ข่าว
ทอร์นาโดคร่ามะกัน 10 ศพ รถโดนพายุดูดเด็กในรถดับ

เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ชาวอเมริกันในพื้นที่ประสบภัยพายุทอร์นาโดกว่า 20 ลูก เริ่มมาเก็บกวาดพื้นที่ซึ่งหลายแห่งบ้านเรือนพังราบ ขณะมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 10 ราย ในจำนวนนี้ มีเด็กอายุ 7 ขวบ เสียชีวิตเนื่องจากรถยนต์ที่โดยสารอยู่พร้อมครอบครัวถูกพายุดูดขึ้นไปในรัฐมิสซิสซิปปี นอกจากนี้มีผู้บาดเจ็บกว่า 40 คน

พายุเกิดขึ้นในหลายรัฐของสหรัฐอเมริกา อาทิ อาร์คันซอ อิลลินอยส์ อินเดียนา มิสซิสซิปปี เคนตักกี แอลาบามา และเทนเนสซี ทั้งเกิดในช่วงที่ชาวอเมริกันกว่า 100 ล้านคนเดินทางไปท่องเที่ยวและกลับบ้านในช่วงคริสต์มาส และเกือบ 70 ล้านคนอยู่บนเส้นทางที่มีพายุ

ด้านสำนักงานอากาศแห่งชาติพยากรณ์ว่าจะเกิดพายุฝนฟ้าคะแนนในพื้นที่ชายฝั่ง ตอนกลางของมหาสมุทรแอตแลนติก ส่วนที่นิวยอร์กอากาศจะอุ่นเป็นประวัติการณ์

"บิ๊กตู่" เดือด! คนบ่นรัฐบาล. จวกสื่อเขียนถึงไม่สร้างสรรค์

เมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 25 ธันวาคม ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวปิดการแถลงสรุปผลการดำเนินงานของรัฐบาลรอบ 1 ปี โดยมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมรับฟังโดยกล่าวอย่างอารมณ์เสียว่า “ต้องขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันคิดและฟัง ซึ่งการแถลงผลงานครั้งนี้อาจแตกต่างจากที่ผ่านๆ มา หลายคนวิจารณ์ว่าใช้เวลานานเกินไป หลายคนไม่เข้าใจหาว่ามีแต่น้ำไม่มีเนื้อ พอถามกลับไปว่าเนื้อคืออะไรก็บอกว่าอย่างเช่นการเขียนลอตเตอรี่ได้ในราคาฉบับละ 80 บาท ถ้าอย่างนี้ไม่ต้องปฏิรูป เพราะขาดความเข้าใจซึ่งกันและกัน สิ่งที่ทำวันนี้คือการเอาประวัติศาสตร์มาเรียนรู้ว่าปัญหาอยู่ที่ไหนวันนี้จะแก้อย่างไร และจะเริ่มต้นที่จะทำต่อไปในรัฐบาลข้างหน้าอีก 4-5 รัฐบาล คิดอย่างนี้ถึงจะรู้ว่าความเชื่อมโยงคืออะไร บางอย่างต้องใช้เวลาไม่ใช่อะไรก็มาตั้งคำถามว่าเมื่อไหร่จะเสร็จ เศรษฐกิจทำไมไม่ดีขึ้น ถ้าอย่างนี้ผมเห็นว่ามันไม่มีความแตกต่าง ผมไม่ได้ว่าใคร แต่คิดว่าเรายังไม่มีจุดร่วมในการทำงานร่วมกันเพื่อประเทศอย่างสมบูรณ์ ทุกคนอยากเห็นประเทศก้าวหน้า ยกเว้นคนไม่ดี”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เราต้องสร้างกระบวนการเรียนรู้เหมือนที่มาของทศกัณฐ์ ซึ่งมาจากทุกถึงจะแก้ปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาวได้ การดูโขนเราจะรู้ว่ามีเพียงสองฝ่าย และจะเป็นอย่างไรฝ่ายธรรมะต้องชนะอธรรมเสมอ ทุกคนต้องทำให้ได้

“ผมอ่านหนังสือพิมพ์วันนี้ไม่เข้าใจ ผมเองได้ไปเดินเยี่ยมชมนิทรรศการผลงานมาแล้ว แต่หนังสือพิมพ์เขียนยังนี้มันใช้ได้หรือไม่ ไปดูกันได้เลยมันสร้างสรรค์อะไรให้ผมบ้าง แล้วก็มาว่าผมไปละเมิดจรรยาบรรณของพวกท่านไปเขียนได้อย่างไร วันนี้ทุกคนเหนื่อยกันมหาศาลแล้วสื่อก็มาเขียนเพียง 4-5 บรรทัด นี่หรือเรียกว่ารักชาติจะร่วมปฏิรูปประเทศ ผมว่าบางคนเท่านั้นไม่ใช่ทั้งหมด เรื่องนี้ผมไม่ยอมที่จะให้คนเหล่านี้เสียกำลังใจเพราะพวกเขาเป็นคนทำงาน ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นเป็นคนสั่งมีความเชื่อมโยงในการทำงาน ทุกคนจะต้องรวมกันให้ได้ ต้องรู้ว่าอดีตประวัติศาสตร์ปัญหาอยู่ตรงไหนแล้วต้องแก้ตามความสำคัญ ที่ผ่านมาผมแก้ไปแล้ว 1 ปี กำลังแก้อีก 1 ปี 6 เดือนจะแก้ให้เสร็จโดยเร็ว อะไรที่ไม่เสร็จรัฐบาลหน้ารับผิดชอบไป ทั้งผิดทั้งชอบ วันนี้แค่รักษาสถานภาพเศรษฐกิจให้คนอยู่ได้ไม่อดตายก็เก่งแล้ว แล้วสื่อก็ไปเขียนว่าจะรอดหรือไม่ อย่างนี้หรือที่เป็นการให้กำลังใจกัน รัฐบาล คสช. ปี 2559 จะรอดไหม มึงอย่ามาเขียน ไม่สร้างสรรค์ ผมไม่ได้โทษไอ้คนเขียนแต่ไอ้คนตรวจปรู๊ป คอลัมนิสต์ บรรณาธิการ เจ้าของหนังสือพิมพ์ผมไม่กลัวหรอกเพราะผมคิดว่าผมทำถูก ผมไม่ได้ไปบังคับท่าน บางฉบับดีทั้งเล่ม บางเล่มก็ดีหน้ากลางว่าเศรษฐกิจเดินหน้า แต่หน้าแรกบอกเศรษฐกิจตก มันเล่มเดียวกันหรือไม่หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ หรือต้องหลากหลาย หน้า 1 ขย่มเข้าไป ทั้งเรื่องการตัดสินของศาลไม่เป็นธรรม ตำรวจไม่ดี ทำลายกระบวนการยุติธรรมของตัวเอง แล้วมันจะสงบได้อย่างไร ถ้ามันไม่ผิดก็ไปอุทธรณ์มาไปฟ้องศาลปกครองก็ได้ไม่ใช่มาวิพากษ์วิจารณ์จนเสียระบบกันไปหมด ผมไม่ยอมตรงนี้” นายกฯ กล่าว


พม่าพรึบหน้าสถานทูตไทย รวมตัวประท้วงคดีเกาะเต่า

วันที่ 25 ธ.ค. หลังศาลจังหวัดเกาะสมุยมีคำพิพากษาตัดสินประหารชีวิตนายซอริน และนายเวพิว ชาวพม่า จำเลยคดีฆาตกรรมนายเดวิด วิลเลียม มิลเลอร์ อายุ 24 ปี และ น.ส.ฮานนาห์ วิกตอเรีย วิทเธอริดจ์ อายุ 24 ปี นักท่องเที่ยวสัญชาติอังกฤษ บริเวณโขดหินแหลม จปร. หาดทรายรี ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2557 ว่า คำพิพากษาดังกล่าวก่อให้เกิดกระแสความไม่พอใจในประเทศพม่า โดยชาวพม่าหลายร้อยคน ซึ่งรวมถึงพระสงฆ์ รวมตัวประท้วงหน้าสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงย่างกุ้ง โดยเชื่อว่าคำตัดสินดังกล่าวนั้นไม่ถูกต้อง

ผู้ประท้วงหลายคนชูป้ายที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า "ช่วยเด็กพม่าที่น่าสงสาร" และ "ปล่อยพลเมืองผู้บริสุทธิ์ของเรา" หน้าสถานเอกอัครราชทูต โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนเรียงแถวรักษาความปลอดภัย นายมิน เต็ง เค็ง หนึ่งในผู้ประท้วงกล่าวว่า "คำพิพากษานี้เป็นการเลือกปฏิบัตต่อชาวพม่า ทั้งที่หลักฐานก็มีน้อย ไม่มีพยาน หลักฐานดีเอ็นเอก็มีไม่มาก แต่พวกเขายังถูกตัดสินประหารชีวิต มันไม่ยุติธรรม"

ขณะที่นายอู วิน หม่อง เอกอัครราชทูตพม่าประจำประเทศไทย กล่าวเกี่ยวกับคำพิพากษาดังกล่าวว่า "หลังจากได้รับฟังคำพิพากษา ในฐานะมนุษย์ ผมรู้สึกเสียใจ แต่นี่เป็นเรื่องของกฎหมายที่จะต้องดำเนินการต่อ ผมหวังว่าคดีนี้จะได้รับการดูแลเป็นพิเศษและจะไม่กระทบความสัมพันธ์สองประเทศ"


"ป.ป.ช."ตีตก คดี"ปู"ใช้งบกลาง จ่ายประกันผู้ต้องหาคดีการเมือง

เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงถึง กรณีกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี กรณีปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติต่อหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตกรณีจ่ายเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ต้องขังคดีอาญา ที่มีลักษณะเกี่ยวเนื่องกับความขัดแย้งทางการเมืองใช้เป็นหลักประกันการปล่อยตัวชั่วคราว เรื่องนี้คณะอนุกรรมการไต่สวนได้ดำเนินการไต่สวนแล้ว ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ในการจ่ายเงินนั้นได้มีการนำเงินกองทุนยุติธรรมมาใช้ดำเนินการโดยเป็นไปตามข้อเสนอแนะคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติแต่ปรากฏว่าเงินงบประมาณกองทุนยุติธรรมมีจำกัดไม่เพียงพอต่อการดำเนินการจึงได้ของบประมาณเพิ่มเติมจากงบกลางรายการเงินสำรองเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นมาใช้ในการดำเนินการ ซึ่งทั้งนี้เป็นไปตามมาตรา19และมาตรา23แห่งพระราชบัญญัติวิธีงบประมาณพ.ศ.2502 ประกอบกับการนำเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ได้มีการปฏิบัติเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติกรณีการขออนุมัติใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามหนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร 0704/195 ลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2552 แล้ว

นายสรรเสริญ กล่าวว่า ในการจ่ายงบประมาณเพื่อเป็นหลักประกันในครั้งนี้ได้มีการนำไปช่วยเหลือผู้ต้องขังคดีอาญาที่มีลักษณะเกี่ยวเนื่องกับความขัดแย้งในทางการเมืองมิได้เฉพาะเจาะจงกลุ่มการเมืองกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเพราะมีทั้งนปช.และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต่างก็ได้รับเงินสนับสนุนเพื่อใช้ในการปล่อยชั่วคราวดังกล่าวนี้ด้วยและการประกันตัวผู้ต้องขังต้องผ่านการพิจารณาจากศาลที่อนุญาตให้ประกันตัวและกำหนดวงเงินไว้จากนั้นต้องผ่านคณะกรรมการกองทุนยุติธรรมตามหลักเกณฑ์ของระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยกองทุนยุติธรรมพ.ศ.2553และระเบียบคณะกรรมการบริหารกองทุนยุติธรรมว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการสนับสนุนหลักทรัพย์เป็นหลักประกันในการปล่อยชั่วคราว พ.ศ.2554 ก่อน จึงจะสามารถนำเงินงบประมาณมาใช้เป็นหลักประกันตัวได้ และหลังจากได้รับการประกันตัวแล้ว คณะกรรมการบริหารกองทุนยุติธรรมยังได้กำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมจากที่มีในระเบียบฯ เมื่อได้รับการปล่อยชั่วคราวแล้วต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาลในการรายงานตัวตามกำหนดนัด หากสัญญาประกันของศาลสิ้นสุดลง กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพจะได้ดำเนินการขอรับหลักประกันคืนจากศาลต่อไป หากผู้ต้องขังหลบหนีจนเป็นเหตุให้ศาล มีคำสั่งริบประกันผู้ค้ำประกันจะต้องรับผิดทางแพ่ง ชดใช้เงินตามหลักประกันที่กองทุนยุติธรรมให้การสนับสนุน แก่ผู้ต้องขังกรณีดังกล่าวนี้จึงไม่ปรากฏว่าก่อให้เกิดความเสียหายแต่อย่างใด คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงมีมติให้ข้อกล่าวหาตกไป แต่ให้แจ้งกระทรวงยุติธรรมติดตามเรื่องเงินที่ผู้ต้องหาหลบหนีให้กลับคืนมาเป็นของทางราชการด้วย


ราคาที่ดินใหม่ เริ่มใช้ 1 ม.ค.59 สีลม แพงสุด-ดอยเต่า ถูกมาก

คลอดแล้วราคาที่ดินใหม่ เริ่มใช้ 1 ม.ค. กทม.พุ่ง 15.78% แพงสุดถนนสีลม ตารางวาละ 1 ล้าน ส่วนภูมิภาค ปรับขึ้น 27.88% จ.สงขลา ครองแชมป์ ตารางวาละ 4 แสน ต่ำสุดที่เชียงใหม่ ใน อ.กัลยาณิวัฒนา-ดอยเต่า-แม่แจ่ม ตารางวาละ 10 บาท…

ล้านแปลง รอบปี 59-62 ที่จะเริ่มใช้วันที่ 1 ม.ค.59 มีราคาเฉลี่ยทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 27.72% โดยที่ราคาประเมินที่ดินในพื้นที่กรุงเทพฯ เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น เฉลี่ย 15.78% ขณะที่ราคาประเมินในพื้นที่ส่วนภูมิภาค เพิ่มขึ้น เฉลี่ย 27.88% จากราคาประเมินเดิม

สำหรับพื้นที่ที่มีราคาประเมินที่ดินสูงสุดของประเทศ อยู่ในกรุงเทพฯ บริเวณถนนสีลม จากแยกศาลาแดงถึงแยกนราธิวาสราชนครินทร์ ตารางวาละ 1,000,000 บาท สูงขึ้นจากราคาประเมินเดิม ตารางวาละ 850,000 บาท เพิ่มขึ้น 17.65% รองลงมาเป็นถนนราชดำริ จากแยกราชประสงค์ ถึง คลองแสนแสบ ถนนพระรามที่ 1 จากแยกปทุมวัน ถึง แยกราชประสงค์ และถนนเพลินจิต ตลอดสายราคาประเมินที่ดินใหม่ ตารางวาละ 900,000 บาท ราคาประเมินเดิม ตารางวาละ 800,000 บาท เพิ่มขึ้น 12.50% ถัดมาเป็นถนนราชดำริ ช่วงจากแยกศาลาแดง ถึง แยกราชประสงค์ ถนนวิทยุ ช่วงจากถนนเพลินจิต ถึง ถนนพระรามที่ 4 และ ถนนสาทร ช่วงจากถนนพระรามที่ 4 ถึง ถนนสุรศักดิ์ ตารางวาละ 750,000 บาท ราคาประเมินเดิม ตารางวาละ 600,000 - 700,000 บาท เพิ่มขึ้นเฉลี่ย ร้อยละ 13.09

ในส่วนพื้นที่ภูมิภาค ราคาประเมินสูงสุด ตารางวาละ 400,000 บาท อยู่ในจังหวัดสงขลา ส่วนราคาประเมินต่ำสุด ตารางวาละ 10 บาท ในอำเภอกัลยาณิวัฒนา, อำเภอดอยเต่า, และอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากเป็นพื้นที่ตาบอด ที่ดินไม่มีทางเข้าออกในเขตพื้นที่ป่าไม้


หมองดเยี่ยม”ปอ ทฤษฎี” 3 วัน ยันปอดข้างเดียวก็ใช้ชีวิตได้ปกติ

ความคืบหน้าอาการป่วยของ ปอ - ทฤษฎี สหวงษ์ พระเอกชื่อดังหลังผ่าตัดปอดด้านซ้ายออกนั้น ล่าสุด วันนี้ (25 ธ.ค.) เวลา 15.30 น. อาน้ำอ้อย - ศรมนตรา พิชัยศรแผลง ผู้จัดการส่วนตัวและอาของปอ กล่าวว่า ตอนนี้แพทย์ให้ปอพักฟื้นร่างกายและดูอาการอีก 3 วันเพื่อความมั่นใจ เนื่องจากเป็นการผ่าตัดใหญ่ จึงยังไม่อนุญาตให้ครอบครัวเข้าไปเยี่ยมถึงในห้องปอได้ ทำได้แค่ยืนมองผ่านกระจกชั้นในห้องซีซียู ตนก็ได้ไปยืนมองหลายรอบ เห็นว่าเขาปกติดี

"ทั้งนี้ก่อนที่ปอจะเข้าผ่าตัด แพทย์ก็ได้แจ้งถึงผลข้างเคียงของการมีปอดข้างเดียวแล้ว โดยเท่าที่ทราบคือ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ออกกำลังกายมากไม่ได้เพราะจะเหนื่อย ส่วนกรณีของปอ ต้องรอให้ร่างกายฟื้นเต็มที่จึงจะทราบ"

ส่วนจะส่งผลกระทบต่องานแสดงหรือไม่นั้น อาน้ำอ้อยกล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เมื่อถึงตอนนั้นแพทย์คงชี้แจ้งวิธีการดูแลร่างกาย แต่ตอนนี้ต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อก่อน รวมทั้งช่วยกันภาวนาให้ปอดด้านขวาหายจากการติดเชื้อและกลับมาเป็นปกติโดยเร็ว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงปีใหม่ทางครอบครัวจะไปทำบุญที่ไหน อาน้ำอ้อย กล่าวว่า กำลังคิดกันอยู่ แต่ทุกครั้งที่เราไปทำบุญ "ถ้าขอพรได้อยากขอให้ปอกลับมาเป็นปกติไวๆ ให้ลุกขึ้นได้ หายใจเองได้ มีสติ มีกำลัง กลับมาใช้ชีวิตปกติที่สมบูรณ์ แม้ว่าจะมีบางอย่างที่ทำให้เขารู้สึกแปลกไปบ้าง แต่เชื่อว่าปอต้องเข้มแข็ง"

ป้าย หยุดเถอะ ธรรมกาย โผล่ตั้งคู่โฆษณาเดินธุดงค์ฯ

ป้ายปริศนา "หยุดเถอะ ธรรมกาย" โผล่ตั้งคู่ป้ายโฆษณาเดินธุดงค์ที่จะมีขึ้นวันที่ 2-31 ม.ค. 2559 ด้าน "เครือข่ายสตรี - ชาวปทุมฯ" นัดรวมตัวค้าน 29 ธ.ค. พร้อมยื่นจดหมายให้ผู้ว่าฯ เพื่อยุติงานดังกล่าว

( 24 ธ.ค.)ที่บริเวณสี่แยกปทุมวิไล ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ทางวัดพระธรรมกายได้ขึ้นป้ายโฆษณาเชิญชวนกัลยาณมิตรทั่วประเทศ ให้ร่วมทำบุญกับพระธุดงค์ ในโครงการ "ธรรมยาตราธุดงค์ธรรมชัย เส้นทางพระผู้ปราบมาร ปีที่ 5" ของวัดพระธรรมกาย เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ร่วมทำกิจกรรมบุญที่กำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 2-31 ม.ค. 2559 ซึ่งข้างกันมีป้าย ถูกนำมาติดตั้งไว้คู่กัน ระบุข้อความ หยุดเถอะ ธรรมกาย ก่อนที่ “สังฆมณฑล” ล่มสลาย ก่อนที่ “ชาวพุทธ” แตกแยก ลักษณะแสดงความไม่เห็นด้วยกับกิจกรรม ที่ทางวัดพระธรรมกายจัดเป็นประจำทุกปี

ขณะที่ เครือข่ายสตรีปกป้องพุทธศาสนา และพุทธศาสนิกชนชาวปทุมธานี ได้เชิญชวนผู้ไม่เห็นด้วย นัดรวมตัวต่อต้านการเดินธุดงค์ของพระวัดพระธรรมกาย ในวันอังคารที่ 29 ธ.ค. ในเวลา 09.00 น. พร้อมยื่นจดหมายเปิดผนึกต่อผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เพื่อคัดค้านงานบุญดังกล่าว

สำหรับโครงการธุดงค์ธรรมชัย ได้มีการจัดขึ้นติดต่อกันมานานหลายปี ซึ่งในปีล่าสุดมีประชานชนที่ไม่เห็นด้วยออกมาแสดงความคิดเห็นที่ได้รับผลกระทบทางด้านการจราจร ซึ่งทำให้มาการจราจรติดขัดต่อเนื่องหลายเส้นทาง ขณะเดียวกันทางวัดพระธรรมกายเคยออกมาชี้แจงแล้วว่า การเดินธุดงค์ ไม่ได้เป็นสาเหตุทำให้การจราจรติดขัด ซึ่งโดยรวมแล้วสภาพการจราจรตามเส้นทางก็มีสภาพที่ติดขัดอยู่แล้ว จึงไม่ใช่สาเหตุที่การเดินธุดงค์นั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้การจราจรติดขัด