ข่าว
แอน แฟนชาคริต หาเงินเลี้ยงลูก เป็นเมียดาราโพสต์ขายของหนัก

ตั้งใจขยันทำมาหากิน โพสต์ขายของเพื่อหาเงินเลี้ยงดู น้องโพธิ์ ลูกชายสุดน่ารัก แต่ แอน ภัททิรา รุ่งโรจน์ ภรรยาของพระเอก-พิธีกรหนุ่ม ชาคริต แย้มนาม กลับเจอดราม่า เมื่อมีชาวโซเชียลฯ บางคนคอมเมนต์ว่าตั้งแต่เจ้าตัวเป็นเมียดาราโพสต์แต่ภาพขายของ ทำให้คนที่จะเข้ามาดูรูปน่ารักๆ ของน้องโพธิ์รู้สึกไม่โอเค เลยไม่ขอติดตามไอจีอีก เลยเกิดศึกดราม่าตีกันเองระหว่างชาวโซเชียลฯ ซะงั้น

ดราม่าเริ่มต้นขึ้นจากตอนที่ แอน ได้โพสต์ภาพตัวเองกับดอกไม้ พร้อมทั้งเขียนข้อความฝากร้านดอกไม้ซึ่งเป็นร้านของญาติตนเอง ก่อนที่จะมีผู้ใช้ไอจีคนหนึ่งโพสต์คอมเมนต์ดราม่าว่า “สังเกตตัวเองไหมคะ ว่าตั้งแต่เป็นเมียดาราก็กระหน่ำขายของหนักมาก... ตามแรกๆ ok หลังๆ ขายจัง.... มาตามความน่ารักน้องโพธิ์ เหนื่อยจะตาม บรั้ย”

หลังจากนั้นก็มีชาวโซเชียลฯ อีกหลายคนเข้ามาคอมเมนต์โต้กลับถึงผู้ใช้ไอจีคนดังกล่าวทำนองต่อว่าเขาก็ต้องทำมาหากินเลี้ยงลูก ลูกยังเล็ก จะให้มาโพสต์แต่รูปลูกให้ดูหรือไง ถ้าไม่ให้ขายของจะให้นั่งเล่นไปวันๆ ก็จะโดนว่าเกาะสามีกิน ถ้าไม่ชอบก็ปล่อยผ่าน อันฟอลโลว์ไปเงียบๆ ก็ได้ แต่ก็มีบางส่วนที่เห็นด้วยกับข้อความดังกล่าวด้วย กลายเป็นศึกดราม่าโต้กันไปมาในไอจีไปเรียบร้อย.

“นิพิฏฐ์” ตอก “เหลิม” เย้ยสันดานขี้ขลาด

ปชป.รุมตอก “เหลิม” เละ “นิพิฏฐ์” ชี้ขี้ขลาดในสันดาน เย้ยหาก ผบ.ทบ.เรียกถามเรื่องปมสงครามเกิด คงฉี่ราดแพมเพอร์ส 2 ชั้น ด้านโฆษก ปชป.ฟื้นความจำถามใครดันกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย ทำ ปชช.ทั้งประเทศลุกฮือขับไล่

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง กับสงคราม” ว่า ฟัง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ปราศรัยเมื่อวันที่ 14 ม.ค. มี 2 ประเด็นที่ตนต้องออกมาชี้แจง 1. ร.ต.อ.เฉลิมพูดว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นสาเหตุของความวุ่นวายในบ้านเมือง 2. ร.ต.อ.เฉลิมพูดว่า หากไม่มีการเลือกตั้ง สงครามเกิดแน่นอน

ก่อนที่ตนจะกล่าวใน 2 ประเด็นนั้น ต้องบอกเสียก่อนว่า ร.ต.อ.เฉลิมไม่ได้เป็นคนเก่งกาจอะไร ค่อนข้างขี้ขลาดเสียด้วยซ้ำ เห็นได้ว่าตั้งแต่มีการยึดอำนาจ ร.ต.อ.เฉลิมเงียบเป็นเป่าสาก เห็นข่าวคราวบ้างก็ตอนนำลูกชายไปมอบตัวคดีอาญาที่กองปราบปราม หรือไปประกันตัวลูกชายอะไรทำนองนั้น ร.ต.อ.เฉลิมเพิ่งปากกล้าขึ้นมาหน่อยก็ตอน คสช.เขาปลดล็อกทางการเมืองประเภทรู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง ในสายตาตนแล้ว ร.ต.อ.เฉลิมมีความขี้ขลาดอยู่ในสันดาน

“พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นเหตุของความวุ่นวาย แต่เป็นเพราะพรรคของคุณนั่นแหละไปหาเหตุในการออกกฎหมายนิรโทษกรรม และไปแก้รัฐธรรมนูญ คนเขาเลยออกมาประท้วงรัฐบาลของคุณเฉลิมมืดฟ้ามัวดิน คุณเฉลิมยุแยงตะแคงรั่วจนหัวหน้าพรรคตัวเองต้องหนีคุกหนีตะรางหัวซุกหัวซุนไปทั่วโลก ส่วนคุณเฉลิมก็ขุดดินอยู่ในรู เพิ่งโผล่หัวออกมาสูดอากาศก็ตอนนี้แหละ ที่คุณเฉลิมพูดว่าหากไม่มีการเลือกตั้ง สงครามเกิดแน่นอน ผมว่าเป็นคำพูดที่ทำให้คนตื่นตระหนก ท่าน ผบ.ทบ.ไม่ลองเรียกคุณเฉลิมมาถามหน่อยหรือครับว่าสงครามที่คุณเฉลิมพูดจะเกิดเมื่อไหร่ ที่ไหน ชาวบ้านจะได้เตรียมรับมือสงครามได้ ผมว่า นี่ถ้า ผบ.ทบ.เรียกคุณเฉลิมมาสอบถามที่กองทัพบก คุณเฉลิมต้องใส่แพมเพอร์ส 2 ชั้น มาหาท่าน ผบ.ทบ.เลยทีเดียว เพราะคงเยี่ยวราดมาตั้งแต่บางบอนถึงกองทัพบกเลย” นายนิพิฏฐ์กล่าว

นายธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอทบทวนความจำของ ร.ต.อ.เฉลิม ว่าสาเหตุมาจากรัฐบาลสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้ดำเนินการแก้ไขธรรมนูญเพื่อเอื้อประโยชน์ของพรรคพวกและคนรอบข้างเพื่อเอื้อประโยชน์ในการเลือกตั้ง รวมทั้งการแก้ไขกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย ทำลายหลักนิติรัฐ นิติธรรม เพื่อไม่ให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้รับโทษทางการเมืองและอาญา ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าไม่เกิดประโยชน์กับประเทศ และประชาชนทั้งประเทศก็คัดค้าน และนายอภิสิทธิ์ก็ได้อภิปรายชี้ให้เห็นถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นทั้งในสภาและประชาชน สุดท้ายผ่านกฎหมายก็ไม่ผ่านความเห็นชอบ

“พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ตอบโต้ทางการเมืองเพราะไม่เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ แต่พรรคจะนำพาประเทศผ่านพ้นวังวนความขัดแย้ง 10 ปี แต่จะแก้จน สร้างคน สร้างชาติ ให้ประเทศกลับมาสู่ความเจริญที่ยั่งยืน ด้วยนโยบายที่ทำได้ และทำจริง รวมถึงไม่สร้างภาระให้กับประเทศชาติเหมือนพรรคการเมืองบางพรรค” นายธนากล่าว


'จ่านิว'เปลี่ยนสถานที่ชุมนุม 'ไม่เลื่อนเลือกตั้ง'เสี่ยงปะทะ!

18 ม.ค.62 นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว "Sirawith Seritiwat" ระบุว่า เรียนพี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุกท่าน

สำหรับการนัดหมายในการทำกิจกรรมรณรงค์ #ไม่เลื่อนเลือกตั้ง ในวันพรุ่งนี้ (19 มกราคม 2019/2562) เวลา 17:00 น. ดังที่ประกาศไปแล้วนั้น

จากสถานการณ์ท่าทีของรัฐบาลและมีความพยายามในการจัดชุมนุมของกลุ่ม "สามัคคีก่อนเลือกตั้ง" ที่มีลักษณะเป็นม็อบชนม็อบ ซึ่งให้เสี่ยงต่อการปะทะ

แม้ทางผู้จัดยืนยันว่ากิจกรรมจะดำเนินการต่อไป ไม่ประกาศยุติกิจกรรมในวันและเวลาดังกล่าว แต่เพื่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยของผู้ร่วมกิจกรรม และหลีกเหลี่ยงสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด แม้เราจะชุมนุมโดยยึดหลักและใช้วิธีการสันติวิธีการไม่ใช้ความรุนแรง ทางผู้จัดก็ต้องประเมินและพิจารณาปัจจัยเสี่ยงให้รอบคอบ เพื่อมิให้กลุ่มผู้หวังสร้างสถานการณ์รุนแรงได้ประโยชน์ดังใจนึก

ดังนั้นทางผู้จัดจึงพิจารณาในการเปลี่ยนสถานที่ในการกิจกรรมรณรงค์ ไม่เลื่อนเลือกตั้ง #เลื่อนแม่มึงสิ จากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์บริเวณ ลานหน้าหอประชุมใหญ่ เวลา 16:00 น.

หากท่านใดมีความประสงค์จะเข้าร่วมกิจกรรมกับคนอยากเลือกตั้ง ขอให้มาพบกันที่หน้าหอประชุมใหญ่ มธ.ท่าพระจันทร์ หากมาก่อนเวลาก็ขอให้หลีกเหลี่ยงการรวมตัวหรือนัดพบกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อมิให้เกิดการปะทะหรือแม้แต่การปะคารมกัน ให้ท่านมุ่งหน้าสู่ มธ.ท่าพระจันทร์เลยครับ

ขอเรียนเพิ่มเติมรูปแบบกิจกรรมอาจต้องมีการปรับลดลงบ้าง เพื่อความเหมาะสม แต่จุดเน้นของการแสดงพลังของประชาชนยังเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญ

ขอให้ทุกท่านที่มาร่วมกิจกรรมยึดการประกาศข่าวสารการชุมนุมจากเพจ

1.ประชาธิปไตยศึกษา V2

2.กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย Democracy Restoration Group - DRG

3.อานนท์ นำภา

4.Sirawith Seritiwat เฟสบุ๊คของผม

ทั้งหมดนี้เราจะสื่อสารไปในทิศทางเดียวเพื่อสร้างความเข้าใจตรงกันกับทุกท่าน

ขอยืนยันกิจกรรมของคนอยากเลือกตั้ง ไม่ได้จัดที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กิจกรรมในวันพรุ่งนี้ที่นอกจากขอบข่ายเวลาและสถานที่ โดยเฉพาะกิจกรรมที่สร้างความยั่วยุไม่ใช่กิจกรรมของคนอยากเลือกตั้ง

ขอขอบทุกกำลังใจและพลังที่ยืนหยัดต่อสู้กับเผด็จการมาด้วยกัน

แล้วพบกันครับ


“บิ๊กป้อม” งดให้สัมภาษณ์ เรื่องระเบิดโรงแรมในเคนยา

“บิ๊กป้อม” งดให้สัมภาษณ์สื่อ หลังจากพูดเล่นกับนักข่าวเรื่องเหตุระเบิดโรงแรมไทยในเคนยา จนสื่อต่างประเทศนำไปเป็นประเด็นขยายความและถูกวิจารณ์ในโลกโซเชียลฯ

(18 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งแห่งชาติ ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

โดยก่อนการประชุม พล.อ.ประวิตรมีสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา และเดินขึ้นตึกบัญชาการ 1 ทันที โดยสื่อมวลชนที่ดักรอสัมภาษณ์บริเวณหน้าตึกบัญชาการ 1 ไม่ได้ตั้งกล้องดักรอเหมือนทุกครั้ง เพราะทีมงาน พล.อ.ประวิตรได้ประสานเจ้าหน้าที่สำนักโฆษก สำนักนายกรัฐมนตรีให้แจ้งสื่อมวลชนว่า พล.อ.ประวิตรจะไม่ให้สัมภาษณ์ คาดว่าเป็นผลมาจากรณีการวิจารณ์คำพูดของ พล.อ.ประวิตร เกี่ยวกับประเด็นเหตุลอบวางระเบิดโรงแรมดุสิตที่ประเทศเคนยาก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรได้พูดคุยกับสื่ออย่างสนิทสนมเมื่อถูกถามเรื่องเหตุการณ์ดังกล่าวในประเทศเคนยา หลังเกิดเหตุได้ไม่นานในทำนองว่า “ไม่รู้สิ คงอาหารอร่อยมั้ง”


'เทพบุตรโซโล'แชทคุยสื่อทีวี ชี้แค่สั่งสอน-แต่พลาดถึงตาย

18 ม.ค. 62 จากกรณีพบศพวัยรุ่นอายุ 17 ปี ถูกรุมทำร้ายจนเสียชีวิต ที่บริเวณสนามฟุตบอลของโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่นช่วงกลางดึกวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมีการถ่ายคลิปวีดีโอขณะก่อเหตุเอาไว้ แล้วนำมาโพสต์ลงบนโลกโซเชียลเพื่อส่งงานให้เจ้าของเพจเฟซบุ๊กชื่อ "เทพบุตรโซโล" เนื่องจากนายเรส หักหลังเบี้ยวเงินค่ายาเสพติด

ความคืบหน้าล่าสุด รายการข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ของช่อง 3 ได้มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ "เทพบุตรโซโล" หรือ "ป๋าโซโล" บุคคลที่ทางตำรวจต้องการตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยมีการติดต่อแชทพูดคุยกับนักข่าวกันทางไลน์ มีเนื้อหาอ้างว่า

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ต้องการทำให้ นายเรด ถึงแก่ชีวิตเพียงแต่ต้องการสั่งสอนเท่านั้นเนื่องจากนายเรสทำผิดกฎ ซึ่งยอมรับว่าทีมงานทำผิดพลาดเอง หลังจากนี้ยินดีจะชดใช้เงินให้แก่ครอบครัวผู้ตายเดือนละ 10,000 บาท โดยเงินจำนวนนี้ได้มาจากการปลูกผักเลี้ยงปลา แต่หากไม่ต้องการก็จะเอาเงินไปทำบุญแทน ทั้งนี้ หลังจากมีการพูดคุยกับนักข่าวได้ระยะหนึ่งก็ทำการบล็อกไลน์ไม่ให้ใครเข้าไปติดต่อได้อีก

คิง เพาเวอร์ คว้ารางวัล อันดับ 1 World Travel Awards 2018

นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย และน่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง เมื่อ คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ ฟรี ภายใต้การบริหารงานของ คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล คว้ารางวัลชนะเลิศจากงานประกาศรางวัลอันทรงเกียรติสูงสุดของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และการโรงแรมโลก 25th World Travel Awards ในสาขา ‘World's Leading Airport Duty Free Operator 2018’ หรือ ผู้ประกอบการดิวตี้ฟรีสนามบินยอดเยี่ยมประจำปี 2561 ชนะผู้ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกทั้งหมด 10 ราย จากหลายร้อยแห่งที่ร่วมชิงรางวัล ซึ่งจัดอย่างยิ่งใหญ่ในงาน World Travel Awards Grand Final ณ เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส โดยมีผู้บริหาร และหน่วยงานชั้นนำจากวงการท่องเที่ยวทั่วโลกร่วมงาน ตอกย้ำศักยภาพ และความสามารถของบริษัทคนไทยที่โดดเด่น เสริมสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยให้กับชาวไทยและต่างชาติครบทุกมิติ และพร้อมเดินหน้าเต็มสูบให้บริษัทคนไทยได้ก้าวไกลสู่เวทีโลกอย่างยั่งยืน

ก่อนหน้านี้ เมื่อปลายปี 2561 ที่ผ่านมา คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศระดับภูมิภาค สาขา Asia's Leading Airport Duty Free Operator 2018 หรือ ผู้ปะกอบการดิวตี้ฟรีสนามบินยอดเยี่ยมแห่งภูมิภาคเอเชียประจำปี พ.ศ. 2561 มาแล้ว จาก World Travel Awards ซึ่งจัดขึ้น ณ เกาะฮ่องกง และผ่านเกณฑ์คัดเลือกอีกครั้งเพื่อเข้าชิงรางวัลรอบต่อไป โดยในระดับโลก คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดชนะผู้เข้าแข่งขันยักษ์ใหญ่ อีก 9 ราย ได้แก่ China Duty Free Group ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน, DFS สหราชอาณาจักร, Dubai Duty Free ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, Dufry ประเทศสวิตเซอร์แลนด์, Duty Free Americas ประเทศสหรัฐอเมริกา, Heinemann Duty Free ประเทศเยอรมนี, Lagardere Travel Retail ประเทศฝรั่งเศส, Lotte Duty Free และ The Shilla Duty Free ประเทศเกาหลีใต้

World Travel Awards (เวิลด์ ทราเวล อวอร์ด) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2536 นับเป็นรางวัลอันทรงเกียรติสูงสุดของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และการโรงแรมที่ได้รับการยอมรับระดับโลกที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยปี พ.ศ.2561 ที่ผ่านมา จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 25 เพื่อมอบให้กับผู้ประกอบการ และองค์กรที่มีความเป็นเลิศ และประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจด้านการท่องเที่ยว และการโรงแรม เป็นที่ยอมรับในระดับภูมิภาค และระดับสากล มีการบริหารงาน การบริการลูกค้า และผลงานที่โดดเด่นเหนือมาตรฐาน โดยแบ่งรางวัลเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ ระดับโลก ระดับภูมิภาค และระดับประเทศ สำหรับรางวัลอันทรงเกียรติสูงสุด คือ รางวัลระดับโลก หรือ World Awards จะเป็นการคัดเลือกจากผู้ที่ชนะรางวัลสาขาต่างๆ ในระดับภูมิภาคเท่านั้น โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้บริหารจากองค์กรชั้นนำในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ตลอดจนผู้บริโภคจากหลากหลายประเทศร่วมพิจารณา และลงคะแนน