10 ต.ค.61 นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กช่วงตี 3 ระบุข้อความชี้แจงแทนนายพานทองแท้ ชินวัตร ระบุว่า คดีฟอกเงินที่อัยการคดีพิเศษกำลังจะนำตัวโอ๊คไปฟ้องที่ศาลอาญาคดีทุจริต ยังมีความพิเศษพิสดารอีกหลายประการที่สมควรบันทึกไว้ ประกอบด้วย
(1) คตส. ได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีความผิดฐานฟอกเงิน กรณีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) อนุมัติสินเชื่อโดยทุจริตให้แก่บริษัทในเครือกฤษดามหานคร มาให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550
(2) มีผู้เกี่ยวข้องที่ได้รับเช็คจากนายวิชัย กฤษดาธานนท์ แบบเดียวกับโอ๊คประมาณ 150 ราย ซึ่งรวมถึงนายทหารยศพลเอกและพลเรือโท แต่ปรากฏว่า ดีเอสไอเลือกดำเนินคดีกับโอ๊คและผู้ใกล้ชิดเพียง 4 ราย ส่วนผู้ที่ได้รับเช็ครายอื่นๆ ไม่มีการดำเนินคดีแต่อย่างใด
(3) จนกระทั่งนายวีระ สมความคิด นายวันชัย บุนนาค และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกรายโดยไม่เลือกปฏิบัติ ดีเอสไอจึงเพิ่งแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนขึ้นทำการสอบสวนผู้ถูกกล่าวหาอื่นเมื่อเดือนสิงหาคม 2561
(4) ดีเอสไอใช้เวลาสอบสวนผู้ถูกกล่าวหาอื่นที่ได้รับเช็ค 159 รายเพียง 1 เดือน โดยสอบผู้กล่าวหาคือนายวีระ นายวันชัย และนายเรืองไกร รวม 3 ปาก สอบพนักงานสอบสวนเป็นพยานรวม 2 ปาก จากนั้นจึงมีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดอ้างว่า “ผู้ได้รับเช็คไม่ทราบว่าเงินดังกล่าวมาจากที่ใด” โดยไม่ได้สอบปากคำผู้ถูกกล่าวหาแต่กลับทราบว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่ทราบแหล่งที่มาของเงิน
(5) คดีที่เกี่ยวกับพลเอกท่านหนึ่งที่ได้รับเช็คจากนายวิชัยซึ่งขาดอายุความตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2561 โดยไม่ปรากฏว่ามีการสั่งคดีในเรื่องนี้อย่างไร คดีขาดอายุความขณะอยู่ในความรับผิดชอบของใคร
(6) วงเงินที่ถูกกล่าวหาว่ามีการกระทำความผิดคือ 9,900 ล้านบาท นอกจากโอ๊คที่คืนเงินจำนวน 10 ล้านบาทแล้ว จำนวนที่เหลือได้มีการติดตามยึดหรืออายัดคืนหลวงหรือไม่ หรือที่โอ๊คถูกดำเนินคดีเพราะเป็นคนเดียวที่คืนเงิน
วันที่ 6 ต.ค. ศึก “วัน คิงดอม ออฟ ฮีโร่” ที่อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี โดยเป็นการป้องกันแชมป์โลก WBC รุ่นซุปเปอร์ฟลายเวท ระหว่าง “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น แชมป์โลกขวัญใจชาวไทย เจ้าของเข็มขัดเดอะริง วัย 31 ปี พบ อิราน ดิอาซ รองแชมป์โลกอันดับ 12 วัย 28 ปี ชาวเม็กซิกัน
ยกแรก เจ้าแหลมปล่อยหมัดซ้ายทักทาย ดิอาซรอดักสวน จากนั้นทั้งคู่เดินหน้าบวกกัน ศรีสะเกษปล่อยหมัดซ้ายเข้าหน้าดิอาซเต็มๆ ชาวไทยเฮกันลั่นสนาม จากนั้นแหลมลุยต่อเดินหน้าอัดลำตัวแบบต่อเนื่อง ทำเอาดิอาซเริ่มมีอาการ ยกที่ 2 แหลมเดินหน้าปล่อยหมัดใส่อิอาซแบบรัวๆ เหมือนไปโกรธใครมา ส่วนดิอาซเริ่มเดินช้าลง แต่เจ้าแหลมยังเดินเข้าหาไม่หยุด หาจังหวะปล่อยหมัดซ้ายเข้าลำตัว ตามด้วยหมัดขวาอีกที ส่วนดิอาซนานๆ จะออกหมัดสักที ยกที่ 3 แหลมยังเป็นฝ่ายคุมเกมไว้ได้ ออกหมัดใส่ดิอาซเป็นระยะ ดิอาซโดนเข้าลำตัวทีไรมีอาการตลอด
ยกที่ 4 เจ้าแหลมเริ่มคลุกวงในมากขึ้น ทำให้ดิอาซต้องถอยห่างออกมา จากนั้นดิอาซปล่อยหมัดขวาเข้าหน้าเจ้าแหลมได้เหมือนกัน ส่วนเจ้าแหลมเน้นต่อยที่ลำตัวเป็นหลัก ช่วงท้ายยกเจ้าแหลมอัดหมัดเข้าหน้าดิอาซดังสนั่น คะแนนขึ้นมาหลังจบยกนี้ศรีสะเกษเหนือกว่าพอสมควร ยก 5 ดิอาซเริ่มเคลื่อนที่มากขึ้น ส่วนเจ้าแหลมหาจังหวะต่อยใส่ลำตัวได้ดี จากนั้นเจ้าแหลมอัปเปอร์คัตด้วยซ้ายโดนเต็มๆ ดิอาซถึงกับเสียหลักไปเหมือนกัน ยก 6 เกมการชกยังสนุก ดิอาซปล่อยหมัดรบกวน เจ้าแหลมปล่อยอัดลำตัวคืน ตามด้วยหมัดชุด ไม่มีใครยอมใครจริงๆ
ยกที่ 7 เจ้าแหลม เดินเร็วขึ้นอย่างชัดเจน ปล่อยหมัดซ้ายทีขวาที เน้นลำตัวเป็นหลัก นวดดิอาซไปได้เยอะเหมือนกัน จากนั้นเจ้าแหลมยังทำได้ดีในการต่อยระยะแคบๆ และมีหมัดชุดให้เห็น เพิ่มความหลากหลายขึ้นเยอะ
ยกที่ 8 เจ้าแหลมปล่อยหมัดเข้าใส่เน้นๆ ดิอาซมีสะเทือน ตามด้วยอัดเข้าลำตัวได้ดี จากนั้นเจ้าแหลมพลาดโดนอัปเปอร์คัตขวา ถึงกับร่วงไปเลย และส่งผลให้อิอาซชกมั่นใจมากขึ้น
ยกที่ 9 เจ้าแหลมลุยต่อ เน้นอัดที่ลำตัวเหมือนเดิม แต่มาพลาดลื่นเลยโดนหมัดขวาไปนิดนึงแต่ไม่สะเทือน เจ้าแหลมยังมุ่งมั่นเดินเข้าหาดิอาซ จิ้มซ้ายเข้าลำตัว และออกหมัดอย่างต่อเนื่อง และทางดิอาซเหมือนจะมีแผลแตกที่คิ้วขวาและซ้าย
ยกที่ 10 ศรีสะเกษเดินหน้า ปล่อยหมัดย้ำไปที่แผลแตกของดิอาซ ทำเอาดิอาซต้องฉากหนีเป็นระยะ แต่เจ้าแหลมยังคงเดินหน้าปล่อยหมัดซ้ายขวาต่อเนื่อง ชกได้ใจแฟนสุดๆ
ยกที่ 11 ทั้งคู่เดินลุยเข้าหากันอย่างดุเดือด ยังเดินหน้าปล่อยหมัดใส่ดิอาซได้ดี
ยกที่ 12 ดิอาซทำมือเชิญเจ้าแหลมเข้ามาหน่อย แต่เจ้าแหลมไม่ประมาทยังชกตามเกมของตัวเองได้ดี ยกนี้เจ้าแหลมรีแลกซ์แล้ว ช่วงท้ายยกดิอาซพยายามเร่งแต่ระฆังหมดยกดังเสียก่อน
ครบ 12 ยก กรรมการรวมคะแนน ก่อนชูมือให้ ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ชนะ อิราน ดิอาซ ไปแบบเอกฉันท์ ป้องกันแชมป์โลกสำเร็จ
8 ต.ค.61 นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค จับกุมนายวัชรชัย สมีรักษ์ ปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี และคณะรถยนต์ออฟโร้ด จำนวน 6 คัน รวม 12 คน พร้อมอาวุธปืน และซากอุ้งเท้าหมีขอว่า ตนได้ลงนามในหนังสือให้นายวัชรชัย และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) อีก 2 คน ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว เพื่อรอการสอบสวนว่าผิดจริงหรือไม่ ถ้าหากพบว่าผิดจริง หลังออกจากราชการแล้ว จะตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และสอบวินัยร้ายแรงต่อไป แต่ถ้าไม่ผิดก็ให้กลับเข้ามาทำงานเหมือนเดิม ส่วนการดำเนินคดีทางอาญา ทางสภ.ไทรโยค กำลังสอบปากคำทั้งหมดอยู่
“ทุกคนรู้ดีว่า เรื่องการตรวจจับพวกลักลอบล่าสัตว์ป่า เป็นนโยบายที่ทางรัฐบาลได้แจ้งให้ทุกฝ่ายทราบอยู่แล้ว เรามีความเข้มข้นในการตรวจจับ จะเห็นว่าที่ผ่านมาที่มีการจับกุมคดีล่าเสือดำ หรือคดีนี้ก็ดี ไม่มีการไว้หน้าใคร ดังนั้นขอยืนยันว่ามาตรการเราเข้มข้นอยู่แล้ว” ผู้ว่าฯกาญจนบุรี กล่าว
8 ต.ค.61 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่มีกระแสข่าว เมื่อวันที่ 5 ต.ค.ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะมอบอำนาจให้ทนายความเดินทางมา ยื่นคำร้องขอถอนฎีกาวันที่ 8 ต.ค.นี้ คดีร่วมกับอัยการเป็นโจทก์ฟ้อง นายศิริโชค โสภา , นายชวนนท์ อินทรโกมาลสุต และนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และผู้ดำเนินรายการ "สายล่อฟ้า" ทางสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมช่องบลูสกาย ตกเป็นจำเลย ฐานหมิ่นประมาท น.ส.ยิ่งลักษณ์ กรณี ว.5 โฟร์ซีซั่นส์ จนได้รับความเสียหาย โดยศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนให้จำคุกคนละ 1 ปี ปรับคนละ 50,000 บาท โดยโทษจำคุกรอลงอาญาคนละ 2 ปี นั้น
ล่าสุดเมื่อสิ้นสุดเวลาราชการของศาล เวลา 16.30 น.ก็ปรากฏว่า ยังไม่มีทนายความคนใดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มายื่นคำร้องขอถอนฎีกานายศิริโชค กับพวกในคดีดังกล่าว โดยมีมีรายงานข่าวแจ้งว่าทางทีมทนายความยังไม่ได้รับเอกสารที่จะดำเนินการเกี่ยวกับการขอถอนฎีกาให้ครบถ้วน จึงยังไม่ได้เดินทางมายื่นคำร้องถอนฎีกาในวันนี้ได้
สำหรับกรณีดังกล่าวเป็นข่าวโด่งดังสังคมให้ความสนใจ เมื่อมีการเผยแพร่เอกสารผ่านโซเชียลมีเดีย ในวันที่ 5 ต.ค.61 กระทั่งเป็นข่าวตามสื่อต่างๆ ว่า นายศิริโชคได้โพสต์ภาพเอกสารที่เป็นจดหมายเปิดผนึก ลงชื่อนายศิริโชค , นายเทพไท และนายชวนนท์ ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวของนายศิริโชคเอง ซึ่งจดหมายเปิดผนึกของจำเลยทั้งสาม ได้บรรยายถึงความรู้สึกสำนึกผิด และได้ขออภัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่กล่าวถ้อยคำหมิ่นประมาท โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้อภัยและได้ยื่นคำร้องขอถอนฎีกา นายศิริโชคกับพวก ซึ่งทั้งสามคนขอขอบคุณและถือโอกาสนี้แจ้งข่าวให้ทราบโดยทั่วไป
(7 ต.ค.) ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ได้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักฯ เพื่อขอรายงานเหตุการณ์สำคัญ ประจำวันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม 2561 ดังนี้
๑. ด้วยเมื่อวันเสาร์ที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๑ เวลาประมาณ ๒๐.๐๐ น. หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค ได้รับรายงานจากหัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติฯ ที่ ทย.๖ (เขาพลู) ว่า มีรถยนต์ออฟโรด จำนวน ๖ คัน แอบอ้างว่าได้รับอนุญาตจากห้วหน้าหน่วยฯ ให้เข้าไปพักค้างแรมในพื้นที่ป่าบริเวณสำนักสงฆ์เต่าดำ ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค โดยนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอาวุธปืนเข้าไปด้วย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค จึงเรียกระดมกำลังเจ้าหน้าที่ติดตามเข้าไปในพื้นที่
๒.เวลาประมาณ ๑๑.๓๐ น. ของวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๑ คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ได้พบกับรถยนต์ออฟโรดทั้ง ๖ คัน กำลังเดินทางออกมาจากพื้นที่ดังกล่าว คณะพนักงานเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวและขอตรวจค้น พบว่า มีผู้โดยสารเข้าไปพร้อมกับรถยนต์ทั้ง ๖ คัน รวมจำนวน ๑๕ คน โดยเป็นเด็ก ๓ คน ตรวจค้นรถยนต์เบื้องต้น พบอาวุธปืนไรเฟิลติดกล้องพร้อมเครื่องเก็บเสียง จำนวน ๑ กระบอก ปืนสั้นขนาด ๙ มม. จำนวน ๑ กระบอก อุ้งเท้าหมีขอ จำนวน ๔ เท้า
ในรถยนต์คันที่ ๕ หมายเลขทะเบียน ๒ ฒง ๓๕๕๕ กรุงเทพมหานคร มีนายอนุสรณ์ เรือนงาม แจ้งว่า เป็น อส.เมืองกาญจนบุรี เป็นผู้ขับขี่ ขณะตรวจค้นมีชาย ๑ คน มาแสดงตัวว่าเป็นปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี ร่วมขบวนมาด้วย โดยอยู่ในคันที่ ๑ พนักงานเจ้าหน้าที่จึงเชิญคนทั้งหมดพร้อมรถยนต์ไปทำบันทึกตรวจยึดจับกุม ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติไทรโยค
๓.เวลาประมาณ ๑๗.๓๐ น. วันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๑ คณะพนักงานเจ้าหน้าที่พร้อมผู้กระทำผิดเดินทางมาถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติไทรโยค ปลัดอำเภอฯ ทราบชื่อภายหลัง คือ นายวัชรชัย สมีรักษ์ ไม่ยินยอมให้ค้นตัวและไม่ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แตะต้องตัวพร้อมขู่จะฟ้องกลับ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค จึงประสานเจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย รส.ในพื้นที่ พร้อมพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค เข้าใช้อำนาจในการค้นตัว และยึดอาวุธปืน
๔.ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างจัดทำบันทึกตรวจยึดจับกุม ผลประการใดจะรายงานมาเพื่อโปรดทราบต่อไป ลงชื่อ นายพนัชกร โพธิบัณฑิต นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ ผู้รายงาน
กรณี น.ส.สิริยากร วงษ์ชมภู อายุ 40 ปี นักธุรกิจ เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองอุดรธานี ว่าถูกนางกัญญ์ลักษณ์ เหล็กเพชร อายุ 50 ปี พนักงานหน่วยงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี ขายหวยเถื่อน แล้วเบี้ยวเงินค่าหวย งวดวันที่ 1 พฤศจิกายน 60 รวมเป็นเงิน 1 ล้านบาท ทวงถามมาเกือบปีแต่ไม่ได้จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ แม้จะต้องถูกจับด้วย แต่เจ้ามือต้องถูกจับเช่นกัน ซึ่งตำรวจได้เข้าค้นบ้านเจ้ามือหวยพบโพย 57 แผ่น ศาลมีคำสั่งให้สืบเสาะความประพฤติประกอบการพิจารณาลงโทษ นางกัญญ์ลักษณ์ ส่วนผู้เล่นศาลพิพากษาปรับ 1 พันบาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว วันที่ 9 ตุลาคม นางสิริยากร วงษ์ชมภู เปิดเผยว่า วันนี้เวลา 09.00 น. ได้เดินทางไปที่ศาลแขวงอุดรธานี เพื่อร่วมรับฟังการพิพากษาคดีนางกัญญ์ลักษณ์ เหล็กเพชร พนักงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี หลังจากตนเข้าแจ้งตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ว่าถูกนางกัญญลักษณ์โกงค่าหวยใต้ดิน 1 ล้านบาท ซึ่งตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านและจับกุมพร้อมของกลาง ดำเนินคดี “เป็นเจ้ามือรับกินรับใช้สลากกินรวบ (หวยเถื่อน) โดยผิดกฎหมาย” โดยมีเพื่อนร่วมงานนางกัญญ์ลักษณ์มาร่วมรับฟังคำพิพากษาจำนวนมาก
ศาลได้อ่านคำพิพากษาพิเคราะห์จากพฤติกรรม เชื่อว่าเป็นเจ้ามือรายใหญ่ ไม่ใช่เจ้ามือรายย่อย ซึ่งดูจากจำนวนเงินที่ซื้อขาย ศาลจึงพิพากษา จำคุก 1 ปี ลดเหลือกึ่งหนึ่ง เป็นจำคุก 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา จากนั้นตำรวจศาลได้ใส่กุญแจมือนำนางกัญญ์ลักษณ์ไปควบคุมตัวไว้คาดว่านางกัญญ์ลักษณ์จะอุทธรณ์ และยื่นประกันตัว นางสิริยากร เปิดเผยอีกว่า เคารพในการตัดสิน พอใจในคำพิพากษาของศาล หลังจากนี้ จะดำเนินการในเรื่องของวินัย และขอให้ตำรวจสืบสวนตามจับกุมเจ้ามือรายใหญ่ ที่นางกัญญ์ลักษณ์อ้างถึงต่อไปด้วย
นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย นายทักษิณ ชินวัตร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Oak Panthongtae Shinawatra” ว่า เอาคดีปักมันไว้ มันจะได้ไม่อยู่ให้รำคาญใจ ช่วงเลือกตั้ง..!! คือ เสียงคำรามครั้งสุดท้าย ก่อนที่อัยการจะเรียกตัวผมไปฟังคำสั่งคดีฯ ครับ 555555 ฝันไปเถอะครับลุงฉุน..!!
3 วันก่อน ผมบินออกนอกประเทศ เพื่อไปเยี่ยมคุณพ่อที่ฮ่องกงจริงครับ พอบินออกไปปุ๊บก็เฮกันลั่นตึก... บอกเลือกตั้งครั้งหน้าเบาแล้ว เดี๋ยวครอบครัวมันก็เผ่นไปกันหมดบ้าน..!! นอกจากเราจะไม่เผ่นกันแล้ว ผมยังจะชวนทุกคนในบ้านมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคฯกันด้วยครับ เมื่อก่อนมีพ่อเป็นคนเดียว คราวนี้ผมจะชวนมากันให้หมด จะได้ไม่ต้องเอาข้อกฎหมายมากล่าวหากัน ว่าคนนอกเข้ามาบงการ ต้องยุบพรรคฯอย่างโน้นอย่างนี้
ผมบินไปพบพ่อเพื่อบอกกับพ่อว่า ผมกำลังใจเต็มร้อยที่จะสู้ และขอว่าพอกันทีสำหรับการอยู่อย่างหวาดกลัว เฝ้าแต่รอฟังว่าเมื่อไหร่เผด็จการฯจะเริ่มต้นปรองดองอย่างจริงจัง รอว่าเมื่อไหร่จะเลิกหาเรื่อง เอาคดีมาปักนักการเมืองเพื่อต่อรอง ให้ยอมทำนู่นทำนี่อยู่ตลอดเวลา หลอกลวงคนไทยว่าขอเวลาไม่นาน หลอกให้รอมาจนจะครบ 5 ปีแล้ว ก็ยังให้รอต่อไป
ลุง...อยากให้ผมไปนัก-ผมก็จะอยู่ ไม่อยากให้ผมไปช่วยหาเสียง-ผมก็จะไปมันทุกจังหวัด ผมจะทำทุกอย่างในกรอบของกฎหมาย เพื่อสนับสนุนทุกองค์กร และทุกพรรคการเมือง ที่อยู่ในฝั่งประชาธิปไตย ให้รวมพลังกันเอาชนะการสืบทอดอำนาจของฝ่ายเผด็จการฯให้ได้..!!
พรุ่งนี้ผมจะไปพบพนักงานอัยการฯด้วยตัวเองครับ ที่ผ่านมาผมรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ของรัฐในการดำเนินคดีนี้เลย ทั้งจากดีเอสไอ ปปง. และสุดท้ายที่อัยการฯ ดูเหมือนทุกหน่วยงานดำเนินคดีกับผม แตกต่างจากบุคคลอื่นอีกร้อยกว่ารายที่ทำธุรกรรมการเงินในลักษณะเดียวกันและกับเงินก้อนเดียวกันนี้ โดยสิ้นเชิง ถ้าผมไม่อยู่สู้คดีอย่างที่มนุษย์ลุงคาดหวังไว้ ผมรู้ว่าต่อไปผมคงต้องเจอคำถามยอดฮิตเหน็บแนมไล่หลังมาว่า “ไม่ได้ทำผิดแล้วกลัวอะไร”
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012