ข่าว
‘วัคซีนโควิด-19’ ฝีมือจีน 4 ตัว ขึ้นสถานะพร้อมส่งออกทั่วโลก

23 มิถุนายน 2564 สำนักข่าวซินหัวรายงาน จีนจัดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่ได้รับอนุมัติวางจำหน่ายในตลาดแบบมีเงื่อนไขภายในประเทศ จำนวน 4 ตัว ในรายการผลิตภัณฑ์วัคซีนพร้อมส่งออก

ประกาศบนเว็บไซต์กระทรวงพาณิชย์ของจีนระบุว่าวัคซีนทั้งสี่ตัวประกอบด้วยวัคซีนที่ผลิตโดยสถาบันผลิตภัณฑ์ทางชีววิทยาปักกิ่ง (Beijing Institute of Biological Products) บริษัท ซิโนแวค ไลฟ์ ไซเอนเซส จำกัด (Sinovac Life Sciences) แคนซิโน ไบโอโลจิกส์ อิงก์ (CanSino Biologics Inc.) และสถาบันผลิตภัณฑ์ทางชีววิทยาอู่ฮั่น (Wuhan Institute of Biological Products)

วัคซีนสองตัวที่ผลิตโดยสถาบันผลิตภัณฑ์ทางชีววิทยาปักกิ่ง และบริษัท ซิโนแวค ไลฟ์ ไซเอนเซส จำกัด ได้รับอนุมัติใช้งานในกรณีฉุกเฉินจากองค์การอนามัยโลก (WHO) แล้ว โดยหลี่ซิ่งเฉียน เจ้าหน้าที่กระทรวงฯ ระบุว่ามีการฉีดวัคซีนดังกล่าวขนานใหญ่แก่ประชาชนในจีน และมีการอนุมัติใช้งานวัคซีนสองตัวนี้ในราว 100 ประเทศทั่วโลกด้วย

“เราสนับสนุนผู้ผลิตวัคซีนจีนส่งออกผลิตภัณฑ์ด้วยตนเอง มุ่งเน้นการเพิ่มจำนวนวัคซีน รักษาความคาดหวังของตลาด รวมถึงทำให้วัคซีนพร้อมใช้งานและมีราคาจับต้องได้สำหรับทุกประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา เพื่อรับประกันคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์วัคซีน ตลอดจนปรับปรุงประสิทธิภาพทางการค้า” หลี่กล่าว

หลี่เสริมว่าจีนจะยังคงสนับสนุนผู้ผลิตวัคซีนจีนต่อไปเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือกับโคแวกซ์ (COVAX) ซึ่งเป็นโครงการระดับนานาชาติที่มุ่งส่งเสริมการเข้าถึงวัคซีนอย่างเท่าเทียม โดยกระทรวงฯ จะทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือนานาประเทศจัดซื้อวัคซีนจากจีน ดำเนินการเป็นรูปธรรมเพื่อผลักดันวัคซีนเป็นสินค้าสาธารณะระดับโลก และส่งเสริมการสร้างประชาคมโลกด้านสุขภาพสำหรับทุกคน

‘ทำเนียบฯ’พร้อมรับมือม็อบ 24 มิ.ย. เช็คสารพัดกลุ่มรวมพลป่วน

23 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศในทำเนียบรัฐบาล ยังเป็นไปโดยปกติ โดยในวันพรุ่งนี้ (24 มิถุนายน 2564) มีการนัดหมายชุมนุมของกลุ่มมวลชนหลายจุด ซึ่งมีการแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติงานในทำเนียบรัฐบาลให้เตรียมความพร้อม โดยขอไม่ให้จอดรถค้างคืนในทำเนียบวันที่ 23 มิถุนายน 2564 และขอสงวนจุดจอดรถในวันที่ 24 มิถุนายน 2564 ตั้งแต่เวลา 06.00 น. บริเวณถนนลูกหลวงตั้งแต่สะพานอรทัย-สะพานมัฆวาน ผิวการจราจรตั้งแต่ประตู 8 ทำเนียบรัฐบาล-ประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล ผิวการจราจร (ฝั่งซ้าย) ตั้งแต่ประตู 6 ทำเนียบรัฐบาล-อาคาร11 (โรงยิม) และลานจอดรถหน้าอาคาร 20 และหน้าอาคาร 18 โดยสำนักโฆษก สำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งว่า เบื้องต้นช่วงเช้าสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่ยังคงเข้าทำเนียบรัฐบาลได้ตามปกติ แต่ในช่วงบ่ายหากมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบ

ขณะที่ภารกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เข้าปฏิบัติหน้าที่ในทำเนียบปกติ โดยไม่มีวาระงานประชุมใดๆมีเพียงต้อนรับ นายเมอีร์ ชโลโม เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย เข้าอำลานายกรัฐมนตรี ในโอกาสพ้นหน้าที่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ขณะที่พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ มีวาระวานเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2564 ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ถนนนครราชสีมา เขตดุสิต กรุงเทพฯ

สำหรับจะมีกลุ่มการเมืองต่างๆที่นัดจัดกิจกรรมในวันพรุ่งนี้ อาทิ กลุ่มประชาชนคนไทย นำโดย นายนิติธร ล้ำเหลือ นัดรวมตัวกันบริเวณแยกอุรุพงษ์ เวลา 14.00 น. ก่อนเคลื่อนมายังทำเนียบรัฐบาลผ่านทางถนนพิษณุโลก , กลุ่มไทยไม่ทนคณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ นัดรวมตัวที่แยกผ่านฟ้า เวลา 16.00 น. หากมีมวลชนจํานวนมากจะทํากิจกรรมบริเวณดังกล่าว หากมวลชนน้อยจะเคลื่อนมวลชนไปบริเวณทําเนียบรัฐบาล ฝั่งโรงเรียนราชวินิต , กลุ่มเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย นำโดย นายนันทพงศ์ ปานมาศ นัดมวลชนจัดกิจกรรมร่วมขับไล่รัฐบาล และจะเคลื่อนขบวนไปร่วมกิจกรรมกับกลุ่มไทยไม่ทนคณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย รวมถึงยังมีกลุ่มราษฎร กลุ่ม WEVO และกลุ่มแนวร่วมต่างๆก็จะจัดกิจกรรมที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และจะเคลื่อนขบวนไปยังรัฐสภาเกียกกาย


‘ท่าอากาศยานภูเก็ต’ พร้อมเกิน 100% รับนักท่องเที่ยวตามโมเดลภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์

23 มิถุนายน 2564 ที่อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย ร้อยตรีธานี ช่วงชู ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต นำสื่อมวลชน และผู้สังเกตการณ์ ลงพื้นที่บันทึกภาพบรรยากาศ การเตรียมความพร้อม ภายในอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต เพื่อเตรียมรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่จะเดินทางเข้าพื้นที่ภูเก็ตโดยไม่ต้องกักตัว ตามโมเดล "Phuket Sandbox" ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564

นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการชมบรรยากาศการซ้อมในวันนี้ เป็นที่น่าพอใจ โดยที่ผ่านมาทางท่าอากาศยานภูเก็ต ได้ซ้อมย่อยมาหลายครั้งก่อนหน้านี้ มาถึงวันนี้ได้เห็นความพร้อมและกระบวนการตั้งแต่นักท่องเที่ยวลงจากเครื่องเข้ามาตัวอาคาร ผ่าน จุดตรวจต่าง ๆ ทั้งการตรวจเอกสาร การตรวจโรค ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง จนถึง ด่านศุลกากร และการตรวจหาเชื้อวันแรกที่สนามบิน โดยทุกฝ่ายร่วมแรงร่วมใจมุ่งมั่นที่จะทำงานให้สำเร็จ

ด้าน ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า ในวันที่ 1 กรกฎาคม นี้ จะมี 5 สายการบินที่บินเข้ามาภูเก็ต อาทิ อิสราเอลแอร์ไลน์ สิงคโปร์แอร์ไลน์ เป็นต้น คาดว่าจะมีผู้โดยสารในวันที่ 1 ประมาณ 440 คน วันที่ 2 วันที่ 3 วันที่ 4 ก็จะทยอยมากขึ้นเรื่อย ๆภายในเดือนกรกฎาคมนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าพื้นที่ประมาณหมื่นกว่าคนกระบวนการขั้นตอนในการรับนักท่องเที่ยวเข้าภูเก็ต หลังลงจากเครื่องบินเข้ามายังอาคารผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศโดยเมื่อผู้โดยสารเข้ามาจะผ่านกระบวนการเทอร์โมสแกนเดินเข้าสู่อาคาร ชั้น 2 เพื่อตรวจสอบเอกสาร การอนุญาตเข้าประเทศและ ออกทางประตู 1 หรือประตู 2

จากนั้นจะผ่านการตรวจคัดกรองโรคที่ประตู 1 และขึ้นรถตามเครื่องหมาย ShaPlus ที่โรงแรมจัดเตรียมมารับ และเข้าพักที่ โรงแรม รอผลการตรวจโรค ก่อน หากผลเป็นลบ จึงจะ สามารถออกเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในจังหวัดภูเก็ตได้แต่หากพบว่าผลการตรวจหาเชื้อโรคโควิด 19 เป็นบวก นักท่องเที่ยวจะต้องถูกส่งเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลโดยจะใช้ระยะเวลาในการตรวจหาเชื้อประมาณ 24 ชั่วโมง


'แอปเปิล เดลี'สื่อฮ่องกงหนุนประชาธิปไตย ประกาศปิดกิจการแล้ว

23 มิ.ย.64 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หนังสือพิมพ์แอปเปิ้ลเดลี่ สื่อสนับสนุนประชาธิปไตยรายใหญ่ของฮ่องกง ที่กล้าวิจารณ์รัฐบาลจีนและฮ่องกง ประกาศปิดกิจการที่เปิดมานาน 26 ปี นับเป็นการทำลายเสรีภาพสื่อในฮ่องกง

ขณะที่ Next Digital (เน็กซ์ ดิจิทัล) บริษัทแม่ของ นสพ.แอปเปิล เดลี ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่า ทางบริษัทได้ตัดสินใจยุติกิจการสื่อ แอปเปิล เดลี ในทุกแพลตฟอร์มตั้งแต่วันเสาร์ทื่ 20 มิถุนายน เป็นต้นไป

การตัดสินใจปิดกิจการหนังสือพิมพ์แอปเปิล เดลี มีขึ้นเพียงวันเดียวหลังจาก นาย Yeung Ching-kee บรรณาธิการวัย 55 ปี ผู้เขียนบทบรรณาธิการในนสพ.แอปเปิล เดลี ได้ถูกตำรวจจับกุมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ภายใต้ข้อหาละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ

ตามรายงานของบีบีซีระบุว่า นสพ.แอปเปิล เดลี ได้ประกาศปิดตัวลงหลังจากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกมายังสำนักงานหนังสือพิมพ์และจับกุมบรรณาธิการบริหาร และผู้บริหารอีก 5 คนในข้อหาละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่บังคับกฎหมายยังได้อายัดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับกิจการแอปเปิล เดลี เป็นเงิน 18 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือราว 2.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ด้านแอมเนสตี อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ออกแถลงการณ์หลัง นสพ.แอปเปิล เดลี ประกาศปิดกิจการว่าถือเป็นวันที่มืดมนที่สุดของเสรีภาพสื่อในประวัติศาสตร์ของฮ่องกงยุคนี้

ก่อนหน้านี้ นายจิมมี่ ไหล วัย 73 ปี เจ้าของกิจการ นสพ.แอปเปิล เดลี ซึ่งถือเป็นผู้สนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกง ได้ถูกศาลฮ่องกงอ่านคำพิพากษาเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ตัดสินจำคุกอีก 14 เดือนในความผิดตามข้อหาร่วมชุมนุมผิดกฎหมายเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 หลังจากก่อนหน้า นายจิมมี ไหล ได้ถูกศาลตัดสินในข้อหาเดียวกันนี้เป็นเวลา 14 เดือนจากการชุมนุมโดยผิดกฎหมาย ภายใต้กฎหมายความมั่นคงฮ่องกงฉบับใหม่ที่บังคับใช้ตั้งแต่ปี 2563 และเข้าถูกควบคุมตัวในเรือนจำตั้งแต่ธันวาคม 2563

'สหรัฐฯ'เสี่ยงโควิด-19‘เดลตา’คุกคามหนัก เตือนปชช.เร่งฉีดวัคซีน

23 มิถุนายน 2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน สหรัฐฯ ยังคงเผชิญภัยคุกคามจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลตา (Delta) ที่ติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะรัฐที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำที่สุด แม้ทำเนียบขาวเผยว่าสหรัฐฯ ดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มากกว่า 300 ล้านโดส ใน 150 วันแรกที่โจ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี

ข้อมูลล่าสุดจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) ระบุว่าราวร้อยละ 45.1 ของประชากรสหรัฐฯ ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้ว ขณะที่ร้อยละ 53.3 ได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งโดส เมื่อนับถึงวันอาทิตย์ (20 มิ.ย.) ทว่าบางรัฐ อาทิ แอละแบมา อาร์คันซอ ลุยเซียนา มิสซิสซิปปี เทนเนสซี และไวโอมิง มีผู้รับวัคซีนครบโดสน้อยกว่าร้อยละ 35 ของผู้อาศัยทั้งหมด

สกอตต์ กอตเลียบ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ (FDA) เผยว่าเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์เดลตา ซึ่งเชื่อกันว่าสามารถแพร่เชื้อได้รวดเร็วกว่าเดิมและก่อให้เกิดอาการที่รุนแรงขึ้น อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้น แต่ระดับการติดเชื้อจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอัตราการฉีดวัคซีนในแต่ละพื้นที่

กอตเลียบให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีบีเอส (CBS) ว่าแบบจำลองการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลตาบ่งชี้ช่วงฤดูใบไม้ร่วงอาจพบการติดเชื้อแตะระดับสูงสุดราวร้อยละ 20 ของระดับเมื่อเดือนมกราคม แต่การแพร่กระจายของเชื้อจะไม่ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ของประเทศ

“ตัวอย่างเช่นรัฐคอนเนตทิคัตที่ผมอาศัยอยู่ไม่พบการติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่รัฐมิสซิสซิปปี แอละแบมา อาร์คันซอ มิสซูรี พบการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล นั่นขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีนของประชากร” กอตเลียบกล่าว

ศูนย์ฯ ระบุว่าสายพันธุ์เดลตา ซึ่งพบครั้งแรกในอินเดียเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน และตรวจพบครั้งแรกในสหรัฐฯ เดือนมีนาคมที่ผ่านมา แพร่ระบาดไปยังมากกว่า 40 รัฐของประเทศแล้ว

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น (CNN) รายงานผลการวิจัยฉบับใหม่ชี้ว่าพื้นที่ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง โดยคณะนักวิทยาศาสตร์จากเฮลิกซ์ (Helix) ได้วิเคราะห์ตัวอย่างโรคโควิด-19 ที่รวบรวมตั้งแต่เดือนเมษายน จำนวนเกือบ 20,000 รายการ และพบสายพันธุ์เดลตาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเทศมณฑลที่ผู้อาศัยได้รับวัคซีนน้อยกว่าพื้นที่อื่นๆ

คณะผู้เชี่ยวชาญเน้นย้ำว่าวัคซีนถือเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันโรคโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ และการเปิดประเทศอย่างปลอดภัย โดยการศึกษาชี้ว่าวัคซีนที่ผ่านการอนุมัติใช้งานในปัจจุบันมีฤทธิ์ป้องกันโรคโควิด-19 สายพันธุ์ต่างๆ ที่แพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้

จางจั้วเฟิง ศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยาและรองคณบดีฝ่ายวิจัยของคณะสาธารณสุขศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส (UCLA) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่างานวิจัยเกี่ยวกับระยะเวลาออกฤทธิ์ป้องกันของวัคซีนโรคโควิด-19 และเวลาที่จำเป็นต้องใช้วัคซีนกระตุ้น ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ

จางเรียกร้องประชาชนเข้ารับวัคซีนโดยเร็วที่สุดเพื่อป้องกันผลกระทบจากโรคโควิด-19 สายพันธุ์ต่างๆ พร้อมย้ำถึงความสำคัญของการเว้นระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากากอนามัย และการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล เนื่องจากวัคซีนไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ทั้งหมด