ตำรวจยังไม่สามารถบอกสาเหตุการเสียชีวิตของนักศึกษาชาวแคนาดา ที่พบในแทงค์น้ำของโรงแรมในแอลเอได้
23 ก.พ. 56 ในขณะที่การชันสูตรศพในเบื้องต้น ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการเสียชีวิตของ เอลิซ่า หลำ นักศึกษาสาวชาวแคนาดาเชื้อสายจีน วัย 21 ปี ที่ถูกพบเป็นศพอยู่ในแทงค์น้ำบนดาดฟ้าของโรงแรม เซซิล ในนครลอสแองเจลิส ของสหรัฐ กลับปรากฏข่าวฮือฮา เมื่อมีการเผยแพร่คลิปที่เชื่อว่าจะเป็นหลำ ซึ่งมีท่าทีแปลก ๆ อยู่ในลิฟต์ ก่อนที่เธอจะหายตัวไป
ทางการในนครลอส แองเจลิส เปิดเผยว่า อาจใช้เวลามากกว่า 2 เดือน ก่อนที่ผลการทดสอบเพิ่มเติมจะบอกได้ว่า เอลิซ่า หลำ นักศึกษาจากแวนคูเวอร์ เสียชีวิตด้วยเหตุใด ทราบแต่เพียงว่า เป็นสถานการณ์ที่แปลกประหลาดอย่างยิ่งเกี่ยวกับการเสียชีวิตของหลำ ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบต่อไปว่า มีสารพิษหรืออย่างอื่นเจือปนอยู่ในเลือดของเธอ ที่เป็นปัจจัยให้เธอเสียชีวิตหรือไม่
หลำ ถูกระบุว่า ถูกพบครั้งสุดท้ายที่ล็อบบี้ของโรงแรมเซซิล เมื่อวันที่ 31 มกราคม ก่อนจะถูกพบกลายเป็นศพในแทงค์น้ำ โดยช่างซ่อมบำรุงของโรงแรม หลังจากแขกที่เข้าพัก ร้องเรียนเรื่องแรงดันน้ำต่ำ
แต่ข่าวลือได้แพร่สะพัดทางออนไลน์ว่า โรงแรมขนาด 600 ห้องแห่งนี้ ซึ่งคิดค่าบริการคืนละ 39 ดอลลาร์ หรือราว 1,100 บาท ไม่ปลอดภัย และทางโรงแรมได้ทำความสะอาดแทงค์น้ำ โดยเฉพาะล่าสุด ที่ตำรวจลอส แองเจลิส เปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิดที่แสดงให้เห็นหลำมีท่าทีแปลก ๆ ตั้งแต่กดลิฟต์ทุกชั้น ชะโงกหน้าออกไป หรือ ทำท่าเหมือนกำลังคุยกับใครบางคน ก่อนที่เธอจะหายตัวไป
ตำรวจลอส แองเจลิส ยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่หลำอาจพัวพันกับพวกค้ายาเสพติด และอยู่ระหว่างการสืบสวนโดยหวังว่า จะมีแขกบางคนของโรงแรมเห็นหรือได้ยินสิ่งผิดปกติ เนื่องจากบริเวณหน้าลิฟต์ ไม่มีกล้องวงจรปิด แต่ขณะเดียวกันก็มีข่าวลือเกี่ยวกับฆาตกรรมต่อเนื่องที่โรงแรมแห่งนี้ แต่เจ้าหน้าที่ของโรงแรมได้ปฏิเสธว่า ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ นับตั้งแต่โรงแรมสร้างขึ้นในปี 2470
อิหร่านออกมาตอบโต้ การมอบรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมให้กับ Argo ทันที โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลที่กล่าวถึงหนังเรื่องนี้ว่า “ไร้คุณค่าเชิงศิลปะ”
“นี่คือหนังต่อต้านอิหร่านที่ไร้คุณค่าเชิงศิลปะ” สำนักข่าว IRNA อ้างคำพูดของ โมฮัมเหม็ด ฮอสไซนี รมว.กระทรวงวัฒนธรรมและการแนะแนวทางศาสนาของอิหร่าน ที่กล่าวถึงผลรางวัลออสการ์ปีล่าสุด ซึ่ง Argo หนังเล่าเรื่องเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอิหร่านเมื่อปี 1979 สามารถคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมได้ในท้ายที่สุด
โดยก่อนหน้านี้สถานีโทรทัศน์ของอิหร่านก็เพิ่งจะกล่าวโจมตีการมอบรางวัลออสการ์ครั้งที่ 85 หลัง Argo คว้ารางวัลใหญ่เป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี ว่าเป็น “ออสการ์ที่การเมืองที่สุดที่เคยมีมา” นอกจากนั้นก็ยังกล่าวหา เบน แอฟเฟล็ก ผู้กำกับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเล่าเรื่องให้เกินความจริง ทำเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ออกมาเกินกว่าเหตุ และสร้างฉากต่างๆ ให้ผิดไปจากสิ่งที่เคยเกิดขึ้น
Argo เป็นภาพยนตร์ที่อ้างอิงจากเหตุการณ์จริง ในปฏิบัติการของซีไอเอที่ถูกเก็บเป็นความลับมานาน กับภารกิจเข้าไปช่วยเหลือ 6 ตัวประกันชาวสหรัฐฯ ที่หลบหนีออกมาจากเหตุการณ์ที่กลุ่มนักศึกษาชาวอิหร่านบุกยึดสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงเตหะรานเมื่อวันที่ 4 พ.ย.1979 และหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านของเจ้าหน้าที่ทูตชาวแคนาดา
โดยในเหตุการณ์ครั้งนั้นยังมีตัวประกันอีก 52 คน ที่ถูกควบคุมตัวนานถึง 444 วัน ท่ามกลางสถานการณ์อันคุกรุ่น เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของอิหร่าน และสหรัฐฯ กำลังอยู่ในช่วงสั่นคลอนอย่างหนัก ซึ่งแม้ Argo จะเป็นหนังที่เล่าเรื่องด้วยมุมมองของผู้สร้างภาพยนตร์ที่มีหลายฝ่ายติงว่าคลาดเคลื่อนไปจากเหตุการณ์จริง แต่สุดท้ายหนังก็ยังได้รับการยอมรับจากหลายฝ่าย รวมถึงบนเวทีออสการ์
คร่ำหวอดในวงการเพลงมายาวนาน “มาดอนนา” นักร้องวัย 50 ปียังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องจากบรรดาแฟนๆ โดยล่าสุดได้รับการจัดเป็นอันดับเป็นศิลปินในวงการเพลงที่ทำรายได้มากที่สุดประจำปี 2012-2013
งานนี้ต้องยกเครดิตให้กับการเดินสายทัวร์คอนเสิร์ต MDNA 88 รอบที่ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับมาดอนนา เมื่อปี 2012 ที่ผ่านมา โดยเธอสามารถทำรายได้มากถึง 34.5 ล้านเหรียญ โดย 32 ล้านเหรียญ เป็นรายได้ที่มาจากการเดินสายทัวร์คอนเสิร์ตของเธอเลยทีเดียว
การติดอันดับท็อปครั้งนี้ของมาดอนนา ยังส่งให้เธอเป็นศิลปินหญิงเพียงคนเดียวที่มีชื่อติดท็อปเทน โดยนักร้องสาวที่มาแรงสุดๆ เมื่อปีที่แล้วอย่าง อเดล ก็เข้ามาอยู่ที่อันดับ 11 เท่านั้น กับรายได้ 13.9 ล้านเหรียญจากยอดขายอัลบั้ม 21 ที่แม้ว่าตลอดปีเธอแทบไม่ได้ทำอะไรนอกจากพักงานเพื่อตั้งหน้าตั้งตารอให้กำเนิดลูกคนแรกก็ตาม
โดยท็อปไฟว์ครั้งนี้ก็เป็นศิลปินชื่อดังในตำนานมากมาย โดยอันดับ 2 ตกเป็นของ บรูซ สปริงทีน ที่ทำรายได้ไป 33.4 ล้านเหรียญ จากการเดินสายทัวร์โปรโมตอัลบั้ม Wrecking Ball, โรเจอร์ วอเตอร์ อยู่ที่อันดับ 3 กับรายได้ 21.1 ล้านเหรียญ และ แวน ฮาเลน ตามมาในอันดับ 4 กับรายได้ 20.1 ล้านเหรียญ และอันดับ 5 กับ เคนนี เชสนีย์ ที่ทำรายได้ไป 19.1 ล้านเหรียญ
ด้านจัสติน บีเบอร์ นักร้องหนุ่มขวัญใจวัยทีนทั่วโลก เข้ามาอยู่ที่อันดับ 10 กับรายได้ 16 ล้านเหรียญ หลังจากที่ทัวร์ Believe ของเขาขายบัตรหมดเกลี้ยงรวมถึงอัลบั้มของเขาที่ยอดขายได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันนักร้องสาวสวยมากรัก เทย์เลอร์ สวิฟท์ ก็เข้ามาติดอยู่ในอันดับที่ 15 โดยทำรายได้เมื่อปีที่แล้วไป 12.7 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นรายได้หลักจากยอดขายเพลงดิจิตอลในปี 2012
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012