ข่าว
ทายาทซัมซุง เข้าให้การต่ออัยการเกาหลีใต้ หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยคดีอาญา เอี่ยวสินบนฉาว

สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า นายอี แจ-ยอง หรือ เจ วาย. อี ทายาทของผู้บริหารซัมซุง หนึ่งในแชโบลยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ ได้เข้าให้การต่ออัยการเกาหลีใต้ ที่สำนักงานอัยการ ในกรุงโซล ของเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 12 มกราคม หลังจากอัยการระบุว่า นายอี ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในความผิดทางอาญา ในคดีคอร์รัปชั่นที่เกี่ยวเนื่องกับประธานาธิบดีปาร์ค กึน เฮ จนนำไปสู่กระบวนการถอดถอน น.ส.ปาร์ค ออกจากตำแหน่ง

โดยเมื่อวันที่ 11 มกราคม สำนักงานอัยการเกาหลีใต้แถลงว่า นายอี ประธานบริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ และบุตรชายของนายอี คุน-ฮี ประธานกลุ่มซัมซุง ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในความผิดทางอาญาและจะถูกสอบปากคำเกี่ยวกับข้อกล่าวหาเรื่องการติดสินบนว่า จริงหรือไม่ที่ซัมซุงได้ให้เงิน 30,000 ล้านวอนแก่ธุรกิจและกองทุนของนางชเว ซุน-ซิล เพื่อนสนิทของ น.ส.ปาร์ค เพื่อแลกกับการได้รับการสนับสนุนจากกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ ในการควบรวมกิจการกับ ซีแอนด์ที คอร์ป และ ชีล อินดัสทรีส์ อิงค์ เมื่อปี 2558

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มอบลายพระหัตถ์ แสดงความห่วงใยถึงประชาชนทุกคน

วันที่ 13 มกราคม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เผยว่าเมื่อค่ำวันที่ 12 มกราคม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรี ตนในฐานะนายกมนตรีพร้อมด้วย รมว.มหาดไทย เฝ้าเพื่อถวายรายงาน ซึ่งพระองค์ทรงรับสั่งห่วงใยประชาชนที่เดือดร้อนจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ทรงรับสั่งดูแลประชาชนและแก้ปัญหาให้กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด พร้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่ทรงพระราชทานไว้มาเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา

จากนี้นายกรัฐมนตรีเปิดเผยได้ว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ์ทรงพระราชทานเป็นลายพระหัตถ์มาถึงประชาชนทุกคนว่า

“ด้วยความรักและห่วงใยขอเป็นกำลังใจในการร่วมกันฟื้นฟูและพัฒนาเพื่อขวัญที่ดีจิตใจและร่างกายที่เข้มแข็งนำมาซึ่งความสุขและมั่นคงของชาติ”

“แสดงให้เห็นว่าพระองค์ท่านทรงมีความห่วงใยในทุกภาคส่วนพร้อมให้กำลังใจกับประชาชนทุกคน ซึ่งรัฐบาลจะน้อมนำกระแสพระราชดำรัสดังกล่าวมาดำเนินการโดยเร็วที่สุด” นายกรัฐมนตรีระบุ


พรรคอธิปไตยฯ ร่วมงานศพ น้องมะปิน เหยื่อฆ่าชิงไอโฟน

เมื่อวันที่ 12 มกราคม นายณพลเดช มณีลังกา โฆษกพรรคอธิปไตยปวงชนชาวไทย (อปท.) เผยว่า น.อ.(พิเศษ) คัมภีร์ คัมภีรญาณนนท์ เลขาธิการพรรคฯ ได้เข้าร่วมงานฌาปนกิจศพ ของนายวศิน เหลืองแจ่ม (น้องมะปิน) บัณฑิต มศว. ผู้เสียชีวิต จากคดีฆาตรกรรมโหดชิงไอโฟน ณ วัดกลางคลองสาม ตำบลคลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยมี นายเจษฎา เหลืองแจ่ม และ นางนิราภรณ์ เหลืองแจ่ม ผู้เป็นบิดามารดา พระภิกษุสงฆ์ ญาติพี่น้อง เพื่อน และประชาชน มาร่วมงานอย่างหนาแน่น ท่ามกลางความโศกเศร้าอาลัยอย่างยิ่ง

ทั้งนี้ น.ส.ศรุตา เหลืองแจ่ม พี่สาวของนายวศิน ผู้ประสานงานคดี ได้กล่าวถึงกระบวนการยุติธรรม ได้มอบหมายให้ทนายดูแลแล้ว โดยทนายจะทำการยื่นฟ้องร่วมกัน เพื่อให้เกิดความยุติธรรมและรวดเร็วมากที่สุด และคดีนี้ ควรจะเป็นอุทาหรณ์และเป็นสิ่งที่ควรระวังสำหรับพี่น้องคนไทย คนไทยมักจะลืมง่าย จากเหตุการณ์นี้ คณะเพื่อนนายวศิน จะทำเว็บไซต์และ เฟซบุ๊ก เพื่อให้ประชาชนช่วยกันตรวจตราให้ความช่วยเหลือ และไม่ควรลืมเหตุการณ์ที่เป็นอันตรายดังกล่าว


นายกฯ สั่งจัดงาน “ประชารัฐร่วมใจ ช่วยอุทกภัยภาคใต้” จ่อมารับสายด้วยตัวเอง

เมื่อวันที่ 12 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากภัยพิบัติในพื้นที่จังหวัดภายใต้ ส่งผลให้เกิดความสูญเสียทั้งในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ในวงกว้างถึง 12 จังหวัด ซึ่งที่ผ่านมาทั้งภาครัฐและเอกชนหลายหน่วยงานได้พยายามช่วยเหลือ เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปบ้างแล้ว เรื่องดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จึงมีดำริให้มองภาพการแก้ไขปัญหาทั้งเฉพาะหน้าและระยะยาว มองสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นวาระแห่งชาติ และควรเป็นความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในลักษณะประชารัฐ ให้มาร่วมมือกันช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยในขณะนี้ จึงได้ให้จัดงานภายใต้ชื่อ ‘ประชารัฐร่วมใจ ช่วยภัยพิบัติภาคใต้’ ขึ้นในช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม นี้ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. – 20.00 น. โดยมีการถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ แทนรายการเดินหน้าประเทศไทย โดยในช่วงแรกจะเชิญนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี มารับโทรศัพท์ในการรับบริจาค 5 คู่สาย และคณะรัฐมนตรี ศิลปิน ดารา นักแสดงอีก 20 คู่สาย ที่ตึกสันติไมตรีหลังนอก

พล.ท.วีรชน กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีสายด่วน 1111 เพื่อรับแจ้งปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากภัยพิบัติ โดยปัญหาที่ร้องทุกข์เข้ามาจะถูกส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป โดยในการรับบริจาค จะเน้นการบริจาคเงิน เพื่อสะดวกในการส่งมอบแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดหาอุปกรณ์ต่างๆ และสิ่งของให้ตรงกับความต้องการของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน สามารถส่งต่อได้อย่างรวดเร็ว เพราะหากเป็นข้าวของ อาจไม่สะดวงในการเก็บรักษา อย่างไรก็ตาม กิจกรรมดังกล่าว โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ได้ให้ความร่วมมือ โดยแต่ละช่องจะนำศิลปิน ดารา มาร่วมรับโทรศัพท์จำนวนมาก ส่วนผู้ใดที่มีความประสงค์เดินทางเข้ามาบริจาคเงินที่ทำเนียบรัฐบาลโดยตรงก็สามารถเข้ามาได้ แต่ขอให้รวมกลุ่ม ซึ่งการรับบริจาคจะมีไปถึงเวลา 23.00 น.


‘ชวลิต’โลกสวย ชี้ ปี’60 ประเทศมีสัญญาณสงบ ฝ่ายมั่นคงเริ่มผ่อนคลาย

เมื่อวันที่ 12 มกราคม นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า เริ่มศักราชใหม่ปี 60 ตนสังเกตุเห็นสัญญาณบวกในทางการเมือง อย่างน้อย 2-3 ประการ ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นให้ประเทศเดินหน้าไปสู่ความสงบ สันติ และเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ คือ 1.การให้สัมภาษณ์ของผบ.ทบ.และเลขาธิการคสช.สรุปว่า ทหารจะไม่คว่ำการเลือกตั้ง การเมืองไม่ใช่เรื่องเสียหาย ถ้าการเมืองไม่ดี บ้านเมืองคงไม่เจริญมาถึงทุกวันนี้นับเป็นคำสัมภาษณ์ที่ให้กำลังใจ และให้เกียรติประชาชน 2.รัฐบาลส่งสัญญาณจะมีการพูดคุยเรื่องการปรองดอง ก่อนการเลือกตั้ง แม้จะส่งสัญญาณช้า แต่ถ้าตั้งใจ จริงใจ ทำจริง ก็ประสบความสำเร็จได้เพราะถ้ามีการขับเคลื่อนจากภาคประชาชนประสบการณ์ก็สอนเราว่าเป็นหนทางที่เสี่ยงไปสู่ความไม่ สงบ 3.ผู้ที่ต้องคดีอาญาเกี่ยวเนื่องการเมือง ได้รับการประกันตัว ซึ่งเป็นสิทธิของผู้ต้องหาในการยื่นขอประกันตัว ทำให้สถานการณ์ผ่อนคลายลงไประดับหนึ่ง

นายชวลิต กล่าวอีกว่า สถานการณ์ในปี 2560 ประเทศไทยมีกำหนดการสำคัญที่ทุกภาคส่วนควรร่วมมือกันที่จะสร้างบรรยากาศแห่งความสงบ สันติ ให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ โดยควรหลีกเลี่ยงการให้ความเห็นในทางที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้ง และควรหลีกเลี่ยงการตั้งเงื่อนไขมากมายก่อนการพูดคุยกัน ซึ่งทุกภาคส่วนควรร่วมกันหาทางออกให้กับประเทศให้หลุดพ้นกับดักแห่งความขัดแย้ง ไปสู่ความสงบ สันติ และเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์สอดคล้องกับสากลให้ได้


จักรพรรดิญี่ปุ่นจะเสด็จฯมาไทย ถวายราชสักการะพระบรมศพ

สำนักพระราชวังญี่ปุ่นออกแถลงการณ์ ระบุว่า สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินี มิชิโกะแห่งญี่ปุ่น จะเสด็จฯ เยือนประเทศไทย ระหว่างวันที่ 5-6 มีนาคมนี้ เพื่อถวายราชสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและจะเสด็จฯ ไปทรงพบสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต


สหรัฐฯ บริจาคเงิน 3.5 ล้านบาทผ่านมูลนิธิ ‘เซฟ เดอะ ชิลเดรน’ ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ของไทย

เมื่อวันที่ 11 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เผยแพร่สารจากนายกลิน ที. เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ระบุว่า ในนามของประชาชนชาวอเมริกัน ตนขอแสดงความเสียใจและเห็นใจเป็นอย่างยิ่งต่อประชาชนชาวไทยที่สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินเนื่องจากอุทกภัยในภาคใต้ ฝนที่ตกหนักผิดฤดูกาลในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมหนักในกว่า 12 จังหวัดภาคใต้ โดยขณะนี้ ได้มีผู้ประสบภัยกว่า 1 ล้านคน และเสียชีวิตแล้วกว่า 20 คน

ความเสียหายจากฝนตกหนักและน้ำท่วมได้ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนเป็นวงกว้าง สหรัฐอเมริกาจึงขอร่วมใจกับประชาชนชาวไทย โดยจะมอบเงินช่วยเหลือจำนวน 100,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3.5 ล้านบาท) ผ่านองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกาหรือยูเสด (USAID) ให้แก่มูลนิธิ “เซฟ เดอะ ชิลเดรน” (SAVE THE CHILDREN) ในการดำเนินงานบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนในจังหวัดที่ประสบภัย


เกาหลีใต้นำเข้าไข่มะกันเกือบ3ล้านฟอง แก้ปัญหาขาดตลาด เหตุจากหวัดนก

เมื่อวันที่ 11 มกราคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ไข่ไก่ล็อตแรกจำนวนเกือบ 3 ล้านฟอง ที่นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา จะถูกส่งมาถึงเกาหลีใต้ในวันเสาร์ (14 ม.ค.) นี้ เพื่อบรรเทาปัญหาขาดแคลนไข่ไก่ในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกครั้งรุนแรงที่สุดในเกาหลีใต้

จากการเปิดเผยของแหล่งข่าวในแวดวงอุตสาหกรรมและเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรเกาหลีใต้เมื่อวันก่อนหน้า ระบุว่า โคเรียนแอร์ และเอเชียนาแอร์ไลน์ส สองสายการบินแห่งชาติของเกาหลีใต้ต่างจะเป็นผู้ขนไข่ไก่จากสหรัฐเข้ามาสายการบินละ 100 ตัน ซึ่งรวมเป็นไข่ไก่จำนวน 2.98 ล้านฟอง โดยจะเป็นไข่ไก่นำเข้าจากสหรัฐมายังเกาหลีใต้ล็อตแรกและเป็นการนำเข้าไข่ไก่สดเป็นครั้งแรกของเกาหลีใต้ด้วยนับแต่ปี 1999 เป็นต้นมา

ควันหนาจัด ทำหนูน้อยหลงทาง ร้องหน่วยงานคลี่คลายสภาพมลภาวะ

13 ม.ค.60 ภาพวิดีโอเทปที่สื่อมวลชนของจีนนำออกเผยแพร่ผ่านทางโลกออนไลน์ ระบุ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว พบเด็กหญิงคนหนึ่งขึ้นโดยสารรถประจำทางไปโรงเรียน แต่เธอลงรถผิดป้าย ทำให้จำทางไปโรงเรียนไม่ถูกเพราะสิ่งที่เคยพบเห็นและจดจำทั้งตึกรามบ้านช่องต่างๆ ล้วนมองไม่เห็นเนื่องจากสภาพอากาศท้องฟ้าขมุกขมัว ทำให้หนูน้อยต้องอาศัยพึ่งพาเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเรียกรถตำรวจพาตัวเธอไปส่งที่โรงเรียนได้อย่างปลอดภัย ส่งผลให้ผู้คนพากันเรียกร้องถึงการเร่งคลี่คลายสถานการณ์มลภาวะทางอากาศอย่างเร่งด่วน

เหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นครั้งแรก โดยเมื่อช่วงเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา สตรีคนหนึ่งในมลฑลอันฮุยก็หลงทางอยู่นานเกือบทั้งวันระหว่างเดินออกจากบ้านไปเยี่ยมบ้านญาติเมื่อช่วงเช้าวันหนึ่งแล้วหาทางกลับบ้านไม่ถูกเพราะเผชิญหมอกควันหนาทึบ อย่างไรก็ดี คนในโลกออนไลน์บางส่วนตั้งข้อสังเกตว่า คลิปดังกล่าวอาจเป็นคลิปโฆษณาสินค้าหรือบริการอะไรซักอย่าง เนื่องจากภาพในคลิปคุณภาพสูงและยังบอกว่าทำไมเด็กหญิงถึงยังต้องไปโรงเรียนอีกทั้งที่สภาพอากาศปิดขนาดนั้น