ข่าว
เกาหลีเหนือโว เพิ่งโชว์ยิงขีปนาวุธรุ่นใหม่ ติดหัวรบนิวเคลียร์หนักๆ ได้สบาย

เกาหลีเหนือออกแถลงการณ์ อ้างขีปนาวุธ 2 ลูกที่ถูกยิงทดสอบตกทะเลญี่ปุ่น เป็นขีปนาวุธรุ่นล่าสุด ที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ น้ำหนัก 2.5 ตัน ขณะที่ รบ.สหรัฐฯ ประณามทำลายเสถียรภาพในภูมิภาค

26 มี.ค. 64 : สำนักข่าวรอยเตอร์ และบีบีซี รายงานทางการเกาหลีเหนือออกแถลงการณ์เป็นครั้งแรก หลังจากทดสอบยิงขีปนาวุธนำวิถี 2 ลูกตกในบริเวณทะเลญี่ปุ่น เมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา ข่มขวัญประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นการส่งสัญญาณกร้าวครั้งแรกต่อประธานาธิบดีโจ ไบเดน หลังเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ว่า ขีปนาวุธทั้งสองลูกนี้ เป็นขีปนาวุธนำวิถีชนิดใหม่ล่าสุด โดยถูกยิงโจมตีเป้าหมายที่อยู่นอกชายฝั่งทางตะวันออกของเกาหลีเหนือในระยะ 600 กิโลเมตร

‘การพัฒนาระบบขีปนาวุธมีความสำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมอำนาจทางทหารของประเทศ และเป็นการป้องกันภัยคุกคามทางทหารทุกประเภทด้วย’ รี จอง ชอล หนึ่งในคณะผู้นำอาวุโสของเกาหลีเหนือ ซึ่งมาชมการทดสอบยิงขีปนาวุธรุ่นใหม่กล่าว ในขณะที่ คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือไม่ได้มาชมการยิงขีปนาวุธในครั้งนี้

ตามรายงานของทางการกรุงเปียงยาง ระบุว่า ขีปนาวุธรุ่นใหม่ที่ถูกยิงทดสอบ 2 ลูกนี้ สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ น้ำหนักถึง 2.5 ตัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ยังไม่แน่ชัดว่า ขีปนาวุธรุ่นใหม่ของเกาหลีเหนือนี้เป็นรุ่นใดกันแน่ โดยเจฟฟรีย์ ลูอิส จากศูนย์ศึกษาเจมส์ มาร์ติน ด้านการไม่แพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ วิเคราะห์ว่า ขีปนาวุธล่าสุดนี้มีความคล้ายคลึงกับขีปนาวุธที่กองทัพเกาหลีเหนือนำมาโชว์ในขบวนพาเหรดที่กรุงเปียงยาง เมื่อ ต.ค. 63 ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง นี่คือขีปนาวุธที่ถูกพัฒนาจากขีปนาวุธรุ่นก่อน KN-23 ที่สามารถติดหัวรบขนาดใหญ่มากได้

ด้าน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ประณามเกาหลีเหนือที่ทดสอบยิงขีปนาวุธนำวิถีในสัปดาห์นี้ว่า เป็นการทำลายเสถียรภาพในภูมิภาค และยังเป็นการละเมิดข้อตกลงของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ พร้อมทั้งยังถือเป็นการข่มขู่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคและประชาคมโลก

พูดคุยปัญหาต่างๆ ของชุมชนไทย

เมื่อวันพุธที่ 24 มีนาคม 2021 คุณแสงทอง แสงแก้ว นายกสมาคมนวดไทยฯ คุณคิด ฉัตรประภาชัย ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมนวดไทยฯ กงสุลชัชวาล หรยางกูร (กงสุลต้น) กงสุลพีร์ภากรณ์ เนียมใย (กงสุลสุ) คุณวรินทร์ทิพย์ แจ้งดี นายกสมาคมไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้ ได้เข้าพบ Senior Officer Danny Chao, LAPD

Office of the Chief of Police เพื่อพูดคุยปัญหาต่างๆ ของชุมชนไทย พร้อมร่วมรับประทานอาหารกลางวัน

และในโอกาสนี้ Senior Officer Danny Chao, LAPD Office of the Chief of Police ได้มอบใบประกาศเกียรติคุณให้กับคุณคิด ฉัตรประภาชัย ในฐานะที่ได้ช่วยเหลืองาน LAPD และชุมชนไทยมาโดยตลอดเป็นระยะเวลานาน ขอแสดงความยินดีกับคุณคิด ฉัตรประภาชัย ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมนวดไทยฯ มา ณ โอกาสนี้ด้วย

ประชาสัมพันธ์สมาคมนวดไทยและสปาแห่งสหรัฐอเมริกา Apimon สมาคมนวดได้สอบถามปัญหา ต่างๆ ดังนี้

1. กฎการห้ามล็อกประตูร้านในสถานการณ์ตอนนี้ขอให้อะลุ้มอล่วยอย่าเข้มงวดบังคับใช้ คุณ Danny เข้าใจปัญหาและได้รับไปพิจารณา

2. Independent Contractor เช่าห้องนวด ขอ Massage Establishmend ด้วยหรือไม่ และอย่างไร คุณ Danny จะขอส่งคำถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

3. การร่วมมือกับตำรวจปัญหา Human Trafficking ช่วยกันสอดส่องหากพบพฤติกรรมร้านนวดที่นวดแอบแฝง สามารถแจ้งออนไลน์แบบผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม ซึ่งระบบจะไม่ถามรายละเอียดผู้แจ้ง โดยแจ้งได้ที่

https://www.sdcrimestoppers.org/anonymous-tip หรือโทรไปที่ https://www.lapdonline.org/report_a_crime

4. ปัญหา Homeless ที่ตั้งเต็นท์บนทางเท้าหน้าร้าน/ธุรกิจ เป็นปัญหาที่แก้ไขยากเพราะตอนนี้มีองค์กรที่เป็นทนายเข้ามาส่งเสริมและคอยช่วยเหลือ Homeless ในการห้องเรียกค่าเสียหายหากถูกตำรวจไล่ที่หรือทิ้งข้าวของที่Homeless เก็บไว้ และมีข้อจำกัดทางกฎหมายในการจัดระเบียบ Homeless

5. ร้านที่เคยขอนวดนอกร้าน ยังสามารถนวดนอกร้านต่อไปอีกเพราะลูกค้าบางคนยังไม่กล้านวดในร้านหรือต้องนวดเฉพาะในร้าน คุณ Danny บอกว่าก็น่าจะสามารถใช้ต่อได้ แต่อย่างไรก็ตามจะส่งคำถามไปที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ตอบโดยตรงจะดีกว่า มีคำถามอะไรส่งไปให้เขาได้เลย


เรือยักษ์ขวางคลองสุเอซวันที่ 3 ผู้เชี่ยวชาญกู้เรือเนเธอร์แลนด์บินให้คำปรึกษา

ความพยายามกู้เรือสินค้าขนาดใหญ่ที่แล่นมาขวางคลองสุเอซยังดำเนินต่อไป ทีมผู้เชี่ยวชาญจากเนเธอร์แลนด์บินช่วยแก้ปัญหา คาดว่าอาจใช้เวลานานหลายสัปดาห์

เมื่อวันที่ 26 มี.ค. เว็บไซต์ข่าว BBC รายงานว่า หน่วยงานดูแลคลองสุเอซ (Suez Canal Authority-SCA) ออกแถลงการณ์ที่ระบุว่า อาจต้องใช้เวลาหลายวัน หรืออาจจะหลายสัปดาห์ในการกู้เรือ “Ever Given” เรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่น้ำหนักกว่า 224,000 ตัน ที่เสียหลักเกยตื้นขวางคลองสุเอซตั้งแต่เมื่อวันอังคาร 23 มี.ค.ที่ผ่านมา จนทำให้เรือลำอื่นๆ ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ล่าสุดทาง SCA สั่งระงับการเดินเรือผ่านคลองสุเอซแล้วจนกว่าจะสามารถกู้เรือได้สำเร็จ ส่งผลให้เรือสินค้าที่รอใช้เส้นทางกว่า 160 ลำ ต้องตัดสินใจเปลี่ยนไปใช้เส้นทางอื่นแล้ว

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการกู้เรือจากบริษัท Royal Boskalis Westminster N.V. ของเนเธอร์แลนด์ได้บินมาให้คำปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของอียิปต์ เพื่อหาวิธีแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยทาง SCA เสนอว่าให้ทำการขุดใต้เรือบริเวณรอบๆ แต่ผู้เชี่ยวชาญของเนเธอร์แลนด์แย้งว่า เรือลำนี้มีน้ำหนักมากไม่ต่างจากวาฬเกยตื้น พร้อมระบุว่า อาจต้องใช้วิธีการถ่ายน้ำหนักออกจากเรือ โดยจะต้องถ่ายน้ำมันหรือลำ เลียงตู้สินค้าออกมาเพื่อให้เรือมีน้ำหนักเบา และลอยขึ้นมา แต่กระบวนการนี้คาดว่าต้องใช้เวลาหลายวัน

ทั้งนี้ เรือสินค้า Ever Given ถูกต่อขึ้นในปี 2561 และดำเนินกิจการโดยบริษัท Evergreen Marine ในไต้หวัน ประสบเหตุขวางคลองสุเอซ ขณะกำลังมุ่งหน้าขึ้นเหนือ เพื่อไปยังท่าเรือเมืองรอตเตอร์ดัม ในเนเธอร์แลนด์ หลังเดินทางมาจากจีน

ที่มา: BBC


สหรัฐฯ อังกฤษ ‘คว่ำบาตร’ 2 กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่กองทัพพม่า ตายทะลุ 300

รัฐบาลสหรัฐฯ และอังกฤษ ประกาศคว่ำบาตร 2 กลุ่มบริษัทในเครือยักษ์ใหญ่ของกองทัพพม่าแล้ว หวังสกัดเงินสนับสนุนกองทัพใช้ความรุนแรงปราบผู้ชุมนุมต้านรัฐประหาร ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตทะลุ 300

เมื่อ 26 มี.ค. 64 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน รัฐบาลสหรัฐฯ และอังกฤษกดดันรัฐบาลทหารเมียนมาคืนประชาธิปไตยให้ประชาชน หลังก่อรัฐประหารตั้งแต่ 1 ก.พ. 64 โดยกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประกาศขึ้นบัญชีดำ หรือแบล็กลิสต์ บริษัทเครือข่ายยักษ์ใหญ่ 2 บริษัท ที่ครอบครองโดยกองทัพเมียนมา หรือ ‘ตั๊ดมาดอว์’ แล้ว ทั้งบริษัท Myanmar Economic Holding Company Limited และบริษัท Myanmar Economic Corporation Limited ซึ่งประกอบธุรกิจหลากหลายและมีบริษัทในเครือกว่า 100 บริษัท

นายแอนโทนีย์ บลินเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า “มาตรการคว่ำบาตรของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ 2 บริษัทของเมียนมานี้มีเป้าหมายไปที่คณะผู้นำทหารซึ่งก่อรัฐประหาร รวมทั้งผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของกองทัพ และกระแสเงินทุนที่สนับสนุนการปราบปรามผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารอย่างโหดร้ายของกองทัพพม่า โดยพวกเขาไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ประชาชนของพม่า”

การเคลื่อนไหวครั้งนี้มีการประสานงานระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ กับอังกฤษ อดีตชาติเจ้าอาณานิคมของเมียนมา โดยมุ่งเป้าไปที่บริษัท Myanmar Economic Holding Company Limited และบริษัท Myanmar Economic Corporation Limited โดยนายโดมินิค ราบ รมว.ต่างประเทศอังกฤษ กล่าวว่า มาตรการคว่ำบาตรต่อ 2 บริษัทในเครือยักษ์ใหญ่ของกองทัพเมียนมาจะช่วยในการลดแหล่งเงินทุนของกองทัพเมียนมาในการปราบปรามประชาชนอย่างโหดเหี้ยม

รอยเตอร์แจ้งด้วยว่า ก่อนหน้านี้รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรแบบรายบุคคลต่อคณะผู้ นำกองทัพเมียนมา นำโดย พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ที่ก่อรัฐประหาร และก่อนหน้านี้ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ได้ติดแบล็กลิสต์ในข้อหาละเมิดสิทธิมนุษยชนแล้ว ในขณะที่สหภาพยุโรปประกาศคว่ำบาตร คณะผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาเป็นรายบุคคล จำนวน 11 คน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และคาดว่าจะคว่ำบาตร กลุ่มบริษัทในเครือยักษ์ใหญ่ของกองทัพเมียนมาเร็วๆ นี้

ด้านสมาคมช่วยเหลือนักโทษทางการเมือง (AAPP) ซึ่งเป็นกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า มีผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารในเมียนมาเสียชีวิตจากการถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงปราบปรามด้วยความรุนแรง เพิ่มเป็นอย่างน้อย 320 ศพแล้ว


บราซิลติดเชื้อโควิดพุ่ง วันเดียวทะลุ 100,000 ราย

ยอดติดเชื้อโควิด-19 ในบราซิล วันเดียวพุ่งทะลุกว่า 100,000 คน สร้างกระแสกดดันทางการเมืองไปยังตัวผู้นำ ที่ไม่สามารถรับมือกับโรคระบาดได้ดีพอ

26 มี.ค. 2564 : กระทรวงสาธารณสุขของบราซิล แถลงตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นมาถึง 100,158 คน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นมาอีก 2,777 ศพ หลังจากที่ยอดเสียชีวิตสะสมจากโควิด-19 ในบราซิลเพิ่งทะลุ 300,000 ศพเมื่อวานนี้ ทำให้บราซิลยังคงเป็นชาติที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐฯ

โดยการระบาดที่เพิ่มสูงขึ้นทำสถิติครั้งนี้ เกิดจากการฉีดวัคซีนที่ยังคงไม่กระจายอย่างทั่วถึง การขาดการประสานความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ รวมทั้งการระบาดของเชื้อที่กลายพันธุ์ ขณะเดียวกันก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อตัวประธานาธิบดี ฌาอีร์ โบลโซนารู ที่ไม่สามารถรับมือกับการระบาดได้

ทั้งไม่ยอมให้ล็อกดาวน์ ไม่ส่งเสริมการสวมหน้ากาก และยังไม่แสดงความเชื่อมั่นต่อประสิทธิภาพของวัคซีน นอกจากนี้ นายโบลโซนารูยังถูกกดดันให้มีการเปลี่ยนตัวนายเออร์เนสโต อาราอูโจ รัฐมนตรีต่างประเทศบราซิล หลังจากล้มเหลวในการรับมือกับโควิด-19 ด้วยเช่นกัน

ปัจจุบันบราซิลมีสัดส่วนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 อยู่ที่ผู้ป่วย 144 รายต่อประชาชน 100,000 คน และสัดส่วนผู้ป่วยใหม่อยู่ที่ผู้ป่วย 5,863 รายต่อประชาชน 100,000 คน

นอกจากนั้นบราซิลฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ประชาชนราว 17.8 ล้านคน เมื่อนับถึงวันพุธ (24 มี.ค.) โดยแบ่งเป็นผู้รับวัคซีนโดสแรก 13.38 ล้านคน และผู้รับวัคซีนครบสองโดส 4.41 ล้านคน

ที่มา : รอยเตอร์

มูลนิธิ Angels Wings จัดงานแถลงข่าวโครงการมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนเชื้อสายไทยประจำปี 2021 ทั่วสหรัฐฯ

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2021 นางภรณ์ทิพย์ ไซมอน ผู้ก่อตั้งและประธานมูลนิธิ Angels Wings จัดงานแถลงข่าวการดำเนินโครงการมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนเชื้อสายไทยประจำปี 2021 ผ่านการประชุมออนไลน์ระบบ Zoom โดยมีกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแองเจลิส กงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก กงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก และอัครราชทูตที่ปรึกษาสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน พร้อมทั้งสื่อมวลชนและผู้แทนชุมชนไทยในสหรัฐฯ เข้าร่วม

นางภรณ์ทิพย์ฯ ได้แจ้งการดำเนินโครงการมอบทุนการศึกษาของมูลนิธิ Angels Wings ประจำปี 2021 และกล่าวย้ำถึงความสำคัญของการศึกษาว่า เป็นรากฐานสำคัญในการสร้างและเปลี่ยนแปลงอนาคต และเชื่อมั่นนว่าจะสามารถส่งเสริมให้เยาวชนไทยได้รับโอกาสในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นผ่านโครงการมอบทุนการศึกษาของมูลนิธิฯ และในปีนี้ มูลนิธิฯ จะเริ่มดำเนินโครงการมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยด้วย โอกาสนี้ นางภรณ์ทิพย์ฯ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับกงสุลใหญ่และผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตฯ เกี่ยวกับชุมชนไทยในสหรัฐฯ และแนวทางการให้ทุนการศึกษาด้วย

มูลนิธิ Angels Wings เริ่มโครงการมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนเชื้อสายไทย ตั้งแต่ปี 2017 โดยมีจุดประสงค์ในการดำเนินโครงการเพื่อส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาระดับสูงให้แก่นักเรียนเชื้อสายไทย-อเมริกันที่มีผลการเรียนดีและมีความมุ่งมั่น ตลอดจนเสริมสร้างเครือข่ายเยาวชนไทยในสหรัฐฯ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนไทยในสหรัฐฯ ต่อไป โดยในปี 2017 มูลนิธิฯ ได้มอบทุนการศึกษาจำนวน 26 ทุน ให้แก่นักเรียนไทยที่อาศัยอยู่ในเขตนครลอสแอนเจลิส ต่อมา ในปี 2018 ได้เพิ่มทุนการศึกษาเป็น 31 ทุน รวมทั้งขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังนักเรียนไทยที่อาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย และในปี 2019 มูลนิธิฯ ได้เพิ่มทุนการศึกษาเป็น 41 ทุน และขยายกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุม 4 รัฐ ในเขตตะวันตกของสหรัฐฯ จนล่าสุดในปี 2020 มูลนิธิฯ ได้ขยายกลุ่มเป้าหมายผู้รับทุนเป็นทั่วประเทศสหรัฐฯ และได้เพิ่มจำนวนทุนการศึกษาเป็น 52 ทุน

นักเรียนเชื้อสายไทยในสหรัฐฯ ผู้มีสิทธิสมัครขอรับทุนการศึกษาจะต้องเป็นผู้เรียนอยู่ระดับมัธยมปลายปีสุดท้ายที่มีผลการเรียนดี เกรดเฉลี่ยสะสม (GPA) ไม่ต่ำกว่า 3.00 และกำลังจะเข้าเรียนในระดับวิทยาลัย (college) หรือระดับมหาวิทยาลัย (University) ในสหรัฐฯ ในปีการศึกษา 2021-2022 รวมทั้งสามารถแสดงให้เห็นถึงปณิธานอันตั้งมั่นผ่านการเขียนเรียงความยาว 500-1,000 คำ นักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับทุนการศึกษาจำนวน 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ระดับวิทยาลัย) และ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ระดับมหาวิทยาลัย)

นักเรียนที่สนใจสมัครเพื่อขอรับทุนการศึกษาสามารถดูรายละเอียดคุณสมบัติ เอกสารที่ต้องใช้ในการสมัคร และยื่นเอกสารการสมัครได้ที่เว็บไซต์ของมูลนิธิฯ สำหรับนักเรียนเชื้อสายไทยในสหรัฐฯhttps://www.angelswingsfoundation.org/angels-wings-thai-scholarship2021

สำหรับนักเรียนไทยในประเทศไทย https://www.angelswingsfoundation.org/