ข่าว
แฮร์รี่-เมแกน เข้าเฝ้าฯ ควีนเอลิซาเบธครั้งแรก นับตั้งแต่อำลาราชวงศ์

เจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน ได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรเป็นครั้งแรก ระหว่างเสด็จเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬา The Invictus Games ที่เนเธอร์แลนด์

โฆษกของดยุค และดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ยืนยันต่อสำนักข่าวบีบีซี ว่าเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกนได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่พระราชวังวินด์เซอร์เป็นครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาตามเวลาในท้องถิ่น หลังตัดสินใจถอนตัวจากการเป็นสมาชิกราชวงศ์ชั้นสูงของราชวงศ์อังกฤษตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2020 โดยไม่มีพระโอรสอาร์ชี และพระธิดาลิลีเบ็ต ร่วมเสด็จด้วย

หลังจากเมื่อเดือนที่แล้วเจ้าชายแฮร์รี่และพระชายาไม่ได้เสด็จเข้าร่วมพิธีรำลึกเจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินบะระ เนื่องจากตกลงกับทางการอังกฤษไม่ได้ในประเด็นเรื่องการอารักขาความปลอดภัย ขณะเดียวกันหนังสือพิมพ์เดอะซันยังรายงานว่า เจ้าชายแฮร์รี่ และดัชเชสเมแกน ยังได้เข้าเฝ้าฯ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พระบิดาในโอกาสนี้ด้วย

ทั้งนี้ บีบีซีระบุว่า ควีนเอลิซาเบธที่ 2 พระชนมายุ 95 พรรษา ไม่ได้เข้าร่วมพิธีกรรมในโบสถ์ช่วงเช้าวันพฤหัสบดี เนื่องในวันอีสเตอร์ในปีนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1970 เนื่องจากทรงติดเชื้อโควิด-19 เมื่อเดือนที่ผ่านมาแล้ว และยังทรงมีปัญหาการเคลื่อนไหวไม่สะดวก และยังมีงานอีเวนต์อีกหลายงานที่พระองค์ทรงยกเลิกไปร่วมงาน รวมทั้งงานคอมมอนเวลท์ประจำปีอีกด้วย

การเดินทางไปเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในครั้งนี้ มีขึ้นในระหว่างที่ดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ทรงเดินทางไปร่วมการแข่งขันกีฬา The Invictus Games ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ในฐานะที่เจ้าชายแฮร์รี่ทรงริเริ่มการแข่งขันกีฬานี้เพื่อเหล่าทหารผ่านศึก ซึ่งมีกำหนดจัดแข่งขันระหว่างวันที่ 16-22 เมษายน โดยคาดว่าจะมีทีมงานจากเน็ตฟลิกซ์เดินทางไปร่วมถ่ายทำซีรีส์ที่ชื่อว่า ฮาร์ท ออฟ อินวิคตัส ในงานนี้ด้วย (Heart Of Invictus)

ที่มา :บีบีซี

เทศกาลดนตรีโคเชลลา จัดครั้งแรกในรอบ 3 ปี คาดเข้าร่วมนับแสนคนต่อวัน

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เทศกาลดนตรีโคเชลลา จะจัดขึ้นอีกครั้งในวันที่ 15 เมษายนนี้ ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2019 โดยคาดว่า จะมีผู้เข้าร่วมงานจากทั่วโลกราว 125,000 คนต่อวัน ท่ามกลางจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้น

งานเทศกาลดนตรีนี้จะจัดขึ้นเป็นเวลา 6 วันในช่วงสุดสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 15-17 และ 22-24 เมษายน ภายในงานมีการแสดงของศิลปินชื่อดังระดับโลกมากมาย เช่น บิลลี ไอลิช, แฮรี่ สไตล์ส, เดอะ วีคเอนด์, โดจา แคท และอีกมากมาย

เมื่อปีก่อนมีการจัดงานเทศกาลดนตรีขนาดใหญ่อย่างงานลอลลาปาลูซา ซึ่งต้องใช้หลักฐานการฉีดวัคซีนหรือผลการตรวจโควิด-19 ที่เป็นลบ แต่งานโคเชลลาประกาศว่า จะไม่ใช้มาตรการป้องกันโควิดใดๆ รวมถึงการสวมแมสก์และการเว้นระยะห่าง

นายโจเซ อาร์เบโล เจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายข้อมูลสาธารณะของหน่วยสาธารณสุขริเวอร์ไซด์เคาน์ตี้ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานโคเชลลา กล่าวว่าจะมีจุดตรวจหาเชื้อ 2 แห่งบริเวณใกล้กับงาน และหวังว่าคนจะฉีดวัคซีนกันเยอะและจะสวมแมสก์กันเยอะ

ทั้งนี้เทศกาลดนตรีโคเชลลาถูกยกเลิกไปเมื่อปี 2020 เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรง และการกลับมาจัดงานในครั้งนี้คาดว่าจะเป็นตัวกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ซบเซาจากโควิด-19


พลเมืองยูเครนดับเกือบ 2,000 ศพ เซ่นพิษสงคราม รัสเซียยังถล่มต่อเนื่อง

15 เม.ย. 65 : สำนักข่าวเอ็นเอชเค รานงานว่า สหประชาชาติยืนยันว่ามีพลเมืองยูเครนเสียชีวิตจากสงครามไปแล้วถึง 1,964 ศพ นับตังแต่รัสเซียได้รุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 65 ที่ผ่านมา ในจำนวนนี้ 161 ศพเป็นเด็กเล็ก และผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ถูกพบที่กรุงเคียฟ, เมืองคาคิฟ, เชอร์นิฮิฟ และเคอร์สัน ส่วนภูมิภาคโดเนสต์และลูฮันสก์ พบผู้เสียชีวิตราว 703 ศพ นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 2,600 ราย ส่วนใหญ่โดนลูกหลงจากระเบิด, ขีปนาวุธ และการโจมตีทางอากาศ

ด้านยูเอ็นคาดว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตที่แท้จริงนั้นสูงกว่าที่รายงาน เนื่องจากยังไม่ได้รับข้อมูลจากเมืองมาริอูโปล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ถูกฝ่ายรัสเซียถล่มอย่างหนักต่อเนื่อง และมีพลเมืองติดอยู่ภายในกว่า 100,000 ราย นอกจากนี้ยังพบสถานศึกษาได้รับความเสียหายกว่า 1,000 แห่ง

ขณะเดียวกันฝ่ายรัสเซียยังคงเดินหน้าถล่มเมืองมาริอูโปล เมืองท่าสำคัญของยูเครนอย่างต่อเนื่อง และอ้างว่าสามารถยึดท่าเรือที่สำคัญได้แล้ว ทำให้พลเมืองชาวยูเครนกว่า 100,000 คน ไม่สามารถอพยพออกจากเมืองได้ ล่าสุดมีตัวเลขผู้ลี้ภัยสงครามออกจากประเทศยูเครนแล้วกว่า 4.7 ล้านคน ส่วนใหญ่มุ่งหน้าไปยังประเทศโปแลนด์ และโรมาเนีย

ที่มา: NHK, NHK


สลดน้ำท่วมแอฟริกาใต้ ยอดตายพุ่ง 341 ศพ ประชาชนกว่า 40,000 คนได้รับผลกระทบ

เกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลันในเมืองทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศแอฟริกาใต้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต มากถึง 341 ศพ สูญหายอีกหลายสิบราย ขณะที่ประชาชนกว่า 40,000 คนได้รับผลกระทบ

เมื่อวันที่ 15 เม.ย. สำนักข่าวอัลจาซีราห์รายงานว่า สถานการณ์ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ในเมืองเดอร์บัน จังหวัดวาซูลู-นาทาล ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศแอฟริกาใต้ ได้ส่งผลกระทบให้ประชาชนกว่า 40,000 ต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัย โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงใช้เฮลิคอปเตอร์บินวนทั่วทุกพื้นที่เพื่อค้นหาผู้ที่สูญหายอีกหลายสิบราย พร้อมระบุว่าพบผู้เสียชีวิตรวมแล้ว 341 ศพ และคาดว่าตัวเลขอาจเพิ่มสูงขึ้นกว่านี้

รายงานข่าวระบุว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้ระดับน้ำท่วมสูง บ้านเรือนของประชาชน ตลอดจน ถนนหลายสายจมอยู่ใต้น้ำและสะพานได้รับความเสียหาย จนถึงขณะนี้หลายพื้นที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ เจ้าหน้าที่ ของทางการได้พยายามเดินทางเข้าไปแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้แก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยธรรมชาติครั้งนี้ ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของแอฟริกาใต้เตือนวาจะมีฝนตกหนักต่อเนื่องไปอีกหลายวัน


แฮกเกอร์เกาหลีเหนือ ขโมยคริปโตฯ มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท

เอฟบีไอ พบกลุ่มแฮกเกอร์เชื่อมโยงรัฐบาลเกาหลีเหนือ ป่วนขโมยเงินคริปโตฯ มูลค่ามหาศาลจากบริษัทเกม

15 เม.ย. 65 : สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ หรือ เอฟบีไอ พบแฮกเกอร์ที่มีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลเกาหลีเหนือ ก่อเหตุขโมยสกุลเงินคริปโตฯ มูลค่ามหาศาลจากบริษัทเกมแห่งหนึ่ง เมื่อเดือน มี.ค. 65 ที่ผ่านมา โดยจากการสอบสวนพบว่า กลุ่มลาซารัส และเอพีที38 ซึ่งเป็นกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่มีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลเกาหลีเหนือ ได้ขโมยสกุลเงินดิจิทัลอีเธอร์เรียม มูลค่า 620 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 20,800 ล้านบาท ในวันที่ 29 มี.ค. 65

การโจรกรรมทางไซเบอร์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ถูกใช้โดยเกม แอ็กซี่ อินฟินิตี้ สร้างโดยบริษัท สกาย มาวิส ซึ่งทางบริษัทได้เปิดเผยว่าถูกขโมยเงินคริปโตฯ ที่มีมูลค่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐในขณะนั้น จากเครือข่ายที่อนุญาตให้ผู้เล่นส่งคริปโตฯ ไปยังบล็อกเชนต่างๆ

ด้านกรมธนารักษ์ของสหรัฐฯ ได้ประกาศคว่ำบาตรกลุ่มลาซารัสที่เกี่ยวข้องกับการขโมยเงินในครั้งนี้แล้ว รวมถึงคว่ำบาตรผู้ให้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัล ที่อนุญาตให้ถอนเงินคริปโตฯ ที่ถูกขโมยไปด้วย โดยช่วงปีที่ผ่าน มาการโจรกรรมทางไซเบอร์ได้กลายเป็นแหล่งเงินทุนของเกาหลีเหนือ ขณะที่มีการทดสอบขีปนาวุธอย่างต่อเนื่อง

ที่มา: CNN

ตะครุบตัว ! มือปืนกราดยิงรถไฟใต้ดินนิวยอร์ก เร่งเค้นสอบแรงจูงใจ

ตำรวจนิวยอร์กในสหรัฐฯ ตะครุบตัวมือปืนที่ก่อเหตุปาระเบิดควันและกราดยิงในขบวนรถไฟใต้ดินของนครนิวยอร์กเมื่อวันอังคาร จนมีผู้ถูกยิงบาดเจ็บ 10 คนได้แล้ว

ตำรวจนครบาลนิวยอร์ก แถลงว่า หลังการไล่ล่าตัวนานกว่า 30 ชั่วโมง นาย แฟรงค์ อาร์. เจมส์ ชายผิวดำวัย 62 ปี ผู้ต้องสงสัยหนึ่งเดียวในคดีนี้ ก็ถูกรวบตัวได้ในย่านแมนฮัตตัน โดยไม่เกิดเหตุรุนแรงใดๆ หลังตำรวจได้รับเบาะแสจากพลเมืองดี แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม เขาเตรียมถูกนำตัวขึ้นศาลในวันนี้และเตรียมถูกแจ้งความผิดในหลายกระทง รวมถึงการละเมิดกฎหมายรัฐบาลกลางที่ห้ามการก่อการร้ายหรือก่อเหตุรุนแรงต่อระบบขนส่งสาธารณะ หากผิดจริงเขาจะได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต อย่างไรก็ดี ตำรวจอยู่ระหว่างสอบปากคำนายเจมส์ และยังไม่เปิดเผยว่าเหตุใดเขาจึงก่อเหตุดังกล่าว

เหตุชุลมุนที่เกิดขึ้นหลังนายเจมส์ ซึ่งสวมชุดและหมวกของเจ้าหน้าที่เทศบาลและสวมหน้ากากกันแก๊สพิษ ปาระเบิดควันเข้าใส่กลุ่มผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟใต้ดินที่สถานีบรูกลินช่วงเช้าวันอังคาร ก่อนกราดยิงใส่ผู้คน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 23 คน ในจำนวนนี้ 10 บาดเจ็บเพราะถูกยิง มี 5 คน ที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล แต่ทั้งหมดอาการปลอดภัยแล้ว ส่วนอีก 13 คน บาดเจ็บจากการสูดควันพิษจากระเบิดควันและเหยียบกันช่วงที่เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้น

หลังเกิดเหตุ ตำรวจพบปืนกล็อก ขนาด 9 มม. ของคนร้ายในที่เกิดเหตุ พร้อมระเบิดควันจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ได้ใช้งาน และหลักฐานอื่นๆ หลายอย่าง รวมทั้งขวดบรรจุน้ำมันเบนซิน นอกจากนี้ ยังพบกุญแจรถตู้ที่คน ร้ายเช่ามาจากพื้นที่เมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนน์ซิลเวเนีย ก่อนพบรถตู้ต้องสงสัยที่มีแผ่นป้ายทะเบียนและลักษณะตรงกับรถคันที่ตามหา จอดอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟที่เกิดเหตุ จึงนำไปตรวจสอบหาเบาะแสที่นำไปสู่การจับกุมตัว