ข่าว
'สิงคโปร์'ประหารชีวิตนักโทษคดียาเสพติด คนที่ 2 ในรอบ 3 สัปดาห์

สมาชิกของกลุ่มปกป้องสิทธิพลเมืองในสิงคโปร์กล่าวว่า นักโทษชายรายนี้ถูกศาลตัดสินในปี 2019 ว่ามีความผิดในการลักลอบค้ากัญชาน้ำหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม ในขณะที่สำนักงานเรือนจำของสิงคโปร์กล่าวว่า นักโทษชายอายุ 36 ปีรายนี้ เป็นชาวสิงคโปร์และถูกแขวนคอในวันนี้

ภายในพื้นที่เรือนจำชางงี ส่วนสำนักงานยาเสพติดกลางของสิงคโปร์ หรือ ซีเอ็นบี กล่าวในแถลงการณ์ว่า จะไม่เปิดเผยชื่อของนักโทษรายนี้ ซึ่งเป็นไปตามความประสงค์ของครอบครัวของเขาที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ซีเอ็นบี กล่าวด้วยว่า นักโทษผ่านกระบวนการขั้นตอนต่างๆ ตามกฎหมายและได้รับคำปรึกษาทางกฎหมายตลอดจนเสร็จสิ้นกระบวนการ

การประหารชีวิตนักโทษรายล่าสุดในวันนี้ นับเป็นรายที่ 2 ของสิงคโปร์ในปีนี้ หลังจากที่นักโทษวัย 46 ปี ถูกแขวนคอเมื่อวันที่ 26 เมษายน จากความผิดฐานสมคบคิดลักลอบนำกัญชา 1 กิโลกรัม เข้าประเทศ ในขณะที่มีเสียงเรียกร้องจากนานาประเทศ ให้สิงคโปร์ทบทวนคำตัดสิน โดยกลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า มีจุดบกพร่องในคดีหลายจุด แต่รัฐบาลสิงคโปร์ยืนยันว่า ความผิดของเขาได้รับการพิสูจน์อย่างชัดแจ้งโดยไม่มีข้อสงสัย

ดึงมาได้อีก 2 พรรคเล็ก ล็อคขั้ว 8 พรรคร่วม 313 เสียง 'พิธา'ยังมั่นใจได้ตั้ง รบ.

เมื่อเวลา 20.00 น. ที่อาหาร Chez Miline ถนนสุโขทัย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) พร้อมแกนนำพรรค ก.ก.ได้เดินทางออกจากร้านพร้อมกล่าวว่าขอให้รอฟังแถลงพรุ่งนี้ (18 พ.ค.) ที่โรงแรมโอกุระ เพรสทีจ ซึ่งก็มีความชัดเจนในระดับหนึ่งที่พอจะแถลงข่าวได้

เมื่อถามว่า การพูดคุยในวันนี้ถือเป็นที่พอใจหรือไม่ นายพิธายิ้ม และกล่าวว่า เป็นที่พอใจและชื่นมื่น พอที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ อย่างที่บอกว่าอยากให้มีส่วนร่วมทั้งความชัดเจนและมีสเถียรภาพในการจัดตั้งรัฐบาล ส่วนจะมีการทำ MOU กันเลยหรือไม่นั้น ขอชี้แจงในวันพรุ่งนี้ว่ามีโรดแมปอย่างไร

เมื่อถามว่า ประชาชนค่อนข้างเป็นห่วง เรื่องการโหวต นายกรัฐมนตรี นายพิธา กล่าวว่า ขอให้มั่นใจในเอกภาพ และความชัดเจนของภาคที่ร่วมจัดตั้งรัฐบาล ยืนยันว่าสบายใจได้ ไม่มีความไม่แน่นอนอะไร ที่น่าวิตกกังวลจะพยายามให้มีเสถียรภาพในการบริหารประเทศให้มากที่สุดและเร็วที่สุด ย้ำว่าไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองแน่นอน

จากนั้น วลา 20.10 น. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ทราบว่ามีอีกสองพรรคจะเข้าร่วมคือพรรคพลังสังคมใหม่ 1 ที่นั่ง และเพื่อไทรวมพลัง 2 ที่นั่ง โดยประสานตรงไปยังนายพิธา เพื่อขอเข้าพรรคร่วมรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทำให้ขณะนี้มีพรรคร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลเป็น 8 พรรค รวม 313 ที่นั่ง


ฮือฮา!! ชาวบ้านเชื่อกินเลือด 'จระเข้' ช่วยระบบไหลเวียนโลหิต

17 พ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 146 หมู่ที่ 6 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านของนายวันชัย ชัยเกิด อายุ 53 ปีประธานกลุ่มผู้เลี้ยงจระเข้ จ.ตรัง ได้ใช้พื้นที่ว่างหลังบ้านเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ มาทำฟาร์มเลี้ยงจระเข้น้ำจืดนาน 5-6 ปีแล้ว โดยมีจระเข้ทั้งหมดจำนวน 120 ตัว และถือเป็นฟาร์มเลี้ยงจระเข้ที่ใหญ่ที่สุดใน จ.ตรัง ซึ่งแต่เดิมได้เลี้ยงจระเข้เพื่อส่งขายให้กับบริษัทฯ ในภาคกลาง แต่หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ส่งออกไม่ได้ เกษตรกรจึงหันมาขายให้กับลูกค้าที่มาขอซื้อแบบเป็นตัว เพื่อนำไปทำจระเข้หัน หรือชำแหละไปประกอบอาหารตามงานเลี้ยงและงานมงคลต่าง ๆ ในราคาตั้งแต่ตัวละ 4,500-8,000 บาทแล้วแต่น้ำหนัก

แต่เมื่อถึงเวลาชำแหละจระเข้เพื่อส่งงานเลี้ยง ปรากฏว่ามีชาวบ้านที่เคยดื่มเลือดจระเข้เป็นยา และกำลังเสาะหาเลือดจระเข้อยู่ ได้แห่กันมาขอเลือดจระเข้กันหลายราย ซึ่งจระเข้ 1 ตัวจะมีเลือดประมาณ 100 ซีซีหรือประมาณ 1-2 แก้ว และหากต้องการนำเลือดไปดื่มเป็นยา จะต้องเป็นจระเข้ที่มีอายุตั้งแต่ 3 ปีครึ่งถึง 4 ปี เนื่องจากเป็นวัยที่สุขภาพแข็งแรงและสมบูรณ์ที่สุด แต่จระเข้มีเลือดน้อย ทำให้ลูกค้าต้องมีการจับจองกันไวก่อนล่วงหน้า เพราะเชื่อว่าเลือดจระเข้เป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยระบบการไหลเวียนของโลหิต ช่วยเสริมสร้างเม็ดเลือดแดงเพิ่มเกล็ดและเม็ดเลือดขาว รักษาแผลโรคเบาหวานให้แห้งสนิทเร็วขึ้น รักษาโรคโลหิตจางลดน้ำตาลในเลือด บรรเทาอาการเหนื่อยหอบ บำรุงเซลล์ไข่และสเปิร์มให้แข็งแรง เหมาะสำหรับคนที่มีบุตรยากและอื่น ๆ

ซึ่งเลือดจระเข้ที่ได้ หากเป็นเพื่อนฝูงกันก็จะนำมาดองเหล้า แล้วแบ่งกันดื่ม โดยมีหลายรายซื้อจระเข้ไปชำแหละช่วยงานเลี้ยง แต่ขอเลือดเพื่อมาทำเป็นยา ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงจระเข้พอลืมตาอ้าปากได้ ส่วนราคาขายเมื่อผสมเหล้าขาวแล้วมีตั้งแต่ 200-300 บาทต่อแก้ว โดยหนังจระเข้นำไปฟอกทำเครื่องหนัง กระดูกและฟันของจระเข้ก็นำมาทำยา หัวเข็มขัด กระเป๋า รองเท้าและเครื่องประดับต่างๆ

ด้านนายโรจกร นานอน อายุ 52 ปีนักธุรกิจในตำบลนาท่ามใต้ อ.เมืองตรัง กล่าวว่า ตนเชื่อว่ามีสรรพคุณเรื่องของการบำรุงเลือด บำรุงร่างกาย กระษัยเส้นโดยตนเองได้ทดลองดื่มมาประมาณ 1-2 เดือน นำมาผสมเหล้า เมื่อก่อนมีอาการอ่อนเพลีย แต่พอได้ลองรู้สึกร่างกายดีขึ้น ส่วนมากจะเกี่ยวกับบำรุงร่างกาย ซึ่งตนดื่มวันละ 2 เวลาคือเช้ากับเย็น โดยเชื่อจากคำโบราณที่บอกต่อกันมา หาซื้อยากและน่าจะมีอยู่ที่เดียวใน จ.ตรัง เพราะฟาร์มนี้จะมีจระเข้เยอะในภาคใต้และเจ้าของฟาร์มก็ยังเป็นประธานกลุ่มผู้เลี้ยงจระเข้ด้วย ส่วนตนเองก็จะนำเอาน้ำมันจระเข้ไปผลิตเครื่องสำอางด้วยเป็นโลชั่น เอามาสกัดเชื่อว่าบำรุงผิวรักษาพวกสะเก็ดเงิน พวกผิวแห้ง

ส่วนนายวันชัย ชัยเกิด ประธานกลุ่มผู้เลี้ยงจระเข้จ.ตรัง กล่าวว่า สำหรับราคาขายนั้นจะวัดที่รอบตัว รอบอก และวัดความยางของจระเข้ แล้วก็ดูหนังที่ท้องจระเข้ถ้าติดเกรดราคาก็จะอยู่ที่ หมื่นกว่าบาท ถ้าไม่ติดเกรดราคาก็จะอยู่ที่ 5,000-6,000 บาท มีเกรด A,B,C มีสามเกรด ส่วนชาวบ้านที่ซื้อไปก็จะนำไปทำเป็นอาหารเมนูต่างๆ ทราบว่ารสชาติอร่อยกว่าไก่ หรือเนื้อวัว ซึ่งตนเลี้ยงเองก็ไม่เคยกิน แต่พอได้ลองกินก็รู้สึกติดใจในรสชาติ


ทัพ ‘ทุเรียนไทย’ บุกตลาดจีน ยอดขายพุ่งทะยาน

หนานหนิง (ซินหัว)- ตลาดค้าส่งผลไม้หนานหนิง ไห่จี๋ซิง ซึ่งเป็นตลาดค้าส่งผลไม้ขนาดใหญ่ที่สุดในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน มีชีวิตชีวาตั้งแต่ยามเช้ามืด รถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันใหญ่วิ่งเข้า-ออกและหยุดจอดขนถ่ายสินค้าหน้าแผงทุเรียน โดยมีผู้ซื้อจับกลุ่มรออยู่ก่อนแล้ว

บรรดาพ่อค้าแม่ขายรายใหญ่ต่างคึกคักกระปรี้กระเปร่าหลังจากเข้าสู่“ฤดูทุเรียน” ซึ่งปีนี้ทุเรียนไทยบุกตลาดจีนเร็วกว่าปีก่อน โดยทุเรียนจากจังหวัดจันทบุรีจะถูกเก็บเกี่ยวและขนส่งถึงชั้นวางสินค้าของซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วแผ่นดินใหญ่ของจีนภายในเวลาเพียงราวหนึ่งสัปดาห์ เช่น “ทุเรียนซีพี เฟรช” (CP Fresh) ถูกขนส่งถึงจีนและกระจายสู่ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่หลายแห่งอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อทุเรียนคุณภาพดีและสดใหม่ที่สุด โดยซีพีเอฟ (CPF) จัดสารพัดกิจกรรมส่งเสริมการขายทุเรียนหมอนทองหอมหวาน ดึงดูดผู้บริโภคมาซื้อไม่ขาดสาย

เหลียงซูถิง ประธานซีพีเอฟ สาขาหนานหนิง เผยว่ายอดจำหน่ายทุเรียนเฉลี่ยรายวันช่วงจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสูงเกิน 100 กล่อง โดยหลายปีที่ผ่านมา ซีพีเอฟ ได้พัฒนาการจัดการห่วงโซ่อุตสาหกรรมทุเรียนแบบครบวงจร กำหนดมาตรฐานของสินค้า ทำให้ผู้บริโภครู้สึกเหมือน“รับประทานทุเรียนกลางสวนในไทย”

จีนเป็นตลาดผู้บริโภคทุเรียนขนาดใหญ่และปริมาณการบริโภคเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี โดยทุเรียนครองตำแหน่ง “ราชาผลไม้นำเข้า” ของจีนตั้งแต่ปี 2019 และปริมาณการนำเข้าในปี 2022 สูงถึง 8.25 แสนตัน มูลค่า 4.03 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.36 แสนล้านบาท) ซึ่งเป็นทุเรียนไทยถึง 7.8 แสนตัน ขณะที่ปัจจุบันมีผู้ค้าส่งทุเรียนในตลาด 32 ราย ยอดค้าส่งในปีก่อนอยู่ที่ 24,000 ตัน ส่วนยอดจำหน่ายในปีนี้อยู่ที่ 17,000 ตัน เมื่อนับถึงวันที่ 5 พ.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 4 เท่า โดยทุเรียนหมอนทองของไทยมียอดจำหน่ายสูงสุด

แต่ละปี ทุเรียนไทยเริ่มส่งออกสู่ตลาดจีนในเดือนเมษายน และพุ่งแตะระดับสูงสุดช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม ช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีการจัดตั้งห่วงโซ่อุปทานผลไม้อาเซียนอย่างทุเรียน มะพร้าว และลำไย โดยบริษัททำการค้าส่ง การจำหน่ายผ่านไลฟ์สตรีมมิ่ง และการวางจำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ต ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักอย่างมาก ส่งผลให้ปริมาณการนำเข้าทุเรียนเพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน การก่อสร้างระเบียงการค้าทางบก-ทางทะเลระหว่างประเทศใหม่ เส้นทางตะวันตก การเปิดใช้ทางรถไฟจีน-ลาว และการมีผลบังคับใช้ของความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ในช่วงไม่นานนี้ ช่วยพัฒนาระบบโลจิสติกส์ข้ามพรมแดนเพิ่มขึ้นและเกื้อหนุนการค้าข้ามภูมิภาค เช่น “ทุเรียนไทย” นอกจากถูกนำเข้าสู่จีนทางอากาศ ยังมีการนำเข้าทางบก รวมถึงทางทะเลจากท่าเรือแหลมฉบังของจังหวัดชลบุรีไปยังท่าเรือชินโจวของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง และท่าเรือหนานซาของมณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) อีกด้วย


จับ'รมต.อินโดนีเซีย'ในคดีสินบนเกี่ยวกับโทรคมนาคม โทษหนักคุก 20 ปี

17 พ.ค.66 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายจอห์นนี เจอราร์ด เพลท รัฐมนตรีกระทรวงการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ ถูกสอบปากคำที่สำนักงานอัยการเป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนที่จะถูกนำตัวขึ้นรถยนต์ไปยังศูนย์ควบคุมตัวในกรุงจาการ์ตา

กุนทาดี ผู้อำนวยการด้านการสอบสวนคดีอาชญากรรมพิเศษของสำนักงานอัยการ กล่าวว่า จากการสอบสวนในวันนี้ สามารถลงความเห็นได้ว่า สำนักงานอัยการมีหลักฐานเพียงพอที่จะชี้ว่า นายเพลท มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตเกี่ยวกับสถานีฐานรับส่งสัญญาณ หรือ บีทีเอส แต่สำนักงานอัยการไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับบทบาทของนายเพลทในคดีนี้หรือเขาได้รับเงินผลประโยชน์เป็นจำนวนเท่าใด โดยอ้างว่า การสอบสวนกำลังดำเนินอยู่ อย่างไรก็ตาม การทุจริตนี้ทำให้รัฐบาลต้องสูญเสียเงินเป็นจำนวน 540 ล้านดอลลาร์ รายงานระบุว่า หากพบว่ามีความผิดจริงนายเพลทจะถูกจำคุก 20 ปี

สำนักงานอัยการ กล่าวว่า พบความผิดปกติในกระบวนการจัดซื้อที่เกี่ยวข้องกับบริษัทในประเทศและต่างประเทศ โดยก่อนหน้านี้ได้เปิดเผยชื่อผู้ต้องสงสัย 5 ราย รวมถึงผู้บริหารของบริษัทในเครือของหัวเว่ย ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของจีน

ทั้งนี้ โครงการบีทีเอส อยู่ภายใต้การดูแลของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการสื่อสารและมีเป้าหมายในการให้บริการอินเทอร์เน็ต 4จี ในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศอินโดนีเซีย

ผู้นำเกาหลีเหนือเยี่ยมชมดาวเทียมจารกรรมดวงแรก

17 พ.ค.66 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือเยี่ยมชมดาวเทียมจารกรรมทางทหารดวงแรกของเกาหลีเหนือและเปิดไฟเขียวให้เดินหน้าตามแผนปฏิบัติการในอนาคต

สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือ เคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือรายงานวันนี้ว่า นายคิมได้พบหารือกับคณะกรรมการชั่วคราวเพื่อเตรียมการปล่อยดาวเทียมในวันอังคารก่อนที่จะเข้าชมดาวเทียม เมื่อเดือนก่อน นายคิมกล่าวว่า การสร้างดาวเทียมเสร็จสิ้นแล้วและอนุมัติให้ปล่อยดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรในอวกาศได้

เคซีเอ็นเอ รายงานว่า ในระหว่างการเยี่ยมชมดาวเทียมในวันอังคาร นายคิมรับทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการทำงานของคณะกรรมการและเขายังได้ตรวจดูดาวเทียมลาดตระเวนทางทหารหมายเลข 1 ซึ่งจะพร้อมสำหรับการส่งขึ้นสู่อวกาศ หลังจากตรวจสอบการประกอบดาวเทียมในขั้นสุดท้ายและทดสอบสภาพแวดล้อมในอวกาศแล้ว นอกจากนั้น นายคิมยังให้ความเห็นชอบแผนปฏิบัติการในอนาคตของคณะกรรมการเตรียมการฯ

การพัฒนาดาวเทียมลาดตระเวนทางทหารเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญด้านกลาโหมที่นายคิมกำหนดไว้ในปี 2021 รัฐบาลเกาหลีเหนือยังไม่ได้กำหนดวันปล่อยดาวเทียมดวงนี้แต่นายคิมกล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า ดาวเทียมจะถูกส่งเข้าสู่วงโคจรตามวันที่ได้วางแผนไว้แล้ว