ข่าว
‘CNN’คัด 20 เมนูรอบโลกที่ต้องลอง ‘ส้มตำ-ผัดกะเพรา’ติดอันดับด้วย

วันที่ 8 มีนาคม 2567 CNN Travel โต๊ะข่าวท่องเที่ยวในเครือสำนักข่าว CNN สหรัฐอเมริกา เผยแพร่บทความ World’s best spicy foods: 20 dishes to try เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2567 ตามเวลาสหรัฐฯ หรือ 7 มี.ค. 2567 ตามเวลาประเทศไทย ว่าด้วย 20 เมนูอาหารจานเด็ดจากทั่วโลกที่เหล่านักชิมควรต้องไปลอง ซึ่งพบว่า มี 2 เมนูจากประเทศไทย คือ “ส้มตำ (Som Tam)” และ “ผัดกะเพรา (Pad ka prao)” ติดมาด้วย

โดยสื่อสหรัฐฯ บรรยายเมนูส้มตำ ว่า จากพื้นที่ภาคอีสาน จังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยซึ่งชื่นชอบเครื่องเทศ เมนูสลัดที่สดใหม่และเผ็ดร้อนนี้ (ชาวตะวันตกจัดให้ส้มตำเป็นอาหารประเภทสลัด) เป็นอาหารจานหลักที่พบได้ในร้านอาหารไทยทั่วโลก และนอกจากประเทศไทยแล้ว ยังพบเมนูส้มตำในเพื่อนบ้านของไทยอย่าง สปป.ลาวด้วย ส้มตำมีมะละกอดิบเป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งมักจะหั่นเป็นชิ้นหรือฉีกเป็นชิ้นสำหรับสลัด จากนั้นนำมะละกอมาคลุกกับถั่วฝักยาวหรือถั่วเขียว และส่วนผสมของอาหารในทวีปเอเชียที่จำเป็น เช่น น้ำมะขาม กุ้งแห้ง น้ำปลา อ้อยบด และส่วนผสมอื่นๆ อย่างพริกไทยหรือที่เรียกว่าพริกขี้หนูเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับเมนูนี้

ขณะที่เมนูผัดกะเพรา บรรยายว่า นี่คืออาหารจานโปรดเมื่อต้องการสิ่งที่น่าพึงพอใจ แต่รู้ไว้ว่ามันต้องเผ็ดแน่ๆ ผัดกระเพราเป็นอาหารหลักในประเทศไทย สามารถพบได้ทั่วไปทั้งร้านค้าแผงลอยและร้านอาหารริมถนน ตั้งแต่ในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ ไปจนถึงแหล่งท่องเที่ยวตามเกาะต่างๆ ผัดกะเพราอาจเปรียบเทียบได้กับเมนูอย่างแซนด์วิชหรือเบอร์เกอร์ อาหารจานนี้ประกอบด้วยหมูบด พริกขี้หนูรสเผ็ด และใบโหระพา และสามารถสั่งเผ็ดได้ตามที่คุณต้องการ โดยคนไทยจำนวนมากเชื่อว่าการรับประทานคู่กับไข่ดาวที่มีไข่แดงเยิ้มจะดีที่สุด

สำหรับ 20 เมนูที่ CNN เลือกมาแนะนำนั้น ประกอบด้วย 1.เอกูซี ซุป (Egusi soup - ไนจีเรีย) 2.สุกี้หม่าล่าเสฉวน (Sichuan hot pot - จีน) 3.ส้มตำ (Som Tam – ไทย) 4.ไก่ย่างพิริพิริ (Piri-piri chicken – โมซิมบิก , แอลจีเรีย) 5.หมูสามชั้นประธานเหมา หรือหมูสามชั้นตุ๋นแดง (Chairman Mao’s braised pork belly – จีน) 6.ไก่สะบัด-หมูสะบัด (Jerk chicken/pork – จาไมกา) 7.อายัม เบตูตู (Ayam betutu - อินโดนีเซีย) 8.ปีกไก่บัฟฟาโล (Buffalo chicken wings – สหรัฐอเมริกา) 9.กุ้งอะกัวชิลิส (Shrimp aguachiles - เม็กซิโก) 10.ผัดกะเพรา (Pad ka prao - ไทย)

11.เนื้อเร็นดัง (Beef rendang - อินโดนีเซีย , มาเลเซีย) 12.ไก่เผ็ดตุ๋น ทักโดริทัง (Dakdoritang - เกาหลีใต้) 13.แกงฟาลเบอร์มิงแฮม Phaal Curry Birmingham : อาหารบังกลาเทศซึ่งถูกคิดค้นขึ้นในอังกฤษ) 14.เฟนเน ออล'อัลรับเบียตา (Penne all’arrabbiata - อิตาลี) 15.ไก่เจฏฏินาฑ (Chicken Chettinad - อินเดีย) 16.โดโร วัท (Doro Wat –เอธิโอเปีย) 17.เต้าหู้ผัดเสฉวน (Mapo Tofu – จีน) 18.แกงวินดาลู (Vindaloo - อินเดีย) 19.มาเฟ หรือสตูว์ถั่วลิสง (Mafe - เซเนกัล) และ 20.ชิลิ (Chili – สหรัฐอเมริกา)

ให้ออกจากราชการแล้ว! ตำรวจคอมมานโด ปล่อยคลิปแฟนสาว ส่อผิดวินัย-อาญา

วันที่ 8 มีนาคม 2567 พลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางกล่าวถึงกรณีที่มีหญิงสาวผู้เสียหาย เข้าร้องเรียน พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้เอาผิด สิบตำรวจโท สังกัดกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ (ตำรวจคอมมานโด) ซึ่งเป็นอดีตแฟนที่เลิกรากันไป 1 ปี ที่ทักมาข่มขู่ขอกลับมามีความสัมพันธ์ และปล่อยคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์กับผู้เสียหายลงในโซเชียล มีเดีย

พลตำรวจโทจิรภพ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ผู้เสียหายเคยเข้าแจ้งความและร้องเรียนทางต้นสังกัดแล้ว แต่เรื่องกลับเงียบ ว่า ในทางวินัย ในวันนี้จะมีคำสั่งให้สิบตำรวจโทคนดังกล่าวออกจากราชการ ไว้ก่อนก่อนจะมีการตรวจสอบเพื่อดำเนินการทางวินัยตามข้อเท็จจริง ส่วนคดีอาญาทราบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจโรงพักมีการรับเรื่องไว้ดำเนินคดีแล้ว ถึงแม้ว่ากองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางจะไม่มีอำนาจดำเนินคดีตามกฏหมาย

แต่หากพบว่ามีคนในหน่วยหรือผู้ใต้บังคับบัญชามีพฤติกรรม ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางจะดำเนินการช่วยสอบสวนในการดำเนินคดีกับบุคคลที่กระทำความผิดอย่างถึงที่สุด โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาการเอาผิดทางวินัยว่าควรจะอยู่ในบทลงโทษใด ซึ่งจากที่ได้พูดคุยกับคณะกรรมการ ตรวจสอบข้อเท็จจริงของคดีนี้

เบื้องต้น พบว่ามีมูลจึงอยากให้มีการดำเนินการอย่างรวดเร็ว ซึ่งการพิจารณาให้ออกไว้ก่อนในวันนี้ เพื่อให้สิ้นสภาพของการเป็นตำรวจและทำให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างเต็มที่ สำหรับระยะเวลาในการตรวจสอบนั้น ส่วนตัวยังไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาแต่ได้กำชับว่าให้เร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด ทั้งในด้านคดี ทางวินัยและอาญา ยืนยันจะไม่มีการช่วยเหลือผู้กระทำความผิดและจะดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดอย่างถึงที่สุด


'อธ.อัยการคดีพิเศษ'เผยยื่นศาลแพ่งขอยึดทรัพย์คดีค้าหมูเถื่อนเเล้ว 2 สำนวน กว่า 100 ล้าน

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ที่สำนักงานอัยการคดีพิเศษ ถ.รัชดาภิเษก นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เปิดเผยความคืบหน้าของคดีกลุ่มขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ (สุกร) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฎหมายว่า คดีการนำเข้าซึ่งซากสุกรมีการส่งสำนวนจากสำนักงาน ป..ปง.มายังสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคดีพิเศษของรวม 2 สำนวน

โดยสำนวนแรกส่งมาเมื่อวันที่ 11กุมภาพันธุ์ 2567 มีพฤติการณ์ในการกระทำผิดคือ มีกลุ่มได้ลักลอบนำเข้าซึ่งซากสุกรเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายถือเป็นความผิดต่อพ.ร.บ.ศุลกากร โดยกลุ่มกระบวนการผู้มีอิทธิพลซึ่งเป็นขบวนการอยู่เบื้องหลัง โดยเชิดนิติบุคคลให้มีการลักลอบนำเข้ามาซึ่งซากสุกรดังกล่าวมาทางด่านศุลกากรในลักษณะเป็นการหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรโดยการยื่นสำแดงราคาสินค้าอันเป็นเท็จ การสำแดงสินค้าพิกัดอัตราภาษีศุลกากรที่ไปยื่นเป็นร้อยละศูนน์ แต่ถ้าหากสำแดงตามความเป็นจริงก็จะต้องชำระภาษีพิกัดอัตราภาษีศุลกากรประมาณร้อยละ 30 เท่านั้น เเละให้ตัวแทนนำสินค้าออกจากท่าเรือแหลมฉบังไปเก็บยังห้องเย็นเพื่อรอจำหน่าย หรือจัดเก็บซากสุกรดังกล่าวไปจำหน่ายจะใช้วิธีสวมสิทธิโควต้าสุกรภายในประเทศทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรไม่สามารถจำหน่ายสุกรได้ เกิดความเสียหายแก่ส่วนรวมอย่างกว้างขวาง และการจำหน่ายซากสุกรดังกล่าวหากจำหน่ายแล้วจะมีกำไรถึง กก.ละ 100 บาท ซึ่งเป็นกำไรที่สูงมาก ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งหนึ่งที่เป็นบริษัททำกิจการเกี่ยวกับห้องเย็น จากการสอบสวนพยานหลักฐานต่างๆ แล้วก็พบว่าผู้ที่เป็นผู้จัดการบริษัทดังกล่าวได้แสดงตนเป็นผู้จัดการสถานที่จัดเก็บ(ห้องเย็น)เเละก็แจ้งว่าเป็นผู้ที่รับฝากมาจากบุคคลคนหนึ่งซึ่งอยู่ในขบวนการดังกล่าว เป็นผู้นำเข้าซึ่งซากสุกร ต่อมาเมื่อได้ตัวผู้ที่ถูกซัดทอดดังกล่าวมาแล้ว ก็ให้การยอมรับว่าเป็นคนนำเข้ามาจากต่างประเทศจริง

กระทั่งสำนักงานป.ป.ง. ได้มีการยึดทรัพย์สินในสำนวนแรกจำนวน 24 รายการเป็นเงิน 53 ล้านบาทเศษ โดยทรัพย์สินดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่เชื่อได้ว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด สำนักงาน ป.ป.ง.จึงได้ส่งสำนวนไปยังสำนักงานอัยการพิเศษ ตนในฐานะอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ก็ได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานขึ้นซึ่งประกอบไปด้วย นายนิรันดร์ นันตาลิต อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 3 เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ,นายสมุทร ลีพชรสกุล อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นคณะทำงาน ,นางพรรณทิพย์ คูณทอง ฉันทะดำรงรัตน์ อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นคณะทำงานเเละเป็น เจ้าของสำนวน

โดยหลังจากที่คณะทำงานได้ตรวจสำนวนดังกล่าวแล้วจากพยานหลักฐานมีมูลเชื่อได้ว่ามีการกระทำผิดมูลฐานตาม พรบ.ศุลกากรดังกล่าวจริงและก็ทรัพย์สินที่ยึดอายัดทรัพย์ไว้ชั่วคราว ดังกล่าวจำนวน 24 รายการเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดในมูลฐานฟอกเงิน จึงได้ทำความเห็นเสนอมายังตนในฐานะอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษซึ่งได้พิจารณาเเล้ว เห็นควรยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งขอให้ริบทรัพย์สิน ที่ยึดอายัดไว้ชั่วคราวดังกล่าว ตกเป็นของแผ่นดิน และขอไต่สวนฉุกเฉินพร้อมกับขออายัดไว้ชั่วคราวในระหว่างการดำเนินคดีในชั้นศาล โดยได้มีการยื่นคำร้องดังกล่าวดังกล่าวเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นคดีหมายเลขดำที่ฟ.23/2567 ศาลแพ่งได้นัดไต่สวนคดีในวันที่ 27 พฤษภาคม เวลา 09.00 น.

ต่อมาสำนักงานปปง. ก็ได้ส่งสำนวนที่ 2 ซึ่งเป็นสำนวนที่มูลความผิดเป็นผู้กระทำความผิดรายเดียวกัน พฤติการณ์เดียวกันทั้งหมดเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 แต่ต่างกันตรงที่ว่าทรัพย์สินที่ยึดอายัดไว้ชั่วคราวในคดีหลังมีทั้งหมด 26 รายการรวมมูลค่า 43 ล้านบาทเศษเมื่อรับสำนวน ตนได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานชุดที่ 2 ประกอบไปด้วยนายนิรันดร์ นันตาลิต อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 3 เป็นหัวหน้าคณะทำงาน , นายณัฏฐ์ศาสน์ สิทธิชัย อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ เป็นคณะทำงาน เเละมีนางพรรณทิพย์ คูณทอง ฉันทะดำรงรัตน์ อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นคณะทำงานเเละเป็น เจ้าของสำนวน

ภายหลังคณะทำงานได้พิจารณาตรวจสอบสำนวนคดีที่สองแล้วมีความเห็นเช่นเดียวกับคดีแรกว่าทรัพย์สินดังกล่าวจำนวน 26 รายการเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดมูลฐานซึ่งเชื่อได้ว่ามีการกระทำผิดมูลฐานในฐานความผิด พ.ร.บ.ศุลกากรฯจริง สมควรยื่นคำร้องขอให้ริบทรัพย์สินที่ยึดอายัดไว้ชั่วคราวดังกล่าวให้ตกไว้เป็นของแผ่นดินพร้อมกับสมควรยื่นคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉินและขอยึดอายัดทรัพย์สินดังกล่าวไว้ชั่วคราวระหว่างการดำเนินคดีในชั้นศาล คณะทำงานก็ได้นำเสนอสำนวนพร้อมความเห็นมายังตนในฐานะอธิบดีสำนักงานอัยการคดีพิเศษแล้วมีความเห็นและคำสั่งสอดคล้องกัน กับคณะทำงานจนกระทั่งต่อมาเจ้าของสำนวนได้ดำเนินการให้มีการยื่นคำร้องและคำขอดังกล่าวข้างต้นต่อศาลแพ่งเป็นคดีหมายเลขดำที่ฟ.33/2567 โดยศาลได้นัดไต่สวนวันที่ 1 กรกฎาคม นี้เวลา 09.00 น.

ทั้งนี้ ทรัพย์สินทั้งสองสำนวนรวมกันเเล้วจะเป็นเงินเกือบ 100 ล้านบาท ในส่วนคดีอาญายังไม่มีการส่งสำนวนมายังอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เข้าใจว่ายังอยู่ระหว่างการสอบสวนของดีเอสไอ เเต่มีส่งมาอยู่หนึ่งเรื่องแต่จะเป็นคดีซากไก่

นายวิรุฬห์ ยังกล่าวถึงการยื่นขออายัดทรัพย์สินเกี่ยวกับเรื่องการกระทำความผิดตามมูลฐานเรื่องฟอกเงินที่ผ่านมาในเรื่องของพัฒนาการว่า เมื่อล่าสุดเร็วๆนี้ อัยการสูงสุด เเละนายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ รองอัยการสูงสุดที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบดูแลงานต่างประเทศของสำนักงานอัยการไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือการยึดอายัดทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดข้ามแดน ได้ประสานงานไปยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งเป็นประเทศที่มีที่ตั้งของทรัพย์สินที่ศาลมีคำสั่งให้ริบทรัพย์ไว้แล้ว ซึ่งเป็นทรัพย์ที่เกิดจากความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันเเละปราบปรามการฟอกเงินโดยที่สำนักงานอัยการคดีพิเศษเป็นผู้ที่ยื่นคำร้องต่อศาล หลังจากที่รับสำนวนมาจาก ปปง. เเละจากการประสานงานของนายจุมพลรองอัยการสูงสุดก็ได้มีการทำmou กับทางสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งเป็นประเทศที่มีถิ่นที่อยู่ของทรัพย์สินหรือที่ตั้งของทรัพย์สิน ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องจากการกระทำผิด ให้มีการส่งกลับทรัพย์สินมาที่ประเทศไทย ก็ปรากฏว่าเป็นผลสำเร็จเป็นคดีแรกในประวัติศาสตร์ของอัยการเราในด้านการยึดอายัดข้ามแดนและริบทรัพย์สินที่ซุกซ่อนไว้ในต่างแดน

นอกจากนี้ ในส่วนประเทศ อื่นๆอย่างเช่นเคสนี้ที่มีการนำเข้าส่งออก ก็ทราบจากนายจุมพลว่าในส่วนนี้สำนักงานอัยการก็จะมีการดำเนินการเช่นเดียวกับที่มีการทำmou กับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถ้าหากมีการสืบทรัพย์ได้แน่ว่าทรัพย์สินของผู้กระทำผิดที่ได้นำไปจำหน่ายจ่ายโอนหรือเก็บรักษาหรือซุกซ่อนในฐานฟอกเงินไปอยู่ในประเทศไหน เราก็พยามที่จะดำเนินการขอให้มีการส่งข้ามแดนมายังประเทศไทยเช่นเดียวกับที่เราเคยทำสำเร็จมาดังกล่าวเเล้ว

“เท่าที่ผ่านมาคดีที่สำนักงานอัยการคดีพิเศษเรารับสำนวนจาก ปปง. แล้วได้มีการร้องต่อศาล ทางเราอาจกล่าวได้ว่าชนะคดีเกือบทั้งหมดเกือบ 100% และมีคดีที่เราก็ขอให้คืนทรัพย์ให้กับทางผู้เสียหายที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ที่เราขอศาลไป ก็ให้เกือบทั้งหมดถ้าคิดเป็นมูลค่าตั้งเเต่ปี 2560 เป็นต้นมาเป็นจำนวนกว่า 4หมื่นล้านบาทเศษ และในช่วงที่ผมดำรงตำแหน่งอธิบดีสำนักงานคดีพิเศษมาประมาณ1ปีกว่าๆก็ยึดทรัพย์ตกเข้าคลังเเผ่นดินได้กว่า 1หมื่นล้านบาท” อธิบดีอัยการคดีพิเศษกล่าวตอนท้าย


ขายแล้ว41,000ใบ 'มาดามแป้ง'ปลื้มทีมชาติไทยกลับมาคึกคัก ลุ้นเต็มสนามดวลโสม

วันที่ 8 มีนาคม 2567 "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ขอบคุณแฟนบอลชาวไทย ที่กลับมาให้ความสนใจ ทีมชาติไทย อีกครั้ง หลังบัตรเข้าชมการแข่งขันถูกจำหน่ายออกไปแล้วกว่า 41,000 ใบ ในเกมที่เตรียมเปิดบ้านพบกับ เกาหลีใต้ ศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 นัดที่ 4 พร้อมหวังเห็นแฟนบอลเต็มความจุ สนามราชมังคลากีฬาสถาน

ไทยทิคเก็ต เปิดจำหน่ายบัตรในรอบทั่วไป เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2567 ก่อนกระแสตอบรับยอดเยี่ยม โดยอัพเดทล่าสุด วันที่ 8 มีนาคมนี้ ขายไปได้แล้วกว่า 41,000 ใบ จากความจุของสนามราชมังคลากีฬาสถาน 48,900 คน

"มาดามแป้ง" นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กล่าวว่า "ตั้งแต่ในช่วงที่ แป้ง ยังเป็นผู้จัดการทีม สิ่งหนึ่งที่ตั้งใจ และ อยากเห็นมากที่สุด คือ ทำให้ ทีมชาติไทย กลับมาได้รับความสนใจ และ อยู่ในกระแสอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ทราบว่า ตั๋วในเกมเปิดบ้านพบกับ เกาหลีใต้ ถูกขายไปแล้วกว่า 41,000 ใบ เป็นเรื่องที่น่ายินดี และ น่าดีใจมาก ไม่ใช่แค่ เฉพาะตัว แป้ง เท่านั้น แต่เชื่อว่ายังรวมถึง สังคมฟุตบอลไทยด้วย ที่อยากเห็นเรื่องนี้กลับมาอีกครั้ง"

"ในฐานะนายกสมาคมฯ แป้ง พูดอยู่เสอมว่า ผู้เล่นคนที่ 12 สำคัญที่สุด ฟุตบอลที่ปราศจากแฟนบอล นั่นไม่ใช่ ฟุตบอลที่แท้จริง ดังนั้น ต้องขอบคุณแฟนบอลไทยทุกคน ที่กลับมาให้ความสำคัญกับ ทีมชาติไทย และ หวังว่าเราจะรักษาบรรยากาศแบบนี้ร่วมกันไปเรื่อย ๆ และ หวังว่าในเกมเปิดบ้านพบกับ เกาหลีใต้ เราจะเห็นภาพแฟนบอลสวมเสื้อสีน้ำเงิน เข้ามาให้กำลังใจเราเต็มึความจุของสนามราชมังคลากีฬาสถาน" มาดามแป้ง ปิดท้าย

สำหรับ ทีมชาติไทย มีโปรแกรมเปิดบ้านพบกับ เกาหลีใต้ ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 นัดที่ 4 วันที่ 26 มีนาคม 2567 เวลา 19.30 น. ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐ ทีวี


ผลผ่าพิสูจน์พะยูนเกยตื้น พบพยาธิ-ไมโครพลาสติก เต็มท้อง

วันที่ 8 มีนาคม 2567 จากกรณีที่แฟนเพจเฟซบุ๊ก "ขยะมรสุม ᴍᴏɴsᴏᴏɴɢᴀʀʙᴀɢᴇ ᴛʜᴀɪʟᴀɴᴅ" โพสต์ภาพพะยูนที่มีสภาพผอม ว่ายอยู่บริเวณใกล้กับชายหาด บริเวณท่าเรือบ้านพร้าว เกาะลิบง ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง และต่อมาในช่วงเช้าวันที่ 8 มีนาคม พบว่าพะยูนตัวดังกล่าวเสียชีวิตแล้ว

ล่าสุด ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง (ศวอล.) ได้รับแจ้งจากนายวิสุท สารสิทธิ์ เครือข่ายช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายาก เกาะลิบง จังหวัดตรัง เรื่องพบซากพะยูนเกยตื้นบริเวณปากคลองบ้านพร้าว ต.เกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เจ้าหน้าที่ ศวอล. ร่วมกับเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง จังหวัดตรัง ในการเข้าตรวจสอบและขนย้ายซากเพื่อมาชันสูตรยังศูนย์วิจัยฯ

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นซากพะยูน (Dugong dugon) เพศผู้ โตเต็มวัย ความยาวลำตัววัดแนบ 265 ซม. คะแนนความสมบูรณ์ของร่างกายอยู่ในเกณฑ์ผอม (Body condition score, BCS = 1/5) สภาพซากสด ลักษณะภายนอกพบลักษณะแผลหลุมลึก ยาว 7.5 x 4 ซม.บริเวณข้างลำตัวด้านบนครีบข้างซ้าย

เมื่อเปิดผ่าดูอวัยวะภายใน พบก้อนลิ่มเลือดสีขาวอยู่ในหัวใจห้องบนขวาซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นหลังจากการเสียชีวิตและมีเลือดคั่งในหัวใจ บริเวณส่วนของทางเดินหายใจ พบฟองอากาศภายในหลอดลมและเนื้อเยื่อปอด คาดว่าเกิดจากการสำลักน้ำ บริเวณม้ามพบจุดเลือดออกกระจายเป็นหย่อม พบปื้นเลือดออกและเลือดคั่งที่เนื้อเยื่อไต ส่วนของทางเดินอาหาร พบเศษหญ้าทะเลเล็กน้อยและพยาธิตัวกลมจำนวนมาก บริเวณลำไส้พบก้อนเนื้อขนาด 2 x 1 ซม. และก้อนหนองขนาด 1 x 1 ซม. และพยาธิใบไม้เล็กน้อย ตับอ่อนพบลักษณะบวมน้ำและมีเลือดคั่ง และพบเศษเชือกไนล่อนในกระเพาะอาหารซึ่งไม่ใช่สาเหตุการเสียชีวิต

สรุปสาเหตุการตายคาดว่าป่วยตามธรรมชาติ เนื่องจากพบความผิดปกติหลายระบบ ป่วยเรื้อรังเป็นระยะเวลานานร่วมกับภาวะอ่อนแอจากวัยแก่ จึงทำให้สัตว์เสียชีวิตในที่สุด ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อเพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการต่อไป

เครื่องบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ล้อหลุดกลางอากาศ ตกใส่รถพังยับ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เครื่องบินสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ พร้อมผู้โดยสาร 249 คน ล้อหลุดกลางอากาศ กัปตันนำเครื่องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินนานาชาติในนครลอสแอนเจลิส ได้อย่างปลอดภัย

กัปตันสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ของสหรัฐฯ สามารถนำเครื่องบินโดยสารลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินนานาชาติในนครลอสแอนเจลิส ได้อย่างปลอดภัย หลังจากเครื่องบินลำดังกล่าวเดินทางออกจากสนามบินในนครซานฟรานซิสโก เกิดเหตุขัดข้องล้อหลุดกลางอากาศ หลังออกจากสนามบินได้ไม่นาน ทำให้กัปตันต้องเปลี่ยนเส้นทางเพื่อนำเครื่องลงจอดฉุกเฉิน

ทางสายการบินระบุว่า เครื่องบินลำดังกล่าวเป็นเครื่องบินโดยสารรุ่นโบอิ้ง บี777-200 กำลังมุ่งหน้าไปยังญี่ปุ่นพร้อมผู้โดยสาร 249 คน ขณะนี้สายการบินอยู่ระหว่างจัดเตรียมครื่องบินลำใหม่ เพื่อนำผู้โดยสารเดินทางต่อไป