23 กรกฎาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า 'บรูซ วิลลิส' (bruce willis) วัย 70 ปี ซูเปอร์สตาร์ฮอลลีวูดระดับตำนาน อาการทรุดลงอย่างหนัก จนไม่สามารถพูด อ่าน หรือเดินได้อีกต่อไป โดย 'บรูซ วิลลิส' พระเอกดังระดับตำนานได้ป่วยด้วยโรคภาวะสมองเสื่อมส่วนหน้า (Frontotemporal Dementia) โดยโรคได้พัฒนาจากภาวะบกพร่องด้านการใช้ภาษา (Aphasia) ที่แพทย์เคยวินิจฉัยครั้งแรกในปี 2565 ตามรายงานในปี 2566 และ 2567 ระบุว่า วิลลิสมีอาการพูดไม่ได้เกือบทั้งหมด ไม่สามารถอ่านหนังสือ และเริ่มมีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว แม้ครอบครัวยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเรื่องการเดินอย่างชัดเจน
ล่าสุด 'เอ็มม่า' ภรรยาของเขาซึ่งถือว่าเป็นแหล่งข่าวใกล้ชิดยืนยันว่า เขาเดินไม่ได้แล้ว พูดไม่ได้แล้ว และอ่านหนังสือไม่ออกแล้ว ซึ่งการอ่านหนังสือเป็นสิ่งที่เขานั้นโปรดปรานมาก โดยเธอบอกว่าสิ่งที่เจ็บปวดมากที่สุดเลยคือ เขาจำไม่ได้แม้กระทั่งผลงานของตนเอง จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยโด่งดังมากแค่ไหน ก่อนหน้าที่จะพูดไม่ได้มีแฟนคลับมาขอถ่ายภาพ 'บรูซ วิลลิส' ยังได้ถามเธอว่า พวกเขามาขอถ่ายรูปด้วยทำไม
ขณะที่ท่ามกลางช่วงเวลาที่ยากลำบาก ครอบครัวของ 'บรูซ วิลลิส' ยังคงเป็นกำลังสำคัญที่คอยดูแล และสนับสนุนเขาอย่างใกล้ชิด ขณะที่แฟนๆ ทั่วโลกก็ยังคงส่งความรักและแรงใจให้เขาอย่างต่อเนื่อง เมื่อช่วงมิถุนายนที่ผ่านมานั้น ลูกสาวคนโตของเขาได้โพสต์ข้อความในโซเชียลว่า "คิดถึงการได้พูดคุยกับพ่อเหมือนกันที่เราได้เคยพูดคุยกัน คิดถึงบทสนทนาธรรมดาที่ลูกได้พูดกับพ่อ บทสนทนาธรรมดาแต่มันพูดพรากไปด้วยโรคสมองเสื่อม"
ล่าสุดทางครอบครัวของ 'บรูซ วิลลิส' ได้ออกแถลงการณ์ถึงแฟนๆ ว่า แม้โรคยังคงลุกลามแต่โดยรวมถือว่าอาการยังทรงตัว พร้อมขอบคุณกำลังใจจากผู้คนทั่วโลกที่ส่งถึงครอบครัวอย่างไม่ขาดสาย
23 กรกฎาคม 2568 “กองทัพภาคที่ 2” เผยแพร่ประกาศปิดจุดผ่านแดนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่รับผิดชอบ ตั้งแต่ 24 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป ลงนามโดย พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2
คำสั่งกองทัพภาคที่ ๒ (เฉพาะ)
เรื่อง “การปิดจุดผ่านแดนตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา และสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่รับผิดชอบ”
ตามที่ได้มีคำสั่งกองทัพภาคที่ ๒ (เฉพาะ) เรื่อง มาตรการยกระดับการควบคุมการผ่านแดน ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดบุรีรัมย์ ลงวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๘ นั้น
ในห้วงเวลาได้ปรากฎเหตุการณ์ลอบวางทุ่นระเบิดบริเวณพื้นที่ชายแดนช่องบก และช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี จนเป็นเหตุให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสาหัส อันเกิดขึ้นภายในเขตราชอาณาจักรไทย โดยสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของฝ่ายกัมพูชา ที่ไร้มนุษยธรรม และละเมิดอธิปไตย ขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ซึ่งเป็นภัยคุกคามอย่างร้ายแรงต่อสันติภาพ และเสถียรภาพบริเวณชายแดนระหว่างสองประเทศ
กองทัพภาคที่ ๒ จึงกำหนดให้ปิดจุดผ่านแดนตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา และสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่รับผิดชอบ โดยมีมาตรการ ดังนี้
๑. งดการผ่านเข้า - ออก ของยานพาหนะทุกประเภท
๒. งดการเดินทางผ่านเข้า - ของประชาชน การค้าขายทุกประเภท นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
๓. งดการเยี่ยมชมปราสาทตาเมือน และปราสาทตาควาย ของนักท่องเที่ยว เพื่อปรับปรุงระบบการรักษาความปลอดภัย
ทั้งนี้ เพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศไทย การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย มิให้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้อีกต่อไป และแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วย ในการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งเป็นการละเมิดอธิปไตย และขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป
วันที่ 23 กรกฎาคม 2568 พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า วันนี้กำลังพล ออกลาดตระเวนได้เหยียบกับระเบิด บริเวณช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ได้รับบาดเจ็บขาขวาขาด ซึ่งคาดว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่ ปัจจุบันได้ดำเนินการส่งกลับสายแพทย์ไปยัง รพ.น้ำยืน
ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 2 จึงมีมาตราการตอบโต้ทันที คือ ปิดปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อีกทั้งยังปิดด่าน 4 ด่าน คือ ด่านช่องจอม ด่านช่องสายตะกู ด่านช่องอานม้า ด่านช่องสะงำ
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.น่าน ว่า เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 23 กรกฎาคม 2568 จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันหลายจุด โดยเฉพาะบริเวณ “วัดภูมินทร์” ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน ซึ่งถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวและโบราณสถานสำคัญของชาติ ขณะนี้น้ำได้ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่โดยรอบวัดแล้ว
เบื้องต้นระดับน้ำได้ไหลเข้าสู่ลานพระอุโบสถและฐานเจดีย์บางส่วน แต่ ยังไม่ถึงระดับของภาพจิตรกรรมฝาผนังภายใน ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่สุดที่เก็บรักษาภาพเขียนโบราณอันทรงคุณค่า โดยเฉพาะภาพ “กระซิบรักบันลือโลก” ซึ่งเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของจังหวัดน่าน
สถานการณ์น้ำท่วมในเขตเมืองน่านยังคงน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะในเขตเศรษฐกิจ วัด และสถานที่ราชการสำคัญ ขณะที่หน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน ได้ประกาศเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง และเตรียมพร้อมอพยพหากสถานการณ์เลวร้ายลง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยการบรรลุข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่น โดยสหรัฐฯ จะจัดเก็บภาษีศุลกากรร้อยละ 15 กับสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่น ส่วนญี่ปุ่นจะลงทุนในสหรัฐฯ ราว 5.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 17.71 ล้านล้านบาท) ซึ่งจะได้รับกำไรร้อยละ 90 และเกิดการจ้างงานหลายแสนอัตรา นอกจากนั้นญี่ปุ่นจะเปิดการค้าขายรถยนต์ รถบรรทุก ข้าว สินค้าเกษตรบางรายการ และอื่นๆ กับสหรัฐฯ ด้วย
ก่อนหน้านี้ทรัมป์ส่งจดหมายถึงชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น โดยขู่จะจัดเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้กับญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 25 ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. ซึ่งสูงกว่าอัตราร้อยละ 24 ที่เคยประกาศวันที่ 2 เม.ย. หลังจากญี่ปุ่นที่เป็นหนึ่งในคู่ค้าหลักของสหรัฐฯ มีท่าทีแข็งกร้าวในการเจรจาการค้าทวิภาคี
ข้อมูลจากสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ระบุว่าสหรัฐฯ ขาดดุลการค้าสินค้ากับญี่ปุ่นในปี 2024 ราว 6.85 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.2 ล้านล้านบาท) โดยมีการนำเข้าจากญี่ปุ่น 1.48 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.77 ล้านล้านบาท) และการส่งออกสู่ญี่ปุ่น 7.97 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.57 ล้านล้านบาท)
นอกจากนั้นทรัมป์ประกาศการบรรลุข้อตกลงการค้ากับฟิลิปปินส์ หลังจากพบปะหารือกับเฟอร์ดินานด์ โรมวลเดซ มาร์กอส จูเนียร์ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ในวันอังคาร (22 ก.ค.)
ทำเนียบขาวยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ แต่เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมของข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับอินโดนีเซีย ซึ่งประกาศวันที่ 15 ก.ค. โดยอินโดนีเซียจะยกเลิกการจัดเก็บภาษีศุลกากรราวร้อยละ 99 กับสินค้าอุตสาหกรรม อาหาร และสินค้าเกษตรที่นำเข้าจากสหรัฐฯ พร้อมยกเลิกข้อจำกัดการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมสู่สหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงแร่ธาตุสำคัญ ส่วนสหรัฐฯ จะจัดเก็บภาษีศุลกากรร้อยละ 19 กับสินค้านำเข้าจากอินโดนีเซีย
ทั้งนี้ ทรัมป์ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมเพื่อขยายระยะเวลาะงับการจัดเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐฯ ระยะ 90 วัน จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 9 ก.ค. เป็นวันที่ 1 ส.ค.
23 กรกฎาคม 2568 กลายเป็นไวรัลไปทั่วโลกออนไลน์เมื่อศิลปินชื่อดังระดับโลก 'เคที่ เพอร์รี่' (Katy Perry) เกิดเหตุการณ์ระทึกขณะกำลังร้องเพลงโชว์ในคอนเสิร์ต The Lifetimes Tour 2025 ในสหรัฐอเมริกา โดยระหว่างที่เธอกำลังใช้สลิงบินลอยตัวร้องเพลงฮิต 'Roar'ไปรอบๆ ฮอลล์ในคอนเสิร์ต ก็ไดเเกิดเหตุการณ์ 'สลิง' ที่ติดกับอุปกรณ์โชว์ได้ขาด 1 เส้นกลางอากาศ ท่ามกลางสายตาของแฟนเพลงที่รับชมอยู่ภายในคอนเสิร์ต
ซึ่งศิลปินสาว 'เคที่ เพอร์รี่' โชว์ฟอร์มสุดปังไม่มีอาการตกใจกับเหตุการณ์ดังกล่าวเจ้าตัวยังคงจับโครงไว้และยืนหยัดบนเวทีอย่างมืออาชีพ พร้อมร้องเพลงอย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุดราวกับเหตุการณ์นั้นไม่เคยเกิดขึ้น เหตุการณ์ดังกล่าวถูกบันทึกไว้โดยแฟนคลับที่อยู่ในงานและแชร์คลิปลงบนโลกออนไลน์ จนกลายเป็นที่พูดถึงไปทั่วโลก หลายคนต่างชื่นชมในการควบคุมสถานการณ์ได้ดีของเธอ ส่วนอีกส่วนหนึ่งตำหนิไปที่ระบบเซฟตี้ว่าไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ทำไมขึ้นโชว์แล้วเกิดเหตุสลิงขาดขึ้นได้
23 กรกฎาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าจากกรณีที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น รายงานว่า ประเทศญี่ปุ่นยังคงเกิดแผ่นดินไหวต่อเนื่อง ในพื้นที่หมู่เกาะโทคาระ จังหวัดคาโกชิมะ ซึ่งเมื่อนับตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย. จนถึงปัจจุบันนี้พบแผ่นดินไหวสะสมแล้วกว่า 2,000 ครั้ง
ความคืบหน้าล่าสุด จังหวัดคาโกชิมะ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น ประกาศว่า ชาวบ้านบนเกาะอาคุเซกิ และโคดาคาระ ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องอพยพออกจากพื้นที่เนื่องจากแผ่นดินไหวต่อเนื่องบริเวณหมู่เกาะโทคาระ จะได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับเกาะได้แล้วโดยเรือเฟอร์รีที่จะออกจากท่าเรือคาโกชิมะในคืนวันที่ 25 กรกฎาคม การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ไม่มีแผ่นดินไหวระดับ 4 หรือสูงกว่าเกิดขึ้นเป็นเวลา 5 วันแล้ว
คุโบะ เก็นอิจิโระ นายกเทศมนตรีหมู่บ้านโทชิมะ กล่าวว่า จำนวนแผ่นดินไหวลดลง และมีความหวังว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง การช่วยเหลือผู้ประสบภัยก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน เราจึงต้องการเริ่มแจกจ่ายเงินโดยเร็วที่สุด โดยทางการจะมอบเงินช่วยเหลือแก่ทุกครัวเรือนบนเกาะอาคุเซกิจิมะ (43 ครัวเรือน 89 คน) และเกาะโคดาคาระ (36 ครัวเรือน 66 คน) ทางหมู่บ้านวางแผนที่จะใช้เงินช่วยเหลือจากภาษีท้องถิ่นและแหล่งเงินทุนทั่วไปของหมู่บ้าน โดยจะพิจารณาจำนวนเงินและระยะเวลาในการดำเนินการในอนาคต
หอสังเกตการณ์อุตุนิยมวิทยาประจำภูมิภาคฟุกุโอกะได้ชี้แจงว่า ยังไม่เป็นที่แน่ชัดในขณะนี้ว่าแผ่นดินไหวจะคลี่คลายลงหรือไม่ ทางหอสังเกตการณ์ฯ ยังคงเรียกร้องให้มีความระมัดระวังต่อการเกิดแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงสูงสุดไม่เกิน 6 (ตามมาตรวัดญี่ปุ่น)
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012