เมื่อ 11 ส.ค.60 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับเกาหลีเหนือ เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯได้ออกมากล่าวข่มขู่เตือนไปยังรัฐบาลเกาหลีเหนือ ถ้าหากมีการยิงขีปนาวุธมาโจมตีฐานทัพสหรัฐฯบนเกาะกวมจริงตามที่ออกแถลงการณ์ จะทำให้เกาหลีเหนือต้องเผชิญกับความกลัวลนลานแบบสุดๆ โดยเกาหลีเหนือจะเป็นเหมือนกับ2-3ประเทศที่เคยประสบพบเจอมาแล้ว
บีบีซีแจ้ว่า ความเห็นดังกล่าวของประธานาธิบดีทรัมป์ มีขึ้นหลังจากก่อนหน้านั้น ในวันเดียวกัน รัฐบาลกรุงเปียงยางได้ออกแถลงการณ์ขู่สหรัฐฯว่า เกาหลีเหนือจะติดตั้งขีปนาวุธ ฮวางซอง-12 จำนวน 4 ลูกเพื่อยิงมาตกในมหาสมุทรแปซิฟิก ห่างจากเกาะกวมประมาณ 30-40 กม.เสร็จเรียบร้อยในช่วงกลางเดือนสิงหาคม นี้ โดยก่อนหน้านี้ ผู้นำสหรัฐฯเพิ่งเตือนไปยัง คิม จอน อึนว่าจะเผชิญกับ ‘ไฟและเพลิงโกรธ’ หากยิงโจมตีฐานทัพบนเกาะกวม
ขณะที่ด้านนายกรัฐมนตรีมัลคอล์ม เทิร์นบูลล์ แห่งออสเตรเลีย ออกมาประกาศชัดเจนแล้วว่า ออสเตรเลียจะให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯในการทำสงครามโจมตีเกาหลีเหนืออย่างเต็มที่ หากยิงขีปนาวุธนำวิธีไปโจมตีสหรัฐฯ
มิเชล พาร์ค สตีล ประธานกรรมการบริหารบอร์ด ออฟ ซุปเปอร์ไวเซอร์ เขตออเร็นจ์เคาน์ตี้ทราบข่าว 2 นักศึกษาไทยประสบอุบัติเหตุที่ Kings Canyon River ถึงกับนำ้ตาคลอ รีบติดต่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการกู้รถที่ตกลงไปในหุบเขาโดยด่วน
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2560 นายคิด ฉัตรประภาชัย ได้นำนายธานี แสงรัตน์ กงสุลใหญ่ลอสแองเจลิส และครอบครัวของ 2 นักศึกษาที่เดินทางมาจากประเทศไทย เข้าพบนางมิเชล พาร์ค สตีล ที่สำนักงานเมือง Santa Ana หลังจากทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถึงกับมีอาการเศร้าสลดต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับนางสาวทิวาดี แสงสุริยฤทธิ์ กับ นายภคพล ชัยรัตนทรงพร 2 นักศึกษาระดับปริญญาโท ที่ประสบอุบัติเหตุขับรถตกเขาที่ Kings Canyon International Park ที่มีความสูงถึง 640 ฟุต เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2560 จนเวลาล่วงเลยไปถึง 15 วันแล้วเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถกู้คนและรถยนต์ขึ้นมาจากหุบเขาได้
นางมิเชลได้ปลอบขวัญและให้กำลังใจแก่คุณแม่และพี่สาวของนักศึกษาทั้งสองด้วยนำ้ตาคลอเบ้า โดยให้สัญญาว่าจะเป็นตัวแทนทำทุกวิถีทางให้เกิดการเก็บกู้ให้ได้โดยเร็วที่สุด
นางมิเชลได้ติดต่อสอบถามบรรดาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและรับผิดชอบในเขต Fresno County อันมีนาย Brian Pacheco ประธานกรรมการบริหารบอร์ด ออฟ ซุปเปอร์ไวเซอร์ และนาง Marga ret Mims Fresno county sheriff นาย Nathan Magsigซุปเปอร์ไวเซอร์เขต 5 ผู้รับผิดชอบในจุดที่เกิดอุบัติเหตุ โดยนางมิเชลได้เรียกร้องให้ทำการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เพราะเห็นใจครอบครัวของนักศึกษาและเป็นห่วงความรู้สึกของชุมชนไทยเป็นอย่างมาก เธอยังย้ำว่าเธอมีความผูกพันกับชุมชนไทยมานานกว่า 10 ปี ให้เร่งดำเนินการเรื่องนี้โดยด่วนไม่ว่าจะต้องใช้งบและกำลังคนจากไหนก็ตาม
ในวันเดียวกัน Sheriff Margaret Mims ได้มีจดหมายตอบกลับมาว่า " ขอขอบคุณท่านประธานฯสตีลที่ได้สอบถามเป็นตัวแทนของครอบครัวนักศึกษาทั้งสองที่ได้รับความทุกข์อยู่ในขณะนี้ ข้าพเจ้าขอเรียนท่านและครอบครัวของนักศึกษาทราบว่า สำนักงานเชอริฟได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอันดับแรกในขณะนี้ ข้าพเจ้าได้จัดหน่วยกู้ภัยลงพื้นที่เพื่อวางแผนในการกอบกู้นักศึกษาให้เหมาะสมละมุนละไมให้ดีที่สุดและเร็วที่สุด ขอบคุณในความเข้าใจและอดทนของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง" ขอแสดงความนับถือ Margaret Nims, Sheriff Fresno County Sheriff's Department
ต่อมาในช่วงบ่ายของวันที่ 9 สิงหาคม นาย Magsig ได้รายงานให้นางมิเชลทราบว่า ทางเชอรี่ฟได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปสำรวจจุดที่จะยึดเกี่ยวกับตัวถังรถของนักศึกษาแล้ว
วันนี้ (11 ส.ค.) ที่สถานีรถไฟฟ้าเตาปูน เขตบางซื่อ เมื่อเวลา 09.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานในพิธีเปิด ให้บริการโครงการ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงเตาปูน-บางซื่อ ภายใต้ชื่องาน “ร่วมใจ เชื่อมสุข เพื่อประชาชน” ถึงการเข้าอวยพรเนื่องในวันคล้ายวันเกิดของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในวันเดียวกันนี้ว่า
“ได้เข้าอวยพรแล้ว และผมอวยพรให้ท่านทุกวัน รู้จักกับท่านมาตั้งแต่ปี 2519 การอวยพร ให้แก่คนอันเป็นที่รักคนใกล้ชิด ไม่จำเป็นต้องเป็นแค่วันคล้ายวันเกิด หรือวันครบรอบ วันแต่งงาน เราสามารถอวยพรได้ทุกวันเพราะเรารักเขา ก็หวังให้ ต่างคน ต่างมีความสุข มีสุขภาพแข็งแรง นั้่คือความผูกพันทางจิตใจ ไม่ใช่เพื่อสิ่งนั้นสิ่งนี้ ผมไม่เคยมีอะไรที่เป็น ผลประโยชน์ ไม่ใช่แก๊ง ที่ไปเขียนกันว่าเป็นแก๊งบูรพาพยัคฆ์ หรือแก๊งวงศ์เทวัญ สื่อฯ ไปตั้งกันมาเองทั้งสิ้นว่าหน่วยงานในกรุงเทพฯ เป็นกลุ่มวงศ์เทวัญเสียอย่างนั้น ส่วนต่างจังหวัด ก็แก๊งเป็นบูรพาพยัคฆ์ตามทิศของหน่วยที่ตั้ง ล้วนแต่ตั้งกันไปเองทั้งนั้นเอง แล้ววันต่อไป คนเหล่านี้ ก็ต้องขึ้นมารับตำแหน่งข้างบน กลายเป็นว่าบูรพาพยัคฆ์มีมากขึ้นๆ ปีนี้เป็นรอบ ของกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ อะไรของมันวะ เฮ้อ! ยืนยันว่าพวกผมไม่ได้ทำงานกันแบบนั้น”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตกลงวันนี้บัญชีรายชื่อ แต่งตั้งนายทหารประจำปี ถึงมือนายกรัฐมนตรี แล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอย่างมีอารมณ์ฉุนเฉียวว่า “ทำไมพวกคุณมีชื่ออยู่ในโผ ด้วยหรือเปล่า เมื่อไม่ได้อยู่ เดี๋ยวรายชื่อก็ออกกันมาเองนั่นแหละ”
เมื่อถามย้ำว่า สรุปแล้วโผรายชื่อถึงมือนายกรัฐมนตรีแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เขาเพิ่งประชุมกันเมื่อวานนี้ (10 ส.ค.) แล้ววันนี้จะถึงมือผมได้อย่างไร เมื่อเขา ประชุมเสร็จก็ต้องไปดำเนินการพิมพ์ รวมทั้งเซ็นลงนาม ก่อนจะส่งขึ้นมาที่ผม เพื่อลงนาม อนุมัติ ก่อนที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายต่อไปตามขั้นตอน”
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้อนถามสื่อมวลชนว่า “แล้ววันนี้ใครดำรงตำแหน่งอะไรบ้าง มีญาติพวกคุณเป็นด้วยหรือเปล่า ถ้าไม่มีญาติก็ไม่ต้องไปยุ่งกับเขา หาคนดีๆ ให้เข้ามาเป็น เขาเป็นได้อยู่แล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของหน่วยงานทหาร ไม่ต้องไปเขียน ให้บางคน ขึ้นมาอยู่ตรงนั้นตรงนี้ ทั้งๆ ที่วันนี้ยังเป็นรองฯ อยู่ในระดับล่าง แต่กลับไปเขียนว่า เป็นตัว แข่งขัน มันจะเป็นไปได้อย่างไร ทุกอย่างเสียไปหมด คนที่อยู่ระดับล่างก็ไม่เข้าใจว่าอะไรกัน อย่าลืมว่าก่อนที่จะขึ้นเป็นแม่ทัพก็ต้องเป็นรองแม่ทัพมาก่อน และก่อนจะขึ้นเป็นผู้ช่วยฯ เป็น 5 เสือก็ต้องเป็นแม่ทัพก่อน หรือเป็นระดับพลโท จากนั้นก็ขึ้นมาเป็น ผบ.ซึ่งทั้ง 5 คนก็มีโอกาสขึ้นเป็น ผบ.กันทั้งสิ้น ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะข้ามมาเป็น มันเป็นไปได้ที่ไหน วันนี้ผมตอบหมดแล้ว ทะเลาะมาเยอะแล้ว แต่เป็นการทะเลาะเพราะความรักนะ”
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อวันที่11 สิงหาคม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามตัวนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ทายาทเจ้าของเครื่องดื่มชูกำลังหมื่นล้าน ขับรถสปอร์ตหรู พุ่งชนด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่ ป.สน.ทองหล่อ ซึ่งอยู่ในระหว่างการหลบหนีในต่างประเทศ หลังอัยการต่างประเทศได้ท้วงติงมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยังไม่สามารถระบุประเทศปลายทางที่ผู้ต้องหาหลบหนี ว่า เบื้องต้นให้แบ่งกรณีดังกล่าวออกเป็น2ส่วน คือ 1 เกี่ยวกับการแปลเอกสารที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการส่งให้ฝ่ายอัยการไปแล้ว และ 2 คือการชี้เบาะแสว่าผู้ต้องหาได้อาศัยอยู่ที่ไหนอย่างไร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการแจ้งไปยังประเทศต่างๆแล้วประมาณ190ประเทศ แต่ยังไม่ได้รับการประสานกลับมารวมถึงประเทศอังกฤษ พร้อมยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตาม เพื่อที่จะทราบว่าผู้ต้องหาอาศัยอยู่ในประเทศใด ส่วนนายบอสจะมีกี่สัญชาติหรือถือพาสสปอร์ตกี่เล่มนั้นตนไม่สามารถตอบได้
191 รวบแก๊งนายพลอุ้มนักธุรกิจชาวจีนเรียกค่าไถ่รายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 10 ส.ค. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิติธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท. พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.สายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.สน.ห้วยขวาง พ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธิ์รัตน์ รอง ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. และกำลังตำรวจ 191 ตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกันจับกุมแก๊งอุ้มเรียกค่าไถ่นายสุรชัย แซ่ย่าง เจ้าของบริษัทนิวเจนแอร์เวย์ และบริษัทคันต้า กรุ๊ป ไทยแลนด์ จำกัด เป็นเงิน 20 ล้านบาท แต่ญาติขอต่อรองเหลือ 2 ล้านบาท โอนเงินไปให้แก๊งคนร้ายแล้วนายสุรชัยจึงถูกปล่อยตัวมา
หลังรวบรวมพยานหลักฐาน พนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ขออนุมัติศาลออกหมายจับทั้งหมด 10 คน จับกุมแล้ว 8 คน ประกอบด้วย พล.ต.จรูญ อำภา สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย พ.ต.ท.ณัฐกฤษต์ ยุทยา พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. นายเสาวเดช ศักดิ์กิตตินันท์ นายอภิวัฒน์ ศรีนะพรม นายเทพพิทักษ์ รัดทะนี นายทรงวุฒิ เที่ยงธรรม นายโอภาส ศรียา นายอุทิศ ก่อแก้ว นายฐิติกร ชื่นอุรา และนายโก๊ะ เต็ก ชวน ชาวสิงคโปร์ แจ้งข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์และบุกรุก
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 ก.ค. เวลาประมาณ 12.00 น. กลุ่มชายฉกรรจ์แต่งชุดลายพรางทหาร 4 คน และแต่งนอกเครื่องแบบอีก 5 คนรวม 9 คน บุกเข้าไปหานายสุรชัย แซ่ย่าง ที่บริษัทคันต้า กรุ๊ป ไทยแลนด์ จำกัด เลขที่ 68 ซอยนวลจันทร์ 34 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. พ.ต.ท.ณัฐกฤษต์ อ้างว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบสังกัด 191 และกองปราบปราม ขอตรวจค้นบริษัทเกี่ยวกับความมั่นคงโดยไม่มีหมาย จากนั้นกลุ่มคนร้ายแสดงเอกสารทะเบียนราษฎรและบัตรประชาชนของนายสุรชัย กล่าวหาว่าทำเอกสารทะเบียนราษฎรและบัตรประชาชนปลอม จากนั้นพานายสุรชัยไปพบผู้บังคับบัญชา ที่ กอ.รมน.ดอนเมือง ขึ้นรถยนต์เล็กซัส ทะเบียน วฉ 1100 กรุงเทพมหานคร ขณะนั่งรถไปมีนายโก๊ะ เต็ก ชวน ชาวสิงคโปร์ เป็นคนขับรถและเป็นล่ามภาษาจีนไปในตัว มีชายใส่เครื่องแบบทหารนั่งประกบ
แต่ก่อนที่จะออกมาจากบริษัทฯผู้เสียหายกลัวไม่ปลอดภัยจึงแจ้งให้นายจีราวัฒน์ ลลิตนาถสิริ พนักงานในบริษัทฯขับรถตามไปด้วย จากนั้นกลุ่มคนร้ายพานายสุรชัยไปที่โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง พบ พล.ต.จรูญ พูดว่า นายสุรชัยมาจากไหน ได้บัตรประชาชนมายังไง ข่มขู่ว่าทำผิดกฎหมาย กล่อมให้เคลียร์ให้จบ นายโก๊ะ เต็ก ชวน สื่อสารเป็นภาษาจีนกับนายสุรชัยว่า เจ้านายต้องการค่าคุ้มครอง 20 ล้านบาท พ.ต.ท.ณัฐกฤษต์เสริมว่า จ่ายๆไปจะได้จบ แต่นายสุรชัยพยายามต่อรองจนเหลือ 2 ล้านบาท สั่งให้นายจีรวัฒน์ขับรถกลับไปเอาเงินไปให้นายโอภาส ศรียา 1 ในกลุ่มคนร้ายที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.ถนนวิภาวดีรังสิต 1 ล้านบาท จึงยอมปล่อยตัวนายสุรชัยออกมา ต่อมาเมื่อวันที่ 17 ก.ค. ผู้เสียหายให้นายจีรวัฒน์ไปโอนเงินให้คนร้ายอีก 1 ล้านบาท เข้าบัญชีธนาคารชื่อนายโอภาส ศรียา
หลังจากนั้นนายสุรชัยตัดสินใจเข้าพบ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เพื่อขอความช่วยเหลือ จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนหาข้อมูลทางลับ เนื่องจากกลุ่มผู้กระทำผิดเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่และมีนายตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง จนได้ข้อมูลว่ากระทำผิดจริง จึงให้ผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์พนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ท้องที่เกิดเหตุ จนรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลอาญา อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 10 คน ขณะนี้จับกุมได้แล้ว 8 คน เหลือผู้ต้องหาอีก 2 คน คือนายอุทิศ ก่อแก้ว และนายฐิติกร ชื่นอุรา ที่ยังหลบหนี อยู่ระหว่างตามจับกุม
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. เผยว่า ตำรวจ 191 และตำรวจท่องเที่ยวจับกุมแก๊งเรียกค่าไถ่ที่เข้าไปควบคุมตัวเจ้าของบริษัทนำเที่ยวแห่งหนึ่งและเป็นเจ้าของสายการบินน้องใหม่ เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ก.ค. อ้างว่าควบคุมตัวคดีความมั่นคง ก่อนนำตัวไปต่อรองกับนายทหารยศพลตรีเรียกเงิน 20 ล้านบาท ขณะที่ญาติผู้เสียหายบอกว่า จ่ายเงินให้แก๊งเรียกค่าไถ่ 2 งวด งวดละ 1 ล้านบาท งวดแรกจ่ายหลังจากตกลงแล้ว และอีก 1 สัปดาห์ต่อมาโอนเงินเข้าบัญชีให้แก๊งเรียกค่าไถ่อีก จากนั้นรวบรวมเอกสารเข้าร้องทุกข์กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นที่มาของการจับกุมครั้งนี้
ผ่านไปอย่างลุ้นระทึก สำหรับรอบตัดสินของรายการ The Mask Singer ซึ่งเป็นการแข่งขันระหว่าง หน้ากากเสือจากัวร์ และหน้ากากซูโม่ โดยทั้งคู่เปิดฉากด้วยการฟีเจอริ่งกันในเพลง "Nobody's Perfect" ของศิลปินสาวเจสซี่ เจ ก่อนที่หน้ากากเสือจากัวร์จะเป็นผู้แข่งขันก่อน โดยเลือกร้องเพลง I'm สีดา ของ The Rube ส่วนหน้ากากซูโม่ มาในเพลง บัวลอย ของวงคาราบาว
สำหรับผลการแข่งขัน หน้ากากซูโม่เป็นผู้ชนะไป และจะถอดหน้ากากเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงอาทิตย์หน้า ส่วนหน้ากากเสือจากัวร์ ที่ต้องพ่ายแพ้ ได้ถอดหน้ากากออก ซึ่งคือ บี พีระพัฒน์ เถรว่อง อดีตนักร้องนำวงเครสเซนโด้ โดยบีเปิดใจว่า ที่เป็นเสือจากัวร์เพราะเป็นคนเลี้ยงแมว แต่ถ้าเป็นหน้ากากแมวจะน่ารักไป และเสือจากัวร์ก็ดูแพง มีพลัง ดูมั่นใจ ตรงข้ามกับผมที่เป็นเด็กต่างจังหวัด เข้ามาหาความฝัน ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง
"ผมโทรเข้ามาหารายการเอง เพราะร้องเพลงมากว่าสิบปี รู้สึกว่าหลังๆ วงการดนตรีไม่สนุก ผมอยากมีหัวใจเต้นเหมือนตอนเข้าวงการใหม่ๆ จนวันที่พี่หอยทักหน้ากากทุเรียนว่าเป็นผม จนภรรยาผมบอกต้องไปแล้วล่ะ เลยโทรมาที่รายการ แต่จริงๆ ทางรายการก็เตรียมที่จะโทรหาผมอยู่แล้ว ผมขอบคุณทุกคนที่โหวตให้ ไม่คิดว่าจะมาถึงรอบนี้ได้ มาไกลกว่าที่คิด มันจะเป็นพลังให้ผม ผมเคยเป็นคนที่เคยถูกมองข้าม แต่ความรักในสิ่งที่อยากทำ ในที่สุดผมเดินมาถึงวันนี้ได้ อยากให้น้องๆ ไปถึงฝันให้ได้ "
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012