ข่าว
เปิดไทม์ไลน์ กกต. จัดเลือกตั้ง อบจ. ล็อกวันหย่อนบัตร ใกล้สิ้นปี

วันที่ 9 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีรายงานว่าคณะรัฐมนตรี มีหนังสือแจ้งมติ คณะรัฐมนตรี ที่เห็นชอบให้มีการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดมายังกกต.แล้ว เมื่อวันที่ 7 ต.ค. และกกต.เตรียมที่จะมีการประชุมเรื่องดังกล่าว‪ในวันที่ 12 ต.ค.‬นี้

มีรายงานว่า หากกกต.เห็นชอบที่จะให้กำหนดให้วันที่ ‪20 ธ.ค.‬ 63 เป็นวันเลือกตั้งนายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ตามไทม์ไลน์ขั้นตอนการปฏิบัติต่างๆ ที่สำนักงานกกต.เตรียมไว้และจะเสนอให้ที่ประชุมกกต.พิจารณาเห็นชอบนั้น กำหนดช่วงเวลาต่างไว้คือ วันที่ 6 ต.ค. คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น

วันที่ ‪15 ต.ค.‬ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด (ผอ.กต.จว.) เสนอรายชื่อผู้ได้รับคัดเลือกเพื่อพิจารณาแต่งตั้งเป็นกกต.ท้องถิ่น

วันที่ ‪16 ต.ค.‬ วันสุดท้ายที่ผอ.กต.จว.ประกาศจำนวนเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง

วันที่ ‪19 ต.ค.‬ กกต.พิจารณาแต่งตั้งกกต.ท้องถิ่น

วันที่ 21-23 ต.ค. ประชุมชี้แจงแก่ผอ.กต.จว.และปลัดจังหวัด‬

วันที่ 28 ต.ค. กกต.ประกาศให้มีการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)

วันที่ ‪4 พ.ย.‬ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (ผอ.กต.ท้องถิ่น) ประกาศให้มีการเลือกตั้ง

วันที่ 9-13 พ.ย. รับสมัครเลือกตั้ง‬

วันที่ ‪20 พ.ย.‬ ผอ.กต.ท้องถิ่นประกาศรายชื่อผู้สมัคร

วันที่ 21-23 พ.ย. ผู้สมัครที่ไม่ได้รับสมัครยื่นคำร้องต่อกกต.‬

วันที่ 21-30 พ.ย. บุคคลร้องคัดค้านว่าผู้สมัครผู้ใดไม่มีสิทธิสมัคร‬

วันที่ ‪24 พ.ย. ‬วันสุดท้ายที่ผอ.กต.ท้องถิ่นประกาศหน่วยเลือกตั้ง/ ที่เลือกตั้ง /ปิดประกาศรายชื่อฯ

วันที่‪ 29 พ.ย.‬ วันสุดท้ายผอ.กต.ท้องถิ่นแต่งตั้งกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง/รักษาความปลอดภัย

วันที่ ‪5 ธ.ค.‬ วันสุดท้ายที่ผอ.กต.ท้องถิ่นแจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปยังเจ้าบ้าน

วันที่ ‪12 ธ.ค. ‬ผู้สมัครฯแต่งตั้งตัวแทนผู้สมัครประจำหน่วยเลือกตั้ง

วันที่ ‪19 ธ.ค.‬ วันสุดท้ายที่ศาลอุทธรณ์/ศาลอุทธรณ์ภาควินิจฉัยสิทธิสมัครและวันสุดท้ายการมอบอุปกรณ์

วันที่ ‪20 ธ.ค.‬ วันเลือกตั้งอบจ.

วันที่‪ 27 ธ.ค.‬ วันสุดท้ายของการแจ้งเหตุไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง

ญี่ปุ่นอ่วม เผชิญไต้ฝุ่น ‘จันหอม’ สุดน่ากลัว ถล่มเต็มๆ

เมื่อ 9 ต.ค. 63 เว็บไซต์ เจแปนไทม์ส รายงานสำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติญี่ปุ่นแจ้งเตือนประชาชนให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง คลื่นสูง และอาจเกิดดินสไลด์ในบางพื้นที่ จากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น ‘จันหอม’ ซึ่งถือเป็นพายุลูกที่ 14 ในฤดูกาลนี้ที่ถล่มญี่ปุ่น โดยคาดว่าพายุจะเคลื่อนตัวมาถึงภาคตะวันตก ก่อนจะมีทิศทางมุ่งหน้าสู่ภาคตะวันออกของญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์นี้

สำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติญี่ปุ่นคาดว่า ไต้ฝุ่นจันหอม จะเคลื่อนตัวด้วยความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางพายุ ราว 126 กม.ต่อชั่วโมงขณะมาถึงภาคตะวันตกของญี่ปุ่นในวันเสาร์ที่ 10 ต.ค.

ไต้ฝุ่น จันหอม มีทิศทางจะเคลื่อนตัวผ่านภูมิภาคโทโก และ คันโต ทางตะวันออกของเกาะฮอนชู ภาคกลางของประเทศญี่ปุ่น และพื้นที่บางส่วนของภาคตะวันออกในวันอาทิตย์ที่ 11 ต.ค. โดยคาดว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (10 ต.ค.) จะเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ภูมิภาคโตไก จนอาจมีปริมาณฝนตกสะสมถึง 400 มิลลิเมตร ด้วยเหตุนี้จึงขอแจ้งเตือนประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ดินสไลด์

เครดิตภาพ : NASA


อินโดฯ ประท้วงเดือด ต้าน ก.ม.แรงงานฉบับใหม่

ผู้ชุมนุมหลายร้อยคนรวมตัวกันใกล้กับทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงจาการ์ตา เผาทำลายของสาธารณะ พร้อมขว้างปาก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่ เพื่อแสดงจุดยืนต่อต้านกฎหมายแรงงานฉบับใหม่ ที่ผ่านร่างกฎหมายตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะมองว่าเป็นการลิดรอนสิทธิแรงงานและกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมยืนยันว่าการออกมาประท้วงครั้งนี้ก็เพื่อต่อสู้ให้แก่คนรุ่นลูกรุ่นหลานในอนาคต ขณะที่แกนนำสหภาพแรงงานยืนยันจะเดินหน้าชุมนุมต่อไปจนกว่ากฎหมายฉบับนี้จะถูกยกเลิก ส่งผลให้ตำรวจตอบโต้กลับด้วยการยิงแก๊สน้ำตา และปืนฉีดน้ำแรงดันสูงใส่ เพื่อหวังจะสลายการชุมนุม

ด้าน นายโจโค วิโดโด ผู้นำอินโดนีเซียระบุว่า กฎหมายฉบับนี้จะกระตุ้นให้เกิดการจ้างงานสำหรับคนรุ่นใหม่ รวมทั้งคนที่ตกงานจากผลกระทบของโควิด-19 โดยเชื่อว่ามูลเหตุของการประท้วง เพราะผู้ชุมนุมถูกให้ข้อมูลแบบผิดๆ

ทั้งนี้ นับตั้งแต่เริ่มมีการประท้วงตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานผู้ประท้วงในกรุงจาการ์ตาถูกจับกุมราว 1,000 คน และมีผู้ถูกจับกุมในเมืองอื่นๆ มากกว่า 100 คน นอกจากนี้ ยังมีรายงานนักศึกษาบาดเจ็บที่ศีรษะ ถูกนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลอีกอย่างน้อย 2 คน ขณะที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างน้อยอีก 6 นาย ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ปะทะที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง

ที่มา : รอยเตอร์


โครงการอาหารโลก คว้ารางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ประจำปี 2020

โครงการอาหารโลก ขององค์การสหประชาชาติ คว้ารางวัลโนเบลสาขาสันติภาพไปครองอย่างเหนือความคาดหมาย เนื่องจากโครงการอาหารโลกแทบจะไม่ได้อยู่ในรายชื่อของตัวเต็ง ตามที่สื่อได้นำเสนอมาก่อนหน้านี้ ซึ่งมีทั้งองค์การอนามัยโลก คณะกรรมการปกป้องสื่อมวลชน เกรต้า ธันเบิร์ก นักเคลื่อนไหวเยาวชน หรือ นายอเล็กซี นาวัลนี ผู้นำฝ่ายค้านของรัสเซีย ที่เพิ่งล้มป่วยจากอาการที่ต้องสงสัยว่ามาจากการถูกวางยาพิษด้วยสารทำลายประสาท

โดยในปีนี้มีรายชื่อถูกเสนอให้พิจารณามากถึง 318 ราย แบ่งเป็น องค์กร 107 องค์กร และบุคคลอีก 211 คน แต่เนื่องจากการเสนอชื่อผู้เข้าชิง ปิดรับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ทำให้บุคคลสำคัญที่มีส่วนต่อสู้กับโรคโควิด-19 จำนวนมาก ไม่ได้ถูกเสนอชื่อไปในรอบนี้

สำหรับพิธีมอบรางวัลโนเบลทุกสาขา จะมีขึ้นในวันที่ 10 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของ นายอัลเฟรด โนเบล ผู้ก่อตั้งรางวัลนี้ แต่การจัดงานในปีนี้จะจัดงานให้มีขนาดเล็กลง เนื่องจากยังคงมีการระบาดของโรคโควิด-19 อยู่

โดยเมื่อปีที่แล้ว ผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ประจำปี 2019 คือ นายกรัฐมนตรีอาเบีย อาห์เหม็ด แห่งเอธิโอเปีย จากความพยายามผลักดันให้เกิดสันติภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งช่วยยุติภาวะการคุมเชิงทางทหารกับเอริเทรีย ที่ยืดเยื้อมาเกือบ 20 ปี หลังเกิดข้อพิพาทเรื่องชายแดนกันในปี 1998-2000 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคน

ที่มา : เดลี่เมล์


ทรัมป์ พร้อมจะกลับไปหาเสียงเลือกตั้ง ปธน. หลังติดโควิด

เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 63 สำนักข่าวบีบีซีรายงาน นายแพทย์ฌอน คอนลีย์ แพทย์ประจำตัวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา กล่าวถึงสุขภาพของนายทรัมป์ หลังจากติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ หรือ โควิด-19 ว่า ขณะนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์พร้อมแล้วที่จะกลับไปหาเสียงเลือกตั้งในสุดสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกัน นายแพทย์คอนลีย์ กล่าวด้วยว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ตอบสนองต่อวิธีการทางการแพทย์ในการรักษาอาการป่วยด้วยโรคโควิด-19 ได้อย่างดีเยี่ยม และอาการของเขาทรงตัว ไม่มีสัญญาณใดๆ ที่บ่งชี้ว่าจะป่วยมากขึ้น

“วันเสาร์ที่ 10 ต.ค. จะเป็นวันที่ 10 นับตั้งแต่ผลการตรวจออกมาเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ ติดเชื้อโควิด-19 และบนพื้นฐานของวิถีการวินิจฉัยขั้นสูงของทีมแพทย์ที่ได้ดำเนินการมาโดยตลอด ผมคาดหวังอย่างเต็มที่ว่าท่านประธานาธิบดีมีความปลอดภัยที่จะกลับไปหาเสียงเลือกตั้งในเวลาดังกล่าว” นายแพทย์คอนลีย์ กล่าว

ขณะที่ ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวในเวลาต่อมาว่า บางทีตนอาจจะตรวจเชื้อโควิด-19 อีกครั้ง และมีความหวังที่จะกลับไปหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี ในช่วงสุดสัปดาห์นี้

ไทยอึ้ง พบชาวเมียนมากลับจากไทย ติดโควิด-19 แล้ว 70 ราย

เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 63 สำนักข่าวซินหัว รายงาน นายอู เทซาร์ ออง เจ้าหน้าที่เขตเมืองเมียวดีในรัฐกะเหรี่ยงของเมียนมา เปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัวว่า มีชาวเมียนมา เดินทางกลับจากประเทศไทย ผ่านสะพานมิตรภาพระหว่างสองประเทศแล้วกว่า 120,000 คน ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม - 7 ตุลาคม 2563 โดยในจำนวนนี้ ตรวจพบว่ามีชาวเมียนมาที่กลับมาจากประเทศไทย ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 จำนวน 70 ราย

นายอู กล่าวด้วยว่า เนื่องจากความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพของทั้งสองประเทศ ทำให้การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อยู่ภายใต้การควบคุม และกระบวนการอพยพแรงงานกลับประเทศดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยจนถึงวันนี้

ตามรายงานระบุว่า ทางการท้องถิ่นเมียนมา ได้ส่งตัวแรงงานชาวเมียนมาที่อพยพกลับประเทศ และถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 เหล่านี้ไปยังศูนย์กักกันโรค เพื่อเข้ารับการรักษาต่อไป

ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุขและกีฬาของเมียนมา ระบุว่า ยอดสะสมผู้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 ในเมียนมา เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 21,433 ราย และเสียชีวิต 510 ศพ จนถึงวันพุธที่ 7 ตุลาคม 2563