เมื่อวันอังคารที่ 12 มีนาคม 2567 เวลา 6.00 pm คณะผู้ดำเนินการเปิดตลาดดำเนินสะดวกไนท์มาร์เก็ต ซึ่งเป็นกลุ่มเด็กไทยรุ่นใหม่ในแอลเอ อันประกอบด้วย นายไมล์ เรืองศรี นายวรปรัชญ์ อรรถสวัสดิ์ นายชินกฤต สุนทรวรรณ และนางสาวฐิตินันท์ จึงอุดมเจริญ ได้เชิญสื่อมวลชน ผู้นำชุมชน และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมงานแถลงข่าวและเดินชมพร้อมชิมการออกร้านตลาดดำเนินสะดวกไนท์มาร์เก็ต แบบ Soft Opening ที่บริเวณตลาด LAX-C ใกล้ไชน่าทาวน์แอลเอ ที่เตรียม Grand Opening อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 29 มีนาคม 2567 กำหนดเปิดขายทุกศุกร์เสาร์และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 6 โมงเย็นถึงเที่ยงคืน โดยจะมีบูธร้านอาหาร ขนมหวาน ปิ้งย่าง ผลไม้ น้ำปั่น น้ำดื่มฯลฯ ให้เลือกซื้อเลือกทานกันอย่างหลากหลาย รวมทั้งบูธเสื้อผ้าไทย เสื้อผ้าทั่วไป และ Gift Shop ก็จะมีบริการในตลาดแห่งนี้ด้วย รวมแล้วประมาณ 35 บูธ

ทั้งนี้ทางคณะผู้ดำเนินงานตลาดกลางคืนดำเนินสะดวก หรือ DS Night Market ได้จัดพิธีบวงสรวงพระพิฆเนศ เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยได้เชิญอาจารย์ก้อง จรัสพงษ์ วิจิตรสุนทรกุล มาเป็นผู้ทำพิธีทางศาสนา และเชิญ นายเอนก พลอยแสงงาม ประธานบริษัท LAX-C เจ้าของสถานที่เป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อการเริ่มต้นที่ดีสำหรับทุกๆ คน จากนั้นได้จัดให้มีการรำระบำกฤดาภินิหาร โดย ครูอู๋ วิโรจน์ ศิริรณรงค์ และ ครูแจ๋ม จันทร์จรัส พ่วงเชย แห่งชมรมนาฏศิลป์สังคีตแอลเอ สร้างสีสันให้กับงานเป็นอย่างมาก

ทางคณะผู้ดำเนินงาน ฝากเชิญชวนเพื่อนชาวไทยทุกท่าน ทั้งในแอลเอ และจากที่ต่างๆ ร่วมให้การสนับสนุนพ่อค้าแม่ค้าคนไทยที่”ดำเนินสะดวกไนท์มาร์เก็ต” ตลาดอาหารไทยยามค่ำคืนแห่งใหม่ ในบริเวณตลาด LAX-C ใจกลางนครลอส แอนเจลิส ที่จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มีนาคม ที่จะถึงนี้ มีที่จอดรถสะดวกสบาย

“DS Night Market” ตั้งอยู่เลขที่ 1100 N.Main St, Los Angeles, CA 90012 ติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือจองบูธ โทร.ได้ที่เบอร์ 323-788-9304

สมาคมนวดไทยและสปาแห่งสหรัฐอเมริกา ร่วมกับกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิสที่จะมีขึ้นในวันที่ 21 มีนาคม 2567 ประชุมการเตรียมความพร้อมในการรายงานการสนับสนุนให้มีการนำเอาการศึกษาหลักสูตรนวดไทยมาเทียบใช้ในการขอไลเซ่นอนุญาตนวด เพื่อประโยชน์แก่นักเรียนที่จบที่ไทย

14 มี.ค.67 จากกรณีที่มีคลิปวิดีโอ ความยาวประมาณ 1.30 นาที ปรากฏภาพวัยรุ่น กำลังรุมทำร้ายร่างกาย พ่อค้าร้านหมาล่า ปลาเผา ชื่อร้าน"ไม่อร่อยต่อยปาก" ส่งผลให้มีการแชร์คลิปเป็นวงกว้างนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว พบร้านหมาล่า ปลาเผา ร้าน"ไม่อร่อยต่อยปาก" ตั้งอยู่บริเวณแยกวัดเขาดิน ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พบร่องรอยของการต่อสู้และใกล้กันพบ ชิ้นส่วนเก้าอี้ที่ถูกใช้ตีผู้ก่อเหตุจนหักกระจัดกระจายอยู่บริเวณหลังร้าน ต่อมาทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือนายนาย ชนิวนทร์ สารแก้ว อายุ 30 ปี พ่อค้าขายหม่าล่า ซึ่งขณะนี้ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา

สอบถามลูกชายของผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 10 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ มาจอดบริเวณหลังร้าน ทันใดนั้นผู้ก่อเหตุได้ไปกระชากพ่อตนเองออกมาจากภายในร้านและได้ทำการรุมกระทืบ ตนเองได้พยายามเข้าห้ามแล้ว แต่ไม่เป็นผล ทั้งนี้ ตนเองก็ไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร โดยคาดว่าน่าจะเป็นคู่อริของพ่อ

เบื้องต้นผู้ได้รับบาดเจ็บยังรักษาอาการอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จบรมราชเทวีณศรีราชา หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.หนองขาม ได้ลงพื้นที่ไล่กล้องวงจรปิด เพื่อติดตามตัวคร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2567 ที่ภัตตาคารเจี่ยท้งเฮง ฟ้าฮ่าม จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นร้านอาหารจีนเก่าแก่ และเป็นร้านประจำของตระกูลชินวัตร นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ในระหว่างการพักโทษ และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พร้อม นายปิฎก สุขสวัสดิ์ เดินทางมาด้วยรถตู้ เพื่อรับประทานอาหารเย็นที่ภัตตาคารเจี่ยท้งเฮง สาขาฟ้าฮ่าม โดยมีเพื่อนร่วมรุ่น โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย รุ่น 08 จำนวน 38 คน และครอบครัวชินวัตร ทั้งที่อยู่ จ.เชียงใหม่ และ กทม.บางส่วน

นอกจากนี้ ยังบุคคลสำคัญที่เดินทางมาร่วมทานอาหารเย็นด้วย อาทิ เจ้าสัว คีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริษัท บีทีเอา ท์กรุ๊ป โฮดิ้งส์ จำกัด , นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย , พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.และนักการเมืองท้องถิ่น จำนวนหนึ่ง

สำหรับเมนูอาหารที่ร้านเตรียมไว้จัดเลี้ยง ประกอบด้วย ออร์เดิร์ฟร้อน แฮกึนทอด เห็ดหูหนูผัดไข่ หอยทรายผัดพริกสด ป๊วยเล้งผัดน้ำมันหอย เป็ดพะโล้ ขาหมูหมั่นโถ ปลากระพงต้มเผือก ต้มจืดเต้าหู้ผักกาดขาว ข้าวผัดปู และผลไม้รวม และบนเวทีได้มีดนตรีสดในการกล่อมด้วย

โดย นายเกรียงศักดิ์ เจียรสาธิต เจ้าของร้านเจี่ยท้งเฮง สาขาฟ้าฮ่าม เปิดเผยว่า เมนูอาหารที่นายทักษิณชอบมาทานเป็นประจำ คือ เห็ดหูหนูผัดไข่ ซึ่งทุกครั้งที่มาต้องสั่ง นอกจากนี้ มีหมูกรอบสูตรเจี่ยท้งเฮง พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้รู้สึกดีใจกับการกลับมาของนายทักษิณ ในรอบ 17 ปี รู้สึกปลาบปลื้มและรอคอยที่ทราบว่านายทักษิณจะมา ตนก็ดีใจ เตรียมงานมาอย่างดี เพราะล่าสุดที่มาทานก็นานกว่า 17 ปี ซึ่งเป็นสาขาศรีดอนชัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศภายในห้องจัดเลี้ยงชั้นสองของภัตตาคารเป็นไปอย่างชื่นมื่นและคึกคัก โดยเมื่อนายทักษิณ มาถึงบริเวณชั้น 2 ของภัตตาคาร กลุ่มเพื่อนและญาติๆ มารออยู่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่สวมเสื้อสีแดง และทันทีที่นายทักษิณ เดินเข้าไปภายในห้อง ทุกคนได้ปรบมือและส่งเสียงเฮ พร้อมตะโกนว่า "ขอต้อนรับนายทักษิณ" โดยมีตัวแทนเพื่อนศิษย์เก่าจากโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย ที่นายทักษิณเคยศึกษาตั้งแต่ตอนเด็ก ถือป้ายข้อความขนาดใหญ่ว่า "ขอต้อนรับเพื่อนปิ๊กบ้าน ดีใจ๋ขนาด" พร้อมมอบช่อดอกกุหลาบสีแดงและพวงมาลัยดอกมะลิ น้ำผึ้ง และของที่ระลึกเป็นน้ำผึ้งป่า ให้กับนายทักษิณ เพื่อเป็นการต้อนรับ

ก่อนที่เพื่อนศิษย์เก่าโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จะร่วมกันร้องเพลงมาร์ชมงฟอร์ต ซึ่งเป็นเพลงประจำโรงเรียนให้กับนายทักษิณ ทำให้บางคนถึงกับน้ำตาคลอขณะร้องเพลงนี้ ขณะที่นายทักษิณ ใบหน้าเต็มไปด้วยความดีใจ พร้อมปรบมือเป็นระยะ ก่อนที่จะเข้าไปสวมกอด ตบไหล่ ขอบคุณกลุ่มเพื่อนๆ จากนั้นได้ร่วมกันรับประทานอาหารค่ำ เป็นการภายใน โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ที่มาในวันนี้มาทำภารกิจดูแลความเรียบร้อยการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 18 - 19 มี.ค.ที่จะมีประชุมที่ จ.พะเยา ซึ่งตนได้มาทักทายและดูแลความเรียบร้อยให้กับนายกทักษิณ เมื่อถามว่า มีคนตั้งคำถามว่ามีหน้าที่อะไรที่ได้มาที่นี่ พล.ต.อ.สรุเชษฐ์ เลี่ยงตอบคำถาม และขอตัวไปต้อนรับนายทักษิณ

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2567 ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พบหารือกับนางจีนา เอ็ม. เรมอนโด (The Honorable Gina M. Raimondo) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สหรัฐอเมริกาในประเด็นการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ไทย-สหรัฐ สรุปสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ในการมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ และเป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาความร่วมมือด้านเศรษฐกิจให้ใกล้ชิดและเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ประเทศไทยเปิดรับภาคเอกชนสหรัฐฯ เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มมากขึ้น โดยไทยมีจุดแข็งในหลายด้านที่เป็นประโยชน์ต่อการลงทุน รวมถึงรัฐบาลกำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจให้ง่ายมากขึ้น และส่งเสริมการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของสหรัฐฯ และแนวโน้มของการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ยินดีที่ได้มามาเยือนไทยในครั้งนี้ ซึ่งได้มีโอกาสหารือกับหลายกระทรวง รวมถึงคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ซึ่งจะเป็นโอกาสในการเพิ่มพูนความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนไทย-สหรัฐฯ ให้เป็นรูปธรรม พร้อมกล่าวชื่นชมนายกรัฐมนตรีและความพยายามของรัฐบาลในการแสดงบทบาทเชิงรุก ผ่านการเดินทางไปพบปะหารือกับทางผู้นำรัฐบาลและภาคเอกชนในต่างประเทศ เพื่อดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาในประเทศไทย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ มองว่าเป็นกลยุทธ์ที่ดี สามารถสร้างการรับรู้ได้อย่างกว้างขวาง

ด้านการขยายการค้าและการลงทุน นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ต่างมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกัน เพื่อเสริมสร้างโอกาสในการเพิ่มพูนการค้าและการลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศ โดยไทยพร้อมรองรับให้ภาคเอกชนสหรัฐฯขยายฐานการผลิตในไทย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด เศรษฐกิจสีเขียว และการจัดตั้ง data center เซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ มองว่าสอดคล้องกับแนวทางในการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชนสหรัฐฯ ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน

ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องถึงการให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจที่ปราศจากคอร์รัปชัน ยึดถือกฎระเบียบและกฎหมาย รวมถึงต้องมีทรัพยากรและแรงงานที่มีทักษะ ซึ่งนายกฯ เน้นย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรโดยมองว่าการฝึกทักษะและการอบรมจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งประเทศไทยและต่อบริษัทที่สนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยด้วย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ชื่นชมต่อความพยายามของไทย พร้อมยินดีส่งเสริมการพัฒนาทักษะแรงงานไทย ผ่านความร่วมมือระหว่างสถานศึกษาของสหรัฐฯ กับหน่วยงานที่รับผิดชอบการเสริมสร้างทักษะและการอบรมแรงงานไทยได้ในอนาคต

ด้านพลังงานสะอาด ทั้งสองฝ่ายหารือถึงการพิจารณาความเป็นไปได้ในการลงทุนในพลังงานสะอาด อย่างพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งไทยมองว่าเป็นประเด็นที่ไทยกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ แต่จำเป็นต้องศึกษาถึงความปลอดภัย รวมถึงรับฟังเสียงและความคิดเห็นของคนในพื้นที่ ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ มองว่าการลงทุนในพลังงานนิวเคลียร์จะเป็นการสร้างโอกาสในการจ้างงาน รวมถึงพลังงานนิวเคลียร์เป็นพลังงานที่สะอาดและมีราคาถูก

ความเชื่อมโยง และโครงสร้างพื้นฐาน นายกฯ เน้นย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาค โดยมีการพัฒนาสนามบิน ท่าเรือ เพื่อให้รองรับต่อการเดินทางและขนส่งสินค้า รวมถึงมีโครงการ Landbridge ที่จะสร้างผลประโยชน์ทั้งต่อไทยและต่อภูมิภาค ซึ่งภาคเอกชนสหรัฐฯ จะได้ประโยชน์เช่นกัน ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ชื่นชมรัฐบาลที่ให้ความสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน หวังว่าจะมีความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนสหรัฐฯ และไทย เพิ่มมากขึ้น

กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก (Indo-Pacific Economic Framework: IPEF) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กล่าวเชิญนายกฯ เข้าร่วมการประชุม IPEF Clean Economy Investor Forum ณ สิงคโปร์ ในเดือนมิถุนายน พร้อมมองว่ากรอบ IPEF จะเป็นเวทีสำคัญในการนำเสนอให้ภาคเอกชนสหรัฐฯ ได้เห็นถึงศักยภาพของไทย และแนวทางในการเพิ่มพูนการค้าและการลงทุนในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2567 ที่รัฐสภา นายสุริยะใส กตะศิลา อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) กล่าวถึงกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับประเทศไทย แล้วไปลงพื้นที่ใน จ.เชียงใหม่ จะเกิดแรงสะเทือนทางการเมืองหรือไม่ ว่า ทุกก้าวย่างของนายทักษิณจากนี้ต่อไปต้องระวังให้ดี การพักโทษเพิ่งผ่านมาได้ไม่กี่สัปดาห์ นายทักษิณเริ่มขยับเข้าสู่เส้นทางการเมืองเร็วไป เมื่อมีการขยับเข้าสู่เส้นทางการเมืองที่เร็วมากเกินไปนั้น ผู้คนก็จะเริ่มรู้สึกว่าช่วงที่ผ่านมาอาการป่วยของนายทักษิณนั้น เป็นเรื่องโกหกจนส่งผลต่อความความรู้สึกไม่พอใจของผู้คน แม้จะมีการขออภัยโทษแล้ว แต่ก็ยังพยายามที่จะมีอิทธิพลเหนือการเมืองไทย ต้องยอมรับว่า คนชอบก็มี แต่ก็ยังมีคนเจ็บแค้นจากปัญหาเก่าๆ อยู่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ต้องระมัดระวังให้ดี

นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า หากในอนาคต นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ดึงนายทักษิณมาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี หากปลอดจากข้อครหาแล้ว ตนเองก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา แต่จะสามารถขจัดภาพนายกรัฐมนตรี 2 คน ได้อย่างไร ปัจจุบันแม้จะไม่มีตำแหน่งทางการเมือง แต่ก็ยังถูกวิจารณ์ว่า ใครคือนายกรัฐมนตรีตัวจริง เรื่องนี้รัฐบาลจะต้องศึกษาให้ละเอียด ไม่เช่นนั้นเวลาที่ท่านนายกรัฐมนตรีเดินสายไปต่างประเทศจะไม่มีความหมาย เพราะคนบางกลุ่มจะรู้สึกว่า ไม่ได้คุยกับเบอร์หนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยจะต้องระมัดระวัง และต้องพูดคุยกันภายใน เพราะพรรคเพื่อไทยเองก็มีหลายกลุ่ม