อหัว "ต่ำที่สุด" ในประเทศ

นอกจากนี้ ยังมีภูมิศาสตร์ที่ตั้ง อยู่บริเวณชายแดน ประเทศเพื่อนบ้าน เป็นระยะทางยาว มีจุดผ่านแดน ทั้งจุดผ่านแดนถาวร และจุดผ่อนปรน รวม 9 ช่องทาง อีกทั้งมีแหล่งท่องเที่ยว ทั้งทางธรรมชาติและวัฒนธรรม ที่โดดเด่นอยู่เป็นจำนวนมาก แต่คงเป็นเพราะยังไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ เนื่องจากโครงการพัฒนาต่างๆ ในอดีต ไม่กระจายมาถึงที่นี่ และไม่มียุทธศาสตร์ที่ต่อเนื่องระยะยาว

ในครั้งนี้ครม.ได้ลงไปเห็นด้วยตาสัมผัสถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนด้วยใจ โดยโครงการต่างๆ ที่เสนอขึ้นมาหากสามารถเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติ และมีความจำเป็นเร่งด่วนก็ต้องพิจารณาปรับให้มาดำเนินการเร็วขึ้นอาทิ การพัฒนาระบบโลจิติกส์ การท่องเที่ยว และเชื่อมโยงการค้าชายแดน การพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร แก้ไขปัญหาอุทกภัย การยกระดับการผลิต และการสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร การพัฒนาคุณภาพชีวิต

นอกจากนี้ครม.ยังเห็นชอบผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมให้ ประชาชนปลูกต้นไม้ยืนต้นมูลค่าสูงในที่ดินกรรมสิทธิ์ เพื่อการออมและการสร้างมูลค่าของเศรษฐกิจ กำหนดให้ไม้ยืนต้นที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ รวมทั้งสิ้น 58 ชนิด เช่น สัก พะยูง ชิงชัน แดง เต็ง ฯลฯ เป็นทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจได้ นับว่าประเทศได้ป่า ประชาได้ประโยชน์ เหมือนกับยิงปืนนัดเดียว ได้นกสองตัว


ชาวโคราชครึ่งหมื่นแห่ต้อนรับ 'หมอภาคย์-ฮีโร่ช่วย 13 หมูป่า'

26 ก.ค.61 เวลา 17.00 น. ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายมุรธาธีร์ รักชาติ เจริญ รอง ผวจ.นครราชสีมา , นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดฯร่วมเป็นประธานเปิดกิจกรรมเชิดชูเกียรติผู้เข้าร่วมปฏิบัติการช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาเดมี 13 ชีวิตที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน โดยมีส่วนราชการ เหล่ากาดจังหวัด ภาครัฐ ภาคเอกชน หอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาชนร่วมงานกว่า 1,000 คน ดำเนินการจัดงานเชิดชูเกียรติหน่วยงาน 9 หน่วยงาน จำนวน 62 คน มีคอนเซ็ปชื่องานว่า " ชาวโคราชภาคภูมิใจ จิตอาสาทีมกู้ภัย 13 หมูป่า ”

โดยนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเดินทางมาเป็นประธานบายศรีสู่ขวัญให้กับฮีโร่ทุกคน บรรยากาศเริ่มต้นให้ทุกคนนั่งรถไฟฟ้ามาจากสำนักงาน อบจ.นครราชสีมาไปยังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี พร้อมการกราบสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี(ย่าโม) เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยมีประชาชนแห่ต้อนรับอย่างอบอุ่น และอุ่นหนาฝาคั่ง จากนั้นได้ไปยังเวทีข้างลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีปะพรมน้ำพระพุทธมนตรีจากพระราชสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เพื่อประกอบพิธีจุดเทียนชัยบายศรีสู่ขวัญ และฉายวิดีทัศน์เล่าเรื่องราวปฏิบัติการช่วยเหลือ 13 ชีวิตออกจากถ้ำหลวงฯ ของแต่ละหน่วยที่เข้าไปปฏบัติงาน และได้ร่วมกันแสดงความไว้อาลัยแก่นาวาตรีสมาน กุนัน วีรบุรุษถ้ำหลวง หรือจ่าแซม วีรบุรุษถ้ำหลวง เป็นเวลา 1 นาที

ทั้งนี้รวมถึงกิจกรรมการบายศรีสู่ขวัญ แหล่เรียกขวัญเป็นภาษาโคราช เพื่อสดุดีผู้เข้าร่วมปฏิบัติการช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมี โดยศิลปินพื้นบ้าน กำปั่น บ้านแท่น และการสัมภาษณ์ถึงภารกิจของแต่ละบุคคล หรือแต่ละหน่วยงานที่เข้าร่วมปฏิบัติการดังกล่าว สุดท้ายเป็นการมอบโล่เชิดชูเกียรติให้กับบุคคลและหน่วยงาน รวม 9 โล่ อาทิ พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน ผู้บังคับกองพันเสนารักษ์ที่ 3 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ , 2.ทีมกู้ภัยมูลนิธิพุทธธรรมการกุศล (ฮุก31) , 3.ทีมจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารภัยเขต 5 (นครราชสีมา) , 4.พันจ่าเอกสุทธิวิทย์ จันทรภิรมย์ อดีตครูฝึกหลักสูตรนักทำลายใต้น้ำจู่ดจมกองทัพเรือ และทีมหน่วยซีลนอกราชการ , 5.ทีมเจาะน้ำบาดาลอำเภอปากช่อง บริษัทน้ำเพชรบาดาล , 6.หน่วยกู้ภัยรื่นจิตอาสากู้ภัย อ.คง จ.นครราชสีมา , 7.มูลนิธิสว่างวิชชาธรรมสถาน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา , 8 สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ (ประเทศไทย) จุดจังหวัดนครราชสีมา และ 9. ทีมขุดเจาะบนภูเขาและโพรงถ้ำ พร้อมมอบเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติให้ทั้ง 62 คน โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา มอบช่อดอกไม้ ช่อดอกกุหลาบดีแดงสด เพื่อแสดงความชื่นชม เหล่าฮีโร่ถ้ำหลวง โดยตลอดการจัดงาน มีการจัดโรงทาน 27 ร้านค้า น้ำดื่มบริการประชาชนที่มาร่วมงานฟรี


รวบอดีต ผญบ.ข่มขืนสาวม้ง รับมีสัมพันธ์เหยื่อหลายครั้ง

ความคืบหน้าเหตุสาวม้งวัย 22 ปี ถูกอดีตผู้ใหญ่บ้านใน จ.ตาก ลวงไปข่มขืน แล้วถ่ายรูปแพร่คลิปประจาน ก่อนที่เหยื่อจะกินยาฆ่าตัวตาย และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำหมายจับของศาลจังหวัดลำปาง เข้าจับกุม นายนพดล นวอริยะ อยู่บ้านเลขที่ 1/82 ม.10 ต.รวมไทยพัฒนา อ.พบพระ จ.ตาก ผู้ต้องหาตามหมายจับว่ากระทำความผิดฐาน ข่มขืนกระทำชำเรา ผู้อื่นโดยขู่เข็ญ ด้วยประการใดๆโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิด ว่าตนเป็นบุคคลอื่น เมื่อช่วงสายวันที่ 27 ก.ค.2561 โดยเจ้าหน้าที่กองบังการปราบปรามการค้ามนุษย์(บก.ปคม.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ตาก ได้ที่ถนนตรงข้ามวิทยาลัยเทคนิค เขตอำเภอเมือง จ.ตาก โดยมี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ร่วมปฏิบัติการจับกุมในครั้งด้วย

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายนพดล ไปตรวจค้นที่บ้านพักใน อ.พบพระ จ.ตาก พร้อมหมายค้นของศาลจังหวัดตาก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พบพระ เจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายปกครอง

เบื้องต้นนายนภดล ยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกับภาพตามหมายจับของศาลจังหวัดลำปางจริง แต่เบื้องต้นให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาล และตอนแรกจะติดต่อเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แต่ก็มาถูกจับกุมก่อน ที่สำคัญยอมรับว่ามีเพศสัมพันธ์กับเหยื่อผู้เสียชีวิตหลายครั้ง

ครูวิภา สะอื้น ถามหาจิตสำนึก นักเรียนเบี้ยวหนี้ โยนภาระให้

เมื่อวันที่ 25 ก.ค. น.ส.วิภา บานเย็น อายุ 47 ปี หรือครูวิภา ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กำแพงเพชร ซึ่งถูกกรมบังคับคดี ยึดทรัพย์ บ้านและที่ดิน หลังค้ำประกันเงินกู้ กยศ. นักเรียนชั้น ม.4 และ ม.5 ได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยร่วมแถลงพร้อมนายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และนางเพ็ญรวี มาแสง ผู้อำนวยการกองฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ ในฐานะโฆษกกรมบังคับคดีกระทรวงยุติธรรม กรมบังคดี

ครูวิภา กล่าวว่า ยังมีนักเรียนที่ยังไม่ใช้หนี้อีก 17 ราย ดังนั้นต้องขวนขวายหาเงินเอาทรัพย์ที่โดนยึดคืนมา จึงอยากให้ กยศ.ช่วยหาทางออกให้บ้าง แต่เมื่อมาฟัง ทาง กยศ.ช่วยได้ชั่วคราวในการยับยั้งไม่ให้โดนยึดทรัพย์ชั่วคราว และตนต้องเจอคดีใหม่อีกจนครบตามที่ศาลกำหนด ทำให้ตอนนี้มีความกังวลใจไม่ต่างกับวันแรกที่โดนยึดทรัพย์ ซึ่งต้องไปกู้เงินเอาทรัพย์ของตัวเองคืน และนับวันดอกเบี้ยยังเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ และต้องจ่ายเงินเหมือนแถบปิดบัญชีให้เด็ก

“การมีทรัพย์สินผิดใช่ไหม จนทรัพย์สินที่มีให้ใครไปไม่รู้ แล้วไปหาเงินเพื่อเอาทรัพย์สินเงินคืน ซึ่งทรัพย์สินตรงนั้นสำคัญต่อจิตใจมากกว่า ควรให้นักเรียนจ่ายกับกรุงไทยได้หรือไม่ โดยตัดยอดของคนค้ำที่จ่ายมากกว่าของคนกู้ คนหนึ่งเหลือ 5 พันบาท 8 พันบาท หรือ 1 หมื่น ซึ่งตัวเองต้องจ่าย 2.5 หมื่นบาท มองว่าไม่ยุติธรรม”

จากนั้นครูวิภาน้ำตาคลอออกมา พูดถึงเด็ก 17 คนที่เป็นหนี้ ติดต่อไม่ได้ โดยอยากบอกว่า อีกไม่รู้กี่ปีต้องมารับภาระตรงนี้ ที่ผ่านมาพูดหลายครั้งแล้ว เพราะอยากให้มีจิตสำนึก อยากให้เป็นคนดี ไม่ต้องใช้คำหลายๆ คำในการเป็นคนดี ถ้าคนคิดได้ วิเคราะห์ได้ มีจิตสำนึกที่ดี ไม่ว่ามีอายุมากแค่ไหน หากมีสำนึกที่ดี ในการเป็นคนดีในสังคม ให้ยืนได้อย่างมีความสุข ที่ผ่านมาตนได้รับหมายศาลตั้งแต่ปี 51 หากรวมอีก 17 คน จาก 30 คน จะเจออีกกี่ปี ไม่มีใครสามารถทำให้ภาระตรงนี้แบ่งเบาไปได้

พร้อมกล่าวด้วยความสะเทือนใจอีกว่า ต้องรอเวลาเท่านั้นที่เด็กมาจ่าย เพราะฉะนั้นต้องรอหมายศาล รอการยึดทรัพย์ ต้องเตรียมหาเงินเพื่อเอาทรัพย์คืนมา หากมีการยึดทรัพย์อีก ตนก็จะยืมเงินเอาทรัพย์คืนมา หากถึงที่สุดแล้ว เพราะทรัพย์ที่พ่อแม่ให้มามีค่าที่สุด ซึ่งจะกล่าวว่าไม่ทุกข์ใจก็ไม่ใช่ เพราะต้องโดนอีก 17 คนที่ยังติดหนี้.