ข่าว
เลขาฯวุฒิสภา แจ้ง ส.ว.ยกเลิกประชุม 15-16 ธ.ค.นี้ หลังมีพระราชกฤษฎีกายุบสภา...

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางปัณณิตา สท้านไตรภพ เลขาธิการวุฒิสภา ได้ออกหนังสือด่วนมากที่ สว 0007/(ว 2) ถึงสมาชิกวุฒิสภา เรื่องยกเลิกการประชุมวุฒิสภา พร้อมแนบสําเนาพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2568 โดยระบุว่า ตามหนังสือที่อ้างถึงประธานวุฒิสภาได้มีคําสั่งให้นัดประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจําปี ครั้งที่สอง) วันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม 2568 และครั้งที่ 2 (สมัยสามัญประจําปี ครั้งที่สอง) วันอังคารที่ 16 ธันวาคม 2568 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมวุฒิสภาอาคารรัฐสภา ชั้น 2 ถนนสามเสน แขวงถนน นครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร นั้น

เนื่องจากได้มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2568 วันที่ 12 ธันวาคม 2568 จึงส่งผลให้ในระหว่างที่ไม่มีสภาผู้แทนราษฎร ด้วยเหตุสภาผู้แทนราษฎรถูกยุบ จะมีการประชุมวุฒิสภามิได้ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 126 ดังนั้น จึงไม่มีการประชุมวุฒิสภาในวันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม2568 และวันอังคารที่ 16 ธันวาคม 2568 ด้วยเหตุดังที่กล่าวมาข้างต้น จึงขอยกเลิกการนัดประชุมวุฒิสภาทั้ง 2 ครั้งดังกล่าว...

ชุมชนไทยในแอลเอบริจาค 1,359,000 บาท สมทบกองทุนช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2568 เวลา 11.00 น. นายสมใจนึก เองตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย นายตัน พัฒนะ กรรมการบอร์ดวัดไทยแอลเอ และ นางจีน่า ปรีชา ประธานสภาสตรีไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้ ได้เป็นตัวแทนชุมชนไทยในแอลเอ นำเงินที่ได้รับบริจาคจากการจัดงาน “ซับน้ำตาชาวใต้" เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม 2568 ที่วัดไทยแอลเอ เมืองนอร์ธฮอลลีวูด รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวน 1,359,000 บาท(หนึ่งล้านสามแสนห้าหมื่นเก้าพันบาท) ไปมอบให้กับมูลนิธิโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ที่สำนักงานของมูลนิธิ เลขที่ 15 ถ.กาญจนวณิชย์ ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110 เพื่อสมทบกองทุนช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ โดยมี รศ.พญ.สุมิตรา ประเทพ รองคณบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ ประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ได้เป็นตัวแทนมารับมอบเงิน พร้อมกล่าวขอบคุณในน้ำใจของชุมชนไทยในแอลเอที่ได้ร่วมกันจัดงานหาเงินส่งมาช่วยผู้ประสบภัยชาวหาดใหญ่ สงขลา และชาวใต้อีกหลายจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งใหญ่

ทั้งนี้วัดไทยแอลเอ ร่วมกับชุมชนไทยในนครลอส แอนเจลิส ได้จัดงาน “ซับน้ำตาชาวใต้" เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม 2568 เวลา 12.30 น. -16.00 น. ณ บริเวณเวทีด้านตลาดอาหารวัดไทยเพื่อชุมชน มีผู้นำชุมชน และผู้แทนสมาคม ชมรมต่างๆ ได้ร่วมกันรวบรวมเงินนำมาบริจาคที่งาน โดย ท่านเจ้าคุณเริ่ม พระวิเทศกิตติคุณ ครูใหญ่และกรรมการบอร์ดวัดไทย เป็นผู้รับมอบเงิน นางศรีวงศ์ อาญาสิทธิ ประธานบอร์ดไทยนิวเยียร์ และ นายคิด ฉัตรประภาชัย นายกสมาคมไทยอเมริกันแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้ เป็นประธานกล่าวเปิดงาน

ในงานมีประชาชนชาวไทยที่มาทานอาหารและมาไหว้พระ ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบริเวณวัดไทยฯได้มาร่วมบริจาคเงินตามกำลังศรัทธาตลอดช่วงเวลาที่จัดงาน รวมทั้งมีการแสดงนาฏศิลป์และดนตรีไทยเพิ่มสีสันและความสนุกสนานให้กับงานโดยคณะครูอาสาฯ และเด็กนักเรียนวัดไทยฯ รุ่นต่างๆ นอกจากนี้ยังมีศิลปินไทย และจิตอาสา นำรูปวาด และงานฝีมือ มาจำหน่ายในงานเพื่อนำรายได้มอบบริจาคช่วยซับชาวใต้ อีกด้วย

หลังเสร็จงาน คณะทำงานได้รวบรวมเงินบริจาคจากชาวไทยในแอลเอส่งไปซับน้ำตาพี่น้องชาวใต้ ที่เมืองไทยได้เป็นจำนวนทั้งสิ้น $42,499.00 แลกเป็นเงินไทยได้ 1,359,000 บาท

สำหรับรายนามผู้บริจาคในงาน“ซับน้ำตาชาวใต้” ประกอบด้วย วัดไทยแอลเอ $10,000 องค์กรไทยนิวเยียร์สงกรานต์เฟสติวัล $300 สมาคมไทยปักษ์ใต้ $3,000 สมาคมล้านนาไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้ $500 โรตารี่คลับไทยทาวน์$500 สภาไทยทาวน์ ลอสแอนเจลิส $2,000 สมาคมนวดไทยและสปาแห่งสหรัฐอเมริกา $2,160

สภาหอการค้าไทยอเมริกันแห่งแคลิฟอร์เนีย$500 สมาคมอีสานแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้ $200 สมาคมพยาบาลไทยแห่งแคลิฟอร์เนีย $1,450 สภาสตรีไทยแห่งแคลิฟอเนียร์ภาคใต้ $909 สมาคมไทยอเมริกันแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้ $7,210

สมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แห่งแคลิฟอร์เนียฯ $500 สมาคมศิษย์เก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยฯ $1,000 มูลนิธิธารน้ำใจแห่งสหรัฐอเมริกา และคณะวิทันตสาสมาธิวัดไทยแอลเอ $1,008 โครงการฝันเป็นจริง $200 สมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ฯ $300 ยอดบริจาคผ่าน Zelle และยอดบริจาคจากกล่องรับบริจาค $10,762 รวมยอดเงินบริจาคช่วยซับน้ำตาชาวใต้จากชุมชนไทยในแอลเอได้เป็นจำนวนทั้งสิ้น $42,499 แลกเป็นเงินไทย 1,359,000 บาท


สื่อนอกเผยทรัมป์ยันโทรแน่ กำลังจัดเวลาโทรหาไทยและกัมพูชายุติความขัดแย้ง

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน โดนัลด์ ทรัมป์เตรียมโทรศัพท์สายสำคัญถึงผู้นำไทยและกัมพูชา หวังยุติความขัดแย้งชายแดนและยุติการสู้รบระหว่างสองประเทศ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่าเขากำลัง เตรียมจัดการโทรศัพท์สายสำคัญกับผู้นำของทั้งไทยและกัมพูชา เพื่อหารือเกี่ยวกับ ความขัดแย้งที่เพิ่มความตึงเครียดระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในวันพฤหัสบดีตามเวลาในท้องถิ่น แต่ไม่ได้ระบุเวลาแน่ชัด

โดยทรัมป์กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่าเขาเชื่อว่า สามารถช่วยให้ทั้งสองฝ่ายยุติการสู้รบได้ และแสดงท่าทีมุ่งหวังว่าจะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ที่กลับมาปะทุขึ้นตามแนวชายแดนอีกครั้งในรอบหลายสัปดาห์

ความพยายามนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ ความขัดแย้งชายแดนไทย–กัมพูชากลับมารุนแรงอีกครั้ง โดยมีรายงานการปะทะกันหลายจุดตามแนวพรมแดนยาวกว่า 800 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นการสู้รบที่เข้มข้นที่สุดนับตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ก่อนที่การหยุดยิงในช่วงกลางปีจะค่อนข้างเปราะบาง

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยมีบทบาทในการเป็น สื่อกลางช่วยรื้อฟื้นการหยุดยิงระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยในเดือนตุลาคมเขาเคยเข้าร่วมลงนามในข้อตกลงหยุดยิงในกรุงกัวลาลัมเปอร์ อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดยังคงกลับมาปะทุใหม่ในเดือนธันวาคมนี้

การต่อสายพูดคุยครั้งนี้ถูกจับตาในระดับภูมิภาค เพราะถือเป็นความพยายามของสหรัฐฯ ในการส่งเสริมการเจรจาทางการทูตและลดความตึงเครียดที่เป็นอันตรายต่อเสถียรภาพของอาเซียนและภูมิภาคโดยรวม.

ที่มา :รอยเตอร์


ด่วน เกิดแผ่นดินไหว 6.7 เขย่านอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น เตือนสึนามิชายฝั่งแปซิฟิก

ญี่ปุ่นออกประกาศเตือนสึนามิหลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงใกล้ฮอกไกโด–โทโฮคุ แรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ในหลายเมืองติดชายฝั่ง

วันที่ 12 ธันวาคม 2568 สำนักข่าว NHK รายงานอ้างประกาศของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) ที่ระบุว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.7 บริเวณนอกชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ใกล้พื้นที่ ฮอกไกโด และ โทโฮคุ ทำให้มีการออกคำเตือนสึนามิครอบคลุมชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือ

รายงานข่าวระบุว่า แรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ในหลายเมืองติดชายฝั่ง แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายรุนแรงหรือผู้บาดเจ็บในทันที ขณะที่หน่วยงานท้องถิ่นแจ้งประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้อพยพไปยังบริเวณที่สูงกว่า และติดตามประกาศอย่างใกล้ชิด

ทางการญี่ปุ่นยังคงประเมินสถานการณ์คลื่นสึนามิและความเสียหายจากแรงสั่นสะเทือน โดยจะรายงานความคืบหน้าเพิ่มเติมต่อไป.

ที่มา NHK

ด่วน! ราชกิจจาฯ ประกาศยุบสภา เตรียมเดินหน้าเลือกตั้งใหม่ ไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน...

วันที่ 12 ธ.ค.2568 เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกฤษฎีกายุบสภา พ.ศ.2568 ระบุว่าพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่าด้วยนายกรัฐมนตรีได้นำความกราบบังคมทูลฯ สมควรยุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไป...

รัฐบาลได้เร่งดำเนินการทุกวิถีทางในการบริหารราชการแผ่นดินให้สามารถแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของประเทศที่รุมเร้าให้สำเร็จลุล่วงโดยเร็ว รวมทั้งมุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยและ สันติสุขให้เกิดขึ้นกับชาติบ้านเมือง อันจะนำพาการเมืองการปกครองของประเทศให้ก้าวหน้าเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน อาทิ การผลักดันการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ การเร่งแก้ไขปัญหา

ผลกระทบจากสงครามการค้า การขับเคลื่อนนโยบายด้านเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนและชุมชนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ การช่วยเหลือเยียวยาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ การป้องกันและปราบปรามบ่อนการพนัน การพนันออนไลน์ อาชญากรรมข้ามชาติภัยไซเบอร์ และการหลอกลวงประชาชนในรูปแบบต่าง ๆ

การเร่งแก้ไขปัญหากรณีพิพาทระหว่างไทยและกัมพูชาผ่านกลไกการเจรจาทางการทูตที่เหมาะสมควบคู่กับการป้องกันประเทศที่เข้มแข็งรวมทั้งกำหนดมาตรการในการดำเนินการเพื่อรองรับและลดผลกระทบในด้านต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับประชาชน...

แต่การบริหารราชการแผ่นดินจำเป็นต้องมีเสถียรภาพ อย่างไรก็ตาม โดยที่รัฐบาลเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศที่มีปัญหารุมเร้าในหลาย ๆ ด้าน ส่งผลให้รัฐบาลไม่อาจบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ และมีเสถียรภาพหากปล่อยให้สภาวการณ์เป็นอยู่เช่นนี้ย่อมจะเกิดความไม่มั่นคงทางการเมืองและกระทบต่อความเชื่อมั่นของนานาประเทศ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ

อันจะนำมาซึ่งความเสื่อมศรัทธาของประชาชนต่อระบบรัฐสภาและการปกครองในระบอบประชาธิปไตยในที่สุดทางออกที่เหมาะสมคือการยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไป อันเป็นการคืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองให้แก่ประชาชนเจ้าของอำนาจสูงสุดโดยเร็ว

เพื่อให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และให้ได้มาซึ่งรัฐบาลที่มีเสียงข้างมากและมีเสถียรภาพที่ได้รับอาณัติที่ชอบธรรมจากประชาชนเพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปโดยราบรื่นและเรียบร้อยสืบไป

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา๑๐๓ และมาตรา๑๗๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๘”มาตรา

๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไปมาตรา

๓ ให้ยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่

เป็นการเลือกตั้งทั่วไป...

มาตรา ๔ ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปในวันที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศกำหนดซึ่งต้องไม่น้อยกว่าสี่สิบห้าวันแต่ไม่เกินหกสิบวันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ

มาตรา ๕ ให้ประธานกรรมการการเลือกตั้งรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี..

. อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_10056233