ข่าว
“ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ” ถวายพระพรในหลวง

ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ ส.ส.สหรัฐฯ ลูกครึ่งไทยคนแรกที่เกิดในไทย ส่งคำถวายพระพรในหลวงผ่านสถานทูตไทยในวอชิงตัน ดี.ซี.

ระบุตระหนักในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทุ่มเทให้แก่ประเทศชาติ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวาคม 2555 เว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้เผยแพร่คำถวายพระพรของ พ.ท.หญิง ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มลรัฐอิลลินอยส์ ที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้งเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2555

สำหรับเนื้อความของคำถวายพระพรของ ส.ส.หญิง ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน และเป็น ส.ส.สหรัฐฯ ที่เกิดในประเทศไทยฉบับเต็มทั้งภาษาไทยมีเนื้อความดังนี้

“ในวันนี้ ข้าพเจ้าขอถวายพระพรให้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระเกษมสำราญเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา โดยข้าพเจ้ารับทราบถึงพระราชกรณียกิจที่มุ่งพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไทยอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 6 ทศวรรษ ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ คนแรกที่เกิดในประเทศไทย ข้าพระพุทธเจ้าตระหนักในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทุ่มเทให้แก่ประเทศชาติ และพระราชกรณียกิจที่มุ่งพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไทยผ่านโครงการพระราชดำริหลายพันโครงการ และสนับสนุนเกื้อกูลการพัฒนาประชาธิปไตยในประเทศไทยก็เป็นที่ประจักษ์ของนานาประเทศ

“ข้าพเจ้ารู้สึกภาคภูมิใจยิ่งกับการเดินทางไปเยือนประเทศไทยของประธานาธิบดีโอบามาเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งนั่นเป็นการยืนยันถึงมิตรภาพอันแข็งแกร่งระหว่างชาติที่ยิ่งใหญ่ทั้งสอง ข้าพเจ้ามุ่งหวังว่าจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ดังกล่าวให้มั่นคงยิ่งๆ ขึ้นไป และมีโอกาสได้ทำงานกับใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ”

'สมรักษ์' เสียเดิมพัน หมดแรงพ่าย 'จอมโหด'

สมรักษ์ คำสิงห์ หมดแรง โดน จอมโหด หมอเบสกมล พลิกไล่ออกอาวุธใส่ ก่อนพลิกชนะคะแนน พร้อมคว้าเดิมพัน 3 ล้านบาท ในศึกลุมพินีแชมเปี้ยนเกริกไกร นัดวันเกิดเวทีลุมพินี เมื่อค่ำคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา...

วันที่ 7 ธ.ค. ที่เวทีมวยลุมพินี จัดศึกวันสถาปนาเวทีมวยลุมพินี โดยมีโปรโมเตอร์ "เสี่ยเน้า" วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ พร้อมทีมงานจัดอย่างยิ่งใหญ่ ให้ชมกันถึง 11 คู่ด้วยกัน ซึ่งคู่มวยไฮไลท์ ได้แก่ คู่มวยพิเศษย้อนยุค ชกในพิกัด 150 ปอนด์ "โม้อมตะ" สมรักษ์ คำสิงห์ นักชกเหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทย วัย 39 ปี ซึ่งทำเซอร์ไพรส์ มีดารานักแสดงระดับโลกอย่าง ฌอง คล็อด แวนแดม มาเป็นพี่เลี้ยงให้ด้วย พบกับ จอมโหด หมอเบสกมล วัย 42 ปี พร้อมมีเงินรางวัลพิเศษ 3 ล้านบาทติดปลายนวมอีกด้วย

ยกแรก เกมยังไม่เร่งรีบ ด้วยกันทั้งสองฝ่าย โดย จอมโหด เป็นฝ่ายเดินเบียดเจาะยางล่าง ขณะที่ สมรักษ์ก็ชกสบายๆ ปล่อยหมัดแย็ปสลับฮุคซ้ายเป็นระยะๆ ยกสอง เกมรูปดุเดือดขึ้น แลกอาวุธกันหมัดต่อหมัด เรียกเสียงเฮจากแฟนมวยได้ลั่นสนาม ก่อนที่สมรักษ์ จะฉวยโอกาสดักสับศอกขวาบวกเข้าที่โหนกแก้มจอมโหดแตก ยกที่สาม จอมโหด ที่เป็นรองใน 2 ยกแรก รีบปรี่ฟาดแข้งเข้าหา สมรักษ์ ไม่ยั้ง จนชักมีอาการเหมือนกัน

จากนั้น เกมเริ่มเป็นของ จอมโหด โดยยกที่สี่ จอมโหด ยังเบียดติด จนสมรักษ์ ล้มไปกอง แม้จะกัดฟันลุกขึ้นมาได้ แต่ก็หมดแรงข้าวต้ม แทบจะไม่ไหว เป็นฝ่ายรับอาวุธของจอมโหดท่าเดียว ยกสุดท้าย จอมโหด ยังดูกระฉับกระเฉง ไล่เดินเตะ สมรักษ์ พร้อมกับ โชว์ลีลาแม่ไม้มวยไทยสบาย ก่อนระฆังจะดังหมดยก กรรมการชูมือให้ จอมโหด ชนะไปด้วยคะแนนเอกฉันท์ 49-47 คว้าเดิมพัน 3 ล้านไปครอง

ส่วนการแข่งขันคู่อื่นๆ โรจน์ณรงค์ สากุลรัตนะ แพ้คะแนน กนกรัตน์ ส.เทียนโพธิ์, สะเก็ดดาว เพชรพญาไท ชนะคะแนน มงคลชัย เพชรสุภาพรรณ, เป็นเอก ศิษย์หนุ่มน้อย ชนะคะแนน เพชรพนมรุ้ง ว.สังข์ประไพ, ซุปเปอร์เล็ก ว.สังข์ประไพ ชนะคะแนน แสงมณี ส.เทียนโพธิ์, สามเอ ไก่ย่างห้าดาวยิม ชนะคะแนน โพธิ์แก้ว ฝนจางชลบุรี, น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาวยิม แพ้คะแนน ยอดวิชา ภ.บุญสิทธิ์, เพชรบุญชู เอฟ.เอ.กรุ๊ป ชนะคะแนน ดีเซลเล็ก อู๊ดดอนเมือง, สิงห์ดำ เกียรติหมู่9 ชนะคะแนน วันเฉลิม อู๊ดดอนเมือง, ติ่งทอง ช.โค้วยู่ฮะอีซูซุ ชนะคะแนน น้องเบียร์ โชคงามวงศ์.

ขณะที่ ยอดขายบัตร วันนี้ รวมทั้งสิ้น 4,214,250 บาท ชาวต่างชาติ 485 คน


ญี่ปุ่นแจ้ง 'สึนามิ' 1 เมตร ซัดชายฝั่งอิชิโนะมากิแล้ว

สำนักข่าวเอ็นเอชเคแจ้ง สึนามิสูง 1 เมตร ซัดชายฝั่งเมืองอิชิโนะมากิ จังหวัดมิยางิแล้ว หลังแผ่นดินไหว รุนแรง 7.3 ริกเตอร์ แต่ยังเฝ้าระวังอาจมีคลื่นลูกใหญ่อีก...

สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคของญี่ปุ่น รายงานเมื่อ 7 ธ.ค. ว่า เกิดสึนามิความสูง 1 เมตร ที่ชายฝั่งเมืองอิชิโนะมากิ จังหวัดมิยางิ เมื่อเวลา 18.02 น. ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมประกาศเตือนเพิ่มเติมว่า ยังอาจมีคลื่นยักษ์สูงมากถึง 2 เมตร ตลอดแนวชายฝั่งจังหวัดดังกล่าวด้วย

สึนามิครั้งล่าสุด สืบเนื่องจากแผ่นดินไหวรุนแรง 7.3 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งทางตะวันออกของญี่ปุ่น สำนักธรณีวิทยาสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส) แจ้งว่าจุดศูนย์กลางห่างจากเมืองคามิอาชิ ราว 300 กิโลเมตร และลึกลงไปใต้ทะเล 33 กิโลเมตร แรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ไกลถึงกรุงโตเกียว อย่างไรก็ดี โรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ในจังหวัดใกล้เคียงอย่างฟูกุชิมะ ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้

อนึ่ง แผ่นดินไหวรุนแรง 9.0 ริกเตอร์ ที่ญี่ปุ่นเมื่อเดือน มี.ค. ปีที่แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายมากถึง 20,000 คน.

“รัฐวอชิงตัน” เริ่มใช้กฎหมายสูบกัญชา “เพื่อความบันเทิง” แห่งแรกของสหรัฐ

รัฐวอชิงตัน สร้างประวัติศาสตร์เป็นรัฐแรกของสหรัฐ ที่เริ่มใช้กฎหมายอนุญาตให้มีการสูบกัญชาเพื่อ "ความบันเทิง" สำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 21 ปี แต่สามารถมีกัญชาในครอบครองไม่เกิน 1 ออนซ์เท่านั้น

วันนี้ ( 7 ธ.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครลอส แองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า รัฐวอชิงตัน สร้างประวัติศาสตร์เป็นรัฐแรกของประเทศ ที่อนุมัติบังคับใช้กฎหมายให้มีการสูบกัญชาเพื่อ “ความบันเทิง” หรือ “สันทนาการ” สวนทางกับกฎหมายของรัฐบาลกลางที่ยังคงห้ามในเรื่องดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ รัฐวอชิงตัน และรัฐโคโลราโดเป็น 2 ใน 18 รัฐที่อนุญาตให้มีการเสพกัญชาเพื่อจุดประสงค์ทางการแพทย์ และเป็นรัฐอันดับต้นๆของประเทศที่จัดให้มีการลงประชามติในเรื่องการสูบกัญชาเพื่อผ่อนคลาย หรือ สันทนาการ เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ แม้ชาวโคโลราโดส่วนใหญ่จะให้ความเห็นชอบ แต่ต้องรอจนถึงวันที่ 5 ม.ค. ปีหน้า ซึ่งเป็นวันที่กฎหมายเริ่มมีผลบังคับใช้ ขณะที่ทางการรัฐวอชิงตันอนุมัติให้กฎหมายมาตรานี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค. เป็นต้นไป

เนื้อหาในกฎหมายระบุอนุญาตให้ผู้ที่มีอายุเกิน 21 ปี สามารถมีกัญชาไว้ในครอบครองได้ไม่เกิน 1 ออนซ์ และต้องมีจุดประสงค์เพื่อการบริโภคส่วนบุคคลเท่านั้น การรวมกลุ่มเพื่อสูบและแบ่งปันกัญชา การขับขี่พาหนะขณะสูบหรือเมากัญชา หรือการสูบกัญชาในที่สาธารณะ ยังถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย นอกจากนี้ การสูบกัญชาในสถานที่ที่ประกาศเป็นเขตปลอดแอลกอฮอล์ หรือไม่จำหน่ายเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ ถือเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายของรัฐวอชิงตันเช่นกัน

ด้านหน่วยงานด้านการคลังของรัฐวอชิงตันเตรียมวางนโยบายเพิ่มการเก็บภาษีผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายกัญชาอย่างถูกกฎหมาย ที่คาดว่าจะนำไปสู่นโยบายควบคุมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในอนาคต

ทั้งนี้ รัฐออริกอน ซึ่งเป็นรัฐเพื่อนบ้านของรัฐวอชิงตัน ได้จัดให้มีการลงประชามติในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน แต่ผลคะแนนที่ออกมาปรากฏว่า ประชาชนร้อยละ 55 ไม่เห็นด้วย