ข่าว
ที่ประชุมร่วมรัฐสภาแก้รธน. ผ่านฉลุยอีก 2 มาตรา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการอภิปรายใน ม.291/9 ซึ่งระบุให้มีการประชุมสภาร่างรัฐธรรมนูญครั้งแรก ภายใน 30 วัน นับแต่วันเลือกตั้งส.ส.ร. ด้าน นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายเสนอว่า หากตำแหน่งรองประธาน ส.ส.ร.มี 2 คน ก็ขอให้มีรองประธานที่เป็นเพศหญิง1ราย

ด้าน นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการ(กมธ.) แก้ไขรัฐธรรมนูญ ชี้แจ้งว่าที่กำหนดระยะเวลาให้มีการประชุมสภาร่างรัฐธรรมนูญภายใน30วันนั้น เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เอง ก็จะรับรองผลการเลือกตั้งภายใน15วัน และ ส.ส.ร.จะทำงานได้ต้องมีเสียงเกินกึ่งหนึ่ง ซึ่งระยะเวลาดังกล่าวน่าจะเพียงพอ

ทั้งนี้หลังจากใช้เวลาอภิปรายประมาณ 30 นาที ที่ประชุมจึงลงมติเห็นชอบกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเสียงข้างมากด้วยคะแนน 337 ต่อ 65 เสียง

จากนั้นเป็นการพิจารณาในมาตรา 291/10 ซึ่งเกี่ยวกับเงินประจำตำแหน่งและผลประโยชน์ตอบแทนอื่นของส.ส.ร.ให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกา ซึ่งที่ประชุมไม่มีสมาชิกผู้ขออภิปราย ประธานรัฐสภาจึงขอมติที่ประชุม และที่ประชุมเสียงข้างมากเห็นชอบกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของกรรมาธิการด้วยคะแนน 338 ต่อ 50 เสียง

จากนั้นนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้สั่งพักการประชุมเมื่อเวลา 21.20 น.ก่อนจะประชุมใหม่อีกครั้งในวันที่ 3 พ.ค.เวลา 09.30 น.เพื่อพิจารณาต่อในมาตรา291/11 ว่าด้วยการกำหนดสาระสำคัญในการร่างรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับหมวดที่ว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ องค์กรตุลาการ และองค์กรอิสระ

กทม.โวปชช.แห่ใช้BTS'อ่อนนุช-แบริ่ง'

นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า หลังจากวันที่ 1 พ.ค. 55 กทม.ได้เริ่มเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสุขุมวิท ส่วนต่อจากสถานีอ่อนนุช-แบริ่ง ระยะทาง 5.25 กิโลเมตร ในราคา 15 บาทตลอดสาย ซึ่งจากการรายงานผล พบว่า ระบบการให้บริการไม่มีปัญหาติดขัด มีประชาชนเดินทางประมาณ 75,000 เที่ยว มีรายได้ 1.1 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุด จึงคาดว่า ในวันที่ 2พ.ค.55 จะมีประชาชนใช้บริการมากกว่านี้ ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับวันที่ 29 เม.ย.55 ซึ่งเป็นวันเสาร์ มีประชาชนเดินทางประมาณ 78,000 เที่ยว ก็ถือว่า เป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกันในช่วงวันหยุด "ถือเป็นเรื่องปกติ ที่จำนวนการใช้บริการของประชาชนลดลง เมื่อเริ่มจัดเก็บค่าโดยสารในระยะแรก แต่ต่อมาจำนวนประชาชนก็เพิ่มมากขึ้น อย่างกรณีที่มีการจัดเก็บในเส้นทางสั้น ๆ อย่างสายสีลม ส่วนต่อขยายจากสถานีสะพานตากสิน-วงเวียนใหญ่ ระยะทาง 2.2 กิโลเมตร ซึ่งจัดเก็บค่าโดยสาร 10 บาทตลอดสาย ในช่วงแรกจำนวนประชาชนลดลง จากตอนให้บริการฟรี แต่ต่อมาก็กลับมาใช้บริการมากเหมือนเดิม"


เผย กทม. เล็งสร้างอุโมงค์ถนนเจริญกรุง ผุดสวนสาธารณะ เพิ่มปอดกรุงเทพฯ

นายธีระชน เปิดเผยด้วยว่า มรว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. มีแนวคิดของสร้างอุโมงค์ถนน บริเวณถนนเจริญกรุง คล้ายอุโมงค์รัชดาบริเวณหน้าวัดมังกรกมลาวาส เพื่อพัฒนาพื้นที่ถนนด้านบนเป็นสวนสาธารณะ ให้ประชาชนใช้พักผ่อน เพิ่มพื้นที่สีเขียว และแก้ปัญหาจราจรที่ติดขัด

ทั้งนี้ พื้นที่ส่วนหนึ่ง เป็นของสํานักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ดร.สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา อดีตประธานที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิผู้ว่าฯกทม. ได้ประสานงานไปแล้ว ซึ่งไม่มีการขัดข้องในการใช้พื้นที่

"จากนี้ กทม.จะตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษาโครงการดังกล่าว ร่วมกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ด่วนที่สุด โดย มรว.สุขุมพันธุ์ จะลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการ ในวันที่ 3 พ.ค.นี้ โดยมีหน่วยงานของกทม.ที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักการโยธา สำนักจราจรและขนส่ง สำนักผังเมืองร่วมด้วย เพื่อจะเร่งศึกษาเพื่อให้สามารถก่อสร้างไปพร้อมกับรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-บางแค) ส่วนรูปแบบเป็นอย่างไร ดร.สุเมธจะเป็นผู้ออกแบบต่อไป" นายธีระชน กล่าว

“ปลอดประสพ”บ่นคิดถึงสมาชิกบ้าน 111

วันที่ 2 พ.ค. นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีสมาชิกบ้านเลขที่ 111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย (ทรท.) กำลังจะพ้นโทษตัดสิทธิทางการเมืองและจะกลับมารับตำแหน่งรัฐมนตรี ว่า “ตนคิดถึงเขาใจจะขาดอยู่แล้ว รองหัวหน้าพรรคไม่คิดถึงลูกพรรคแล้วจะคิดถึงใคร” เมื่อถามว่าจะทำให้ประสิทธิภาพทางการเมืองดีขึ้นหรือไม่ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ก็จะมีสีสันมากขึ้น ดีสำหรับประเทศไทยดี สำหรับสื่อจะได้มีข่าวเขียนเยอะๆ ตนรู้แค่เรื่องน้ำคนเดียว เท่าที่ดูสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ก็ไม่มีใครรู้เรื่องน้ำเท่ากับตน เมื่อถามว่าเก้าอี้รัฐมนตรียังแน่นหรือไม่ นายปลอดประสพ ไม่ตอบคำถามและกล่าวเพียงว่า ยังไม่รู้เรื่องว่าจะมีการปรับครม.หรือไม่

นายปลอดประสพ ยังกล่าวถึงกรณีที่การประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฯ ที่ยืดเยื้อมาเป็นวันที่ 9 แล้วว่า ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลต้องการต้องการที่จะลากยาว เพื่อทำให้ส.ส.และส.ว.เกิดความเบื่อหน่าย และไม่มาประชุม เมื่อองค์ประชุมหรือขาดประชุมกันบ่อย ขณะที่ฝ่ายค้านไม่ได้ให้ความสำคัญกับการแก้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง จึงอยากให้ประชาชนรู้สึกร่วมกับเขา ที่ไม่ให้ความสำคัญกับการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งการใช้วิธีต่างๆเหล่านี้ของฝ่ายตรงข้ามเพื่อรออุปัทวเหตุ หรือ เหตุบังเอิญทางการเมือง

ซัลโว อส.ทพ.หญิง เบ้าตาทะลัก

วันที่ 2 พ.ค. ร.ต.ท.กวีพัฒน์ ไกรเพิ่ม ร้อยเวร สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายตามประกบยิง อส.หญิงประจำที่ว่าการอำเภอเจาะไอร้องเสียชีวิต 1 นาย บนถนนจารุเสถียรสายเจาะไอร้อง-สุไหงปาดี ช่วงบริเวณทางโค้งบ้านมะรือโบ หมู่ 1 ต.มะรือโบออก จึงรีบไปสอบสวนพร้อม พ.ต.อ.กฤษฎา แก้วจันดี ร้อง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส พ.ต.อ.สะท้านฟ้า วามะสิงห์ ผกก.กองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร จ.นราธิวาส พ.ต.ท.กระจ่าง รักษ์ณรงค์ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ร.ต.ต.พลวัฒน์ เทพษร รอง หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่ง

ที่เกิดเหตุ พบศพผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดอยู่ข้างรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าดรีมสีแดง ทะเบียน ขงจ-205 นราธิวาส ที่ล้มตะแคงพาดราวเหล็กกั้นขอบทาง ทราบชื่อ อส.ทพ.หญิงสุคนธ์ จินดาราม อายุ 38 ปี อส.หญิงประจำที่ว่าการอำเภอเจาะไอร้อง อยู่บ้านเลขที่ 261 หมู่ 10 ต.มะรือโบออก ถูกปืนพกสั้น ขนาด 11 ม.ม.ยิงเข้าที่ท้ายทอยทะลุเป้าตาซ้าย 1 นัด โดยในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนพกสั้น ขนาด 11 ม.ม.ตกอยู่บนถนน 1 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะนำศพผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลเจาะไอร้อง เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง

จากการสอบสวนทราบว่า หลังจากออกเวรจากที่ว่าการอำเภอเจาะไอร้อง อส.ทพ.หญิงสุคนต์ ผู้ตายได้ขี่รถ จยย.ตามลำพังเพื่อเดินทางกลับบ้านพัก ถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้าย 2 คน ขี่รถ จยย.ตามประกบไล่หลัง เมื่อสบโอกาสคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายได้ชักอาวุธปืนพกสั้นขนาด 11 ม.ม.ออกมายิงใส่ผู้ตาย 1 นัด จนรถเสียหลักล้มคว่ำแล้วขี่ จยย.หลบหนีไป เบื้องต้น เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อลอบดักสังหารเจ้าหน้าที่รายวัน