ข่าว
วงการน้ำหมึกช็อค!นักเขียนดัง"สรจักร ศิริบริรักษ์" เจ้าของเรื่องสั้น"ศพใต้เตียง" เสียชีวิตแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ว่า มีรายงาน พบศพ สรจักร ศิริบริรักษ์ อายุ 58 ปี นักเขียนเรื่องสั้นชื่อดังแนวเขย่าขวัญ ฆาตกรรมอำพราง ฉายา "สตีเฟ่น คิง เมืองไทย" ซึ่งเสียชีวิตในบ่อปลาคาร์ฟ ระดับความลึก 2 เมตร หลังบ้านพักย่าน เขตสายไหม กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อเวลา 14.00 น. เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม

สำหรับสรจักร มีผลงานหนังสือสารคดีด้านนิติเวชศาสตร์และโภชนาการ รวมถึงเรื่องสั้นอีกจำนวน 200 เรื่อง อาทิ ศพข้างบ้าน ศพใต้เตียง อำพรางอำยวน ผีหัวขาด ศพท้ายรถ ผีหัวเราะ(ดาวโจร) ผีหัวขาด ผีหลอก วิญญาณครวญ และคนสองวิญญาณ เป็นต้น ก่อนที่จะป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน และปอดบวมแทรกซ้อน จึงต้องหยุดงานเขียนไปในช่วงปี 2550 โดยเรื่อง "นักฆ่าบ้ากาม" เป็นงานเขียนอาชญาคดีเรื่องสุดท้าย ซึ่งก่อนหน้าจะเสียชีวิต 3 สัปดาห์ นักเขียนดัง ก็เพิ่งได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลภูมิพลฯ

ประวัติของ สรจักร เป็นชาวจังหวัดบุรีรัมย์ เกิดเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2498 เป็นบุตรคนที่สองของครอบครัวข้าราชการ โดยบิดาคือ นายชัยบุรี ศิริบริรักษ์ รับราชการในกรมชลประทาน และมารดา - นางสมถวิล ศิริบริรักษ์ เป็นข้าราชการครู หนึ่งปีถัดมา ครอบครัวย้ายไปตั้งถิ่นฐานที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งในขณะนั้นเศรษฐกิจกำลังรุ่งเรืองจากผลของการเข้ามาตั้งฐานทัพของกองทัพสหรัฐในช่วงสงครามเวียดนาม ครอบครัวศิริบริรักษ์มีกิจการบังกะโลให้ทหารอเมริกันเช่า และทำฟาร์มไก่เนื้อ/ไข่ หมู วัว ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และลูกทั้งห้าคนถูกสอนให้มีส่วนช่วยในกิจการตั้งแต่เด็ก

หลังจบมัธยมศึกษาปีที่สาม จากโรงเรียนอัสสัมชัญนครราชสีมา สรจักร ได้ย้ายเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนต่อมัธยมปลายที่โรงเรียนวัดราชโอรส และสอบเข้าเรียนในคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีความสนใจพืชสมุนไพรไทยเป็นตัวกระตุ้น หลังจบปริญญาเภสัชศาสตร์บัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี พ.ศ. 2521 สรจักรเลือกทำงานในชนบท โดยเริ่มงานในตำแหน่งลูกจ้างของโรงพยาบาลขนอม อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช รับค่าจ้างเริ่มต้น ในอัตราเดือนละ 750 บาท และได้เรียนรู้การดำรงชีวิตแบบชาวบ้านชนบท ปลูกผัก จับปลาทะเล ดำน้ำ เดินป่าหาสมุนไพร ซึ่งประสบการณ์ตรงเหล่านี้ รวมทั้งการช่วยแพทย์ผ่าตัด ชันสูตรศพ ฉีดศพ ฯลฯ ได้กลายเป็นข้อมูลที่สำคัญยิ่งในการผลิตงานเขียนในเวลาต่อมา

เมื่อศึกษาต่อปริญญาโท ด้านสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยมหิดล สรจักรขอย้ายกลับมาอยู่กรุงเทพฯ ในตำแหน่งเภสัชกรชำนาญการพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงฯ กระทรวงสาธารณสุข

นายกฯร่วมงานเลี้ยงฉลอง 180 ปีความสัมพันธ์ไทย- สหรัฐฯ

วันที่ 29 มิ.ย. เวลา 19.00 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะแขกเกียรติยศ เป็นประธานกล่าวเปิดงานเลี้ยงรับรองเฉลิมฉลองมิตรภาพไทย-สหรัฐ ในโอกาสที่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้ง 2 ประเทศ ครบ 180 ปี โดยมีนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ในฐานะเจ้าภาพ ขณะที่ด้านสหรัฐฯมีนางคริสตี้ เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย และคณะจากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย รวมถึงบุคคลสำคัญจากวงการต่างๆ และคณะนักเรียนนักศึกษาจากโรงเรียนและสถาบันพี่น้องไทย-สหรัฐ ในกรุงเทพฯ กว่า 200 คน มาเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ภายในงานแบ่งเป็นงานเลี้ยงรับรอง และการออกร้านหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ พร้อมนิทรรศการเกี่ยวกับความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานเลี้ยงรับรอง ว่า ตนขอชื่นชมความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯที่ใกล้ชิดและดำเนินมาครบรอบ 180 ปี โดยไทยเป็นพันธมิตรที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐฯในเอเชีย และปัจจุบันมิตรภาพนับวันยิ่งแน่นแฟ้น ด้วยการยึดมั่นในคุณค่าประชาธิปไตยและสิทธมนุษยชนร่วมกัน อีกทั้งมีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการเป็นหุ้นส่วนที่พัฒนาเติบโต และสร้างประโยชน์ต่อภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ขณะที่ความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนมีความเข้มแข็ง สหรัฐฯถือเป็นคู่ค้าและนักลงทุนที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของไทย และมีนักท่องเที่ยวจากสหรัฐฯ กว่า 800,000 คน มาท่องเที่ยวไทยในแต่ละปี นอกจากนี้ ด้านการศึกษา มีนักศึกษาไทยจำนวนมากสำเร็จการศึกษาจากสหรัฐฯ เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี อีกทั้ง ไทยสนับสนุนการมีส่วนร่วมของสหรัฐฯในภูมิภาค ทั้งกับอาเซียนและหุ้นส่วนอื่นๆ เพื่อสร้างอนาคตที่รุ่งเรืองยิ่งขึ้นร่วมกัน ด้วยกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กว้างขวางยิ่งขึ้น ดังนั้น ไทยจึงยินดีสนับสนุนนักลงทุนสหรัฐฯในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การศึกษา และสาขาอื่นๆในไทยและอาเซียน พร้อมทั้งยินดีต้อนรับนักลงทุนจากสหรัฐฯในการลงทุนโครงการพัฒนาเครือข่ายคมนาคมของรัฐบาล รวมถึงหวังว่าจะได้หารือเพื่อเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนไทย-สหรัฐฯ และผลประโยชน์ต่อภูมิภาคกับนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ในอนาคตอันใกล้นี้

แอพติ๊กเก้อคำคมท้ายรถสิบล้อ หนังสือการ์ตูนขายได้เราก็อยู่ได้

จนถึงวันนี้แอพฝีมือคนไทย มียอดดาวน์โหลดกว่า 4 ล้านครั้ง ได้ลูกค้าจากกลุ่มธุรกิจทั้งยาสตรีเบนโล ยาแก้ไอเสือดาว ธนาคาร ธุรกิจประกันและค่ายมือถือ ค่าใช้จ่ายถูกกว่าแอพไลน์กว่าครึ่ง

นายยุคลอาจ ชาญพานิชกิจการ ผู้บริหารของแอพติ๊กเก้อ (Ticker) จากบริษัทแอบโซลูทเพลย์ จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ “เดลินิวส์” ว่า หลังจากแอพติ๊กเก้อได้รับความนิยมอย่างมาก จนถึงขณะนี้มียอดดาวน์โหลดแล้วกว่า 4 ล้านครั้ง ขณะนี้ทีมงานได้อัพเดทลูกเล่นใหม่ ๆ เพิ่มเติม เช่น คำคมตามเทศกาล คำตามภูมิภาค และภาษาถิ่น รวมถึงฟิลเตอร์และภาพการ์ตูนแบบใหม่ ๆ เป็นประจำ ขณะนี้ได้รับการติดต่อจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีวัฒนธรรมใกล้เคียงกับประเทศไทย เช่น โอปเรเตอร์จากลาว ได้ติดต่อมาเพื่อขอทำแอพติ๊กเก้อร่วมกัน โดยจะต่อยอดเป็นคำคม คำขบขันในสไตล์ภาษาลาว

ผู้บริหารแอพติ๊กเก้อ ยอมรับว่า แอพติ๊กเก้อ ไม่ใช่ธุรกิจหลักของบริษัท แต่เกิดขึ้นจากทีมงานของเราที่มีประมาณ 4 คน ใช้เวลาว่างร่วมกันพัฒนา ตอนแรกก็คาดว่าขอแค่มีคนเข้ามาดาวน์โหลด 2 แสนครั้งก็พอใจแล้ว แต่ปรากฏว่า มีมากถึง 4.2 ล้านครั้ง

“ในเร็ว ๆ นี้จะให้บริการแอพติ๊กเก้อบนแบล็คเบอร์รี่เวิลด์ และวินโดว์สขณะนี้มีหลากหลายธุรกิจที่สนใจนำแอพติ๊กเก้อไปต่อยอดธุรกิจหรือใช้เป็นลูกเล่นในการทำตลาด เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ อยุธยาอลิอันซ์ ยาสตรีเบนโล ทรู เอ็มเคสุกี้ ยาสีฟันซอลส์ ฯลฯ เราให้บริการคล้ายไลน์ แต่ราคาถูกกว่ามากกว่าครึ่ง”

นายยุคลอาจ กล่าวว่า คิดค่าใช้จ่ายกับลูกค้าในแบบคนไทย โดยคิดเป็นแพ็กเกจ ลูกค้าที่ติดต่อเข้ามารายแรกคือ ยาสตรีเบนโล กับคำว่า เจ้าหญิงเบนโล ซึ่งผู้ที่ดาวน์โหลดแอพไปใช้งานก็แค่ถ่ายรูปแล้วเอาคำที่ถูกใจไปแปะก่อนจะแชร์บนเครือข่ายโซเชียลเน็ตเวิร์ก ผลตอบรับค่อนข้างดี เพราะคนไทยชอบเรื่องสนุก ๆ เรื่องตลก

ทีมงานแอบโซลูทเพลย์ จะคงพัฒนาต่อยอดแอพติ๊กเก้อต่อไปเรื่อย ๆ ให้ผู้ใช้สนุกหลากหลายรูปแบบ กับข้อความบนท้ายรถสิบล้อ ก็ทำให้เราสนุกสนานได้

สำหรับคนที่อยากเป็นนักพัฒนาที่ประสบความสำเร็จ นายยุคลอาจ แนะนำว่า ถ้าคิดอะไรได้ให้ลงมือทำทันที อย่าได้แค่คิด ถ้าทำจะได้รู้ว่าสิ่งที่คิดนั้นเป็นไปได้หรือไม่ เราอาจจะถูกสอนให้มองตลาดต่างประเทศเป็นหลัก แต่อย่ามองข้ามตลาดในไทย ยังมีคนไทยอีกมากมายอยากจะสนับสนุนคนไทยด้วยกัน เพราะมีแต่คนไทยที่จะเข้าใจความคิด ความรู้สึกของคนไทย จะทำอะไรโดนใจมากกว่า

ตราบใดที่หนังสือการ์ตูน เรื่องขำขันยังขายได้ เชื่อมั่นว่าแอพติ๊กเก้อจะยังคงไปได้เรื่อย ๆ ในธุรกิจนี้

วิธีดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นติ๊กเก้อ ถ้าใช้ไอโฟน ไอแพด ดาวน์โหลดที่แอพสโตร์ ส่วนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เข้าไปที่เพลย์สโตร์ แล้วไปช่องค้นหา พิมพ์คำว่า Ticker