ข่าว
เมียนมาตัดสิน “คดีสุดท้าย” สั่งจำคุก “ซู จี” อีก 7 ปี รวม 19 กระทง-ขังลืม 33 ปี !

เอเอฟพีและ บีบีซี รายงานวันที่ 30 ธ.ค. ว่า ศาลรัฐบาลทหารเมียนมาพิพากษาคดีสุดท้ายของ นางออง ซาน ซู จี อดีตที่ปรึกษาแห่งรัฐและผู้นำรัฐบาลพลเรือนซึ่งถูกคณะทหารก่อรัฐประหารยึดอำนาจตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2564

แหล่งข่าวระบุว่านางซู จี ได้รับโทษจำคุกเพิ่มอีก 7 ปีในข้อหาทุจริต 5 กระทง เกี่ยวข้องกับการเช่าและจ่ายค่าบำรุงรักษาเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งสำหรับรัฐมนตรีซึ่งเข้าข่ายทำให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณ

“ข้อกล่าวหาทั้งหมดของนางซู จี เป็นที่สิ้นสุดแล้ว และไม่มีการตั้งข้อหาใหม่เพื่อดำเนินคดี” แหล่งข่าวผู้ไม่ประสงค์จะเปิดเผยตัวตนกล่าว พร้อมระบุว่านางซู จี ในวัย 77 ปี ดูมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี

ทั้งนี้ รัฐบาลทหารเมียนมาฟ้องร้องดำเนินคดีกับนางซู จี รวม 19 ข้อหาภายใต้กฎหมายต่อต้านการทุจริตซึ่งแต่ละคดีมีโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี โดยนางซู จี ถูกพิพากษาว่ามีความผิดในทุกข้อกล่าวหา ตั้งแต่นำเข้าวิทยุสื่อสารผิดกฎหมาย ละเมิดมาตรการป้องกันการระบาดของโควิด-19 เรื่อยไปจนถึงการกล่าวหาของอดีตหัวหน้าคณะรัฐมนตรีที่อ้างว่าให้เงินสินบนนางซู จี เป็นเงิน 600,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 20 ล้านบาท และทองคำแท่งมากกว่า 10 กิโลกรัม ซึ่งนางซู จี ถูกตัดสินให้จำคุกระหว่าง 1 ปีครึ่งถึง 2 ปีในแต่ละข้อหา รวมทั้งหมดนางซู จี ต้องโทษจำคุกถึง 33 ปี

“ฮุน เซน” แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความสูญเสียโศกนาฏกรรมไฟไหม้ปอยเปต

สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชากล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุโศกนาฏกรรมเพลิงไหม้โรงแรมกาสิโนในเมืองปอยเปต ที่คร่าชีวิตคนงานและนักท่องเที่ยวแล้วอย่างน้อย 19 ศพ บาดเจ็บ 73 ราย

เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2565 สำนักข่าวกัมพูชา รายงานว่าสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชาได้กล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งจากเหตุโศกนาฏกรรมไฟไหม้รุนแรงที่โรงแรมและบ่อนกาสิโน “แกรนด์ ไดมอนด์ ซิตี้” ในเมืองปอยเปต จังหวัดบันทายมีชัย ติดกับด่านพรมแดนของไทยเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 ศพ บาดเจ็บ 73 ราย

ผู้นำกัมพูชากล่าวระหว่างเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการซ่อมแซมถนนสาย NR31 และ NR33 ในจังหวัดกำปอต เมื่อเช้าวันที่ 30 ธันวาคม โดยระบุว่า ช่วงเช้าวันนี้ทีมกู้ภัยได้เข้าไปค้นหาผู้ที่ยังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของโรงแรม พร้อมกันนี้สมเด็จฮุน เซน กล่าวว่า นี่เป็นโศกนาฏกรรมร้ายแรงที่เกิดขึ้นส่งท้ายปีนี้ พร้อมขอบคุณหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะจากทางฝั่งไทยที่ร่วมด้วยช่วยกันในปฏิบัติการกู้ภัย โดยสั่งการให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ด่านข้ามแดนดำเนินไปตามปกติเพื่ออำนวยความสะดวกและนักท่องเที่ยวและขนส่งสินค้า.


ไหม้วอดกาสิโน ดับ 22 ศพ แกรนด์ไดมอนด์ เป็นพนักงานและนักเล่นคนไทย

โศกนาฏกรรมสยองส่งท้ายปี เพลิงนรกเผาวอดบ่อนกาสิโนหรูฝั่งปอยเปต “แกรนด์ไดมอนต์” ต้นเพลิงเกิดจากอาคารกาสิโนลามไปอาคารโรงแรมและอาคารรีสอร์ต รวม 3 ตึกใหญ่กลายเป็นทะเลเพลิงสังเวยชีวิตพนักงานและนักพนันคนไทย 22 ศพ บาดเจ็บ 53 คน ยังสูญหาย 8 คน เหตุเกิดช่วงกลางดึกพยานระบุเห็นไฟช็อตที่สปอตไลต์ในห้องโถงใหญ่ชั้นล่างที่มีเซียนพนันกว่าร้อยคนนั่งเล่นอยู่ตามโต๊ะ รปภ.เอาถังดับเพลิงไปฉีดสกัดแต่เปลวไฟพวยพุ่งขึ้นไปติดฝ้าเพดานลุกลามรวดเร็วต้องวิ่งหนีตายโกลาหล พวกที่ติดอยู่ตามห้องพักบนอาคารพากันโรยตัวหนีระทึกจากหน้าต่าง บางคนกระโดดลงมา หลายคนหนีขึ้นไปติดบนดาดฟ้า มีทั้งถูกย่างสดและทิ้งร่างดิ่งสุดสยอง เจ้าหน้าที่กัมพูชาเอาไม่อยู่ขอไทยส่งรถดับเพลิง และทีมกู้ภัยข้ามฝั่งไปช่วยระดมฉีดน้ำ นานนับ 10 ชม.กว่าเพลิงจะสงบ ลำเลียงคนเจ็บส่งโรงพยาบาลฝั่งไทย ส่วนผู้เสียชีวิตรอพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลก่อนเดินเรื่องส่งกลับไทย

เหตุโศกนาฏกรรมสลดไฟไหม้บ่อนกาสิโนฝั่งปอยเปตสังเวยชีวิตพนักงานและนักพนันคนไทยจำนวนมาก เปิดเผยเมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 29 ธ.ค. พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตม.จ.สระแก้ว พ.อ.อนุพงศ์ มูลบรรจบ ผบ.ชค.กรม.ทพ.13 พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้รับการแจ้งประสานขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กัมพูชา ประจำกรุงปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย ว่า เมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนเศษเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่บ่อนกาสิโน “แกรนด์ไดมอนด์” ฝั่งปอยเปต ต้นเพลิงเกิดบริเวณชั้นล่างของอาคารกาสิโน ไฟไหม้ลุกลามไปทั่วอาคารที่มีพนักงานและนักพนันชาวไทยติดอยู่ภายในจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกัมพูชาไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ขอรับการสนับสนุนรถดับเพลิงและหน่วยกู้ภัยจากประเทศไทยโดยด่วน

หลังรับแจ้งรายงานไปยังนายปริญญา โพธิสัตย์ ผวจ.สระแก้ว สั่งการให้ทีมกู้ภัยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มูลนิธิกู้ภัยอรัญประเทศ มูลนิธิสว่างเที่ยงธรรมสถานอรัญประเทศ มูลนิธิร่วมกตัญญู นำรถน้ำ รถกระเช้า และรถดับเพลิงหลายสิบคันพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดกู้ชีพกู้ภัยระดมกำลังเข้าไปช่วยดับเพลิง มีเจ้าหน้าที่กัมพูชาอำนวยความสะดวก

ที่เกิดเหตุเป็นกาสิโนสุดหรูขนาดใหญ่อันดับต้นๆ ในปอยเปตชื่อ “แกรนด์ไดมอนด์ ซิตี้ โฮเต็ล แอนด์ กาสิโน” มีอดีตนักการเมืองระดับประเทศของไทยคนหนึ่งเป็นหุ้นส่วนใหญ่ อยู่ฝั่งตรงข้ามตลาดโรงเกลือและจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ห่างจากชายแดนไทย- กัมพูชา ประมาณ 200 เมตร ด้านหน้าเป็นอาคารกาสิโนและห้องพักสูง 8 ชั้น มีเปลวเพลิงลุกไหม้แดงฉานไปทั่วทั้งอาคาร กลุ่มควันดำทะมึนพวยพุ่งเต็มท้องฟ้า ไฟลามไปติดอาคารด้านหลังเป็นโรงแรมสูง 17 ชั้น และยังลามไหม้สะพานลอยข้ามถนนเชื่อมระหว่างอาคารกาสิโนไปยังรีสอร์ตสูง 8 ชั้น จนกลายเป็นทะเลเพลิงสว่างจ้าไปทั่วทั้งเมือง

เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำพยายามดับไฟที่โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง แต่เป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากเป็นตึก สูงขนาดใหญ่ 3 อาคาร มีห้องพักนับพันห้องภายในเต็มไปด้วยวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี มีพนักงานและนักพนันส่วนใหญ่เป็นคนไทยติดอยู่ภายในจำนวนมาก ท่ามกลางความแตกตื่นตกใจของผู้คนพากันวิ่งหนีตายกันอลหม่าน บางส่วนที่ติดอยู่ในห้องพักต้องใช้ผ้าปูที่นอนผูกต่อกันโรยตัวลงมา บางส่วนปีนหนีออกมานอกหน้าต่างพลัดตกลงมาด้านล่าง ที่อยู่ห้องพักชั้นไม่สูงมากตัดสินใจกระโดดหนีตายลงมาให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยขึงผ้ารองรับอยู่ด้านล่าง หลายคนสำลักควันเสียชีวิตอยู่ในห้อง บางส่วนวิ่งหนีขึ้นไปติดอยู่บนชั้นดาดฟ้า เมื่อไฟไหม้ลามขึ้นมาทนความร้อนไม่ไหวต้องกระโดดลงมามีทั้งเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก บางคนสำลักควันหมดสติถูกย่างสดคากองเพลิงบนดาดฟ้า มีคนถ่ายคลิปเหตุการณ์สุดสยองแชร์ว่อนโซเชียล บรรยากาศเต็มไปด้วยความตื่นกลัวมีเสียงหวีดร้องดังระงม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและทีมกู้ภัยระดมฉีดน้ำดับเพลิงอย่างต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะควบคุมเพลิงไว้ได้ ต้องระดมรถดับเพลิงจากฝั่งไทยเข้าไปอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทีมกู้ภัยช่วยกันลำเลียงร่างผู้ได้รับบาดเจ็บข้ามกลับมาฝั่งไทยนำส่ง รพ.อรัญประเทศ และ รพ.เกษมราษฎร์อรัญประเทศ จนห้องฉุกเฉินเต็มไปด้วยผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่สำลักควันไฟ ถูกไฟคลอกร่าง บางคนแขนขาหักจากกระโดดลงจากที่สูง

กระทั่งรุ่งเช้าเปลวไฟที่ลุกไหม้สามารถควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด จนเวลาประมาณ 11.00 น. เพลิงสงบลง ใช้เวลานานร่วม 10 ชม. เพลิงนรกเผาวอดอาคารกาสิโนสูง 8 ชั้น อาคารรีสอร์ตสูง 7 ชั้น และ อาคารโรงแรมสูง 17 ชั้น ถูกไฟไหม้ไปถึงชั้น 10 หลังเพลิงสงบยังคงมีกลุ่มควันคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ทีมกู้ภัยต้องสวมชุดผจญเพลิงเข้าไปตรวจสอบภายในอาคารที่ถูกเพลิงไหม้ โดยนายสมศักดิ์ ปาลวัฒน์ ผจก.มูลนิธิร่วมกตัญญู นำเจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงกว่า 50 นาย พร้อมอุปกรณ์ไปสนับสนุนภารกิจกู้ภัยในที่เกิดเหตุ พบภาพสลดหดหู่มีผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอกจำนวนมากติดอยู่ในอาคาร ทั้งในห้องพักโรงแรม บันไดหนีไฟ ดาดฟ้า รวมถึงบางคนที่กระโดดลงมาเสียชีวิตอยู่ข้างอาคาร

สรุปยอดผู้เสียชีวิตที่พบในที่เกิดเหตุ 21 ศพยังไม่ทราบชื่อ และเสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาลในฝั่งไทยอีก 1 ศพ ชื่อนายฐิติ เลิศสันติกุล อายุ 24 ปี พนักงานบ่อนกาสิโนแกรนด์ไดมอนด์ รวม 22 ศพ ผู้เสียชีวิตในฝั่งกัมพูชาตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลแล้ว 8 ศพ เป็นหญิงไทยทั้งหมด ศพอยู่ที่วัดตราด ปอยเปต รอดำเนินการส่งกลับไทย ส่วนที่เหลือ 13 ศพ อยู่ที่ รพ.ปอยเปต และ รพ.ศรีโสภณ รอพิสูจน์ อัตลักษณ์บุคคล

ที่ห้องประชุมชั้น 2 จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ช่วงเช้าวันเดียวกัน นายประพันธ์ จันทร์ไทยศรี นายด่านศุลกากรอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ในฐานะประธานช่องทาง เรียกประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ด่านศุลกากรอรัญประเทศ ตม.สระแก้ว สภ.คลองลึก อำเภออรัญประเทศ ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 13 รพ.อรัญประเทศ สำนักงานประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ปภ.สระแก้ว และเทศบาลเมืองอรัญประเทศ ตั้งศูนย์ประสานงานให้ความช่วยเหลือคนไทยผู้ประสบภัยเพลิงไหม้ปอยเปต กัมพูชา มีรายงานว่าขณะนี้พบผู้เสียชีวิตแล้ว 22 ศพ บาดเจ็บ 53 รายถูกลำเลียงส่งโรงพยาบาลฝั่งไทย และสูญหาย 8 ราย เกือบทั้งหมดเป็นพนักงานและนักพนันคนไทย เจ้าหน้าที่กู้ภัยของไทยและกัมพูชายังคงระดมกำลังค้นหาและช่วยเหลือผู้สูญหายในพื้นที่เพลิงไหม้

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยว่า ได้รับการประสานส่งผู้บาดเจ็บเข้ามารักษาตัวใน จ.สระแก้ว 32 คน เป็นผู้ป่วยสีแดง 13 คน สีเหลือง 3 คน และสีเขียว 16 คน นำส่งโรงพยาบาลต่างๆ ดังนี้ รพ.ค่ายสุรสิงหนาท ผู้ป่วยสีแดง 6 คนใส่ท่อช่วยหายใจ รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ผู้ป่วยสีเขียว 3 คน รพ.อรัญประเทศ ผู้ป่วยสีแดง 5 คน และสีเหลือง 2 คน รพ.วัฒนานคร ผู้ป่วยสีแดง 2 คน ส่งต่อ รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว และสีเขียว 2 คน รพ.โคกสูง ผู้ป่วยสีเหลือง 1 คน และสีเขียว 8 คน และ รพ.เกษมราษฎร์ อรัญประเทศ ผู้ป่วยสีเขียว 3 คน และมีผู้เสียชีวิต 1 ศพเป็นคนไทย ทีมบุคลากรทางการแพทย์ให้การดูแลรักษาพยาบาลอย่างเต็มที่ กำชับโรงพยาบาลทุกแห่งใน จ.สระแก้ว ติดตามสถานการณ์เตรียมพร้อมรับผู้ป่วย/ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว และให้โรงพยาบาลในจังหวัดใกล้เคียงเตรียมให้การสนับสนุนหากได้รับการร้องขอ พร้อมประสานหน่วยดูแลผู้ป่วยไฟไหม้น้ำร้อนลวกของ รพ.ระยอง รพ.ชลบุรี รพ.สรรพสิทธิ ประสงค์ รพ.นพรัตน์ราชธานี รพ.ราชวิถี รพ.มหาราชนครราชสีมา รพ.รามาธิบดี รพ.จุฬาลงกรณ์ และ รพ.วชิรพยาบาล สำรองเตียงว่างรองรับหากมีผู้บาดเจ็บรุนแรงอีก 16 เตียง

ผู้สื่อข่าวสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์เป็นชายไทยที่เดินทางมาท่องเที่ยวกาสิโนแกรนด์ไดมอนด์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุอยู่ห้องพักบนชั้น 14 อาคารวีไอพี เวลาประมาณเที่ยงคืนได้ยินเสียงดนตรีจากคอนเสิร์ตบริเวณข้างอาคารกาสิโน นอนไม่หลับเลยลงมาเดินเล่นบริเวณชั้นจีหรือชั้นล่างของอาคารกาสิโน เป็นห้องโถงใหญ่ฝ้าเพดานสูง มีกลุ่มนักพนันคนไทยนั่งเล่นอยู่ตามโต๊ะต่างๆ กว่าร้อยคน เห็นไฟช็อตหลอดไฟสปอตไลต์หลังบาร์น้ำ รปภ.รีบนำถังดับเพลิงมาฉีดสกัด แต่ไฟไม่ดับ กลับพวยพุ่งขึ้นไปติดบนฝ้าเพดานอย่างรวดเร็วและลุกลามไปทั่วห้องกาสิโน ท่ามกลางความแตกตื่นตกใจของบรรดาเซียนพนันรีบวิ่งหนีออกมาเป็นที่ชุลมุน ด้วยความตกใจตนก็รีบวิ่งหนีตามกันออกมาโดยไม่ได้ดูว่ามีใครเป็นอะไรหรือไม่ แต่รู้ว่ามีคนไทยอยู่ในห้องกาสิโนนับร้อยคน

นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงเหตุไฟไหม้โรงแรมแกรนด์ ไดมอนด์ ซิตี้ แอนด์ กาสิโน ในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ว่า นายเชิดเกียรติ อัตถากร เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา รายงานข้อมูลเข้ามาว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญและทีมประเทศไทยได้เร่งประสานงานกับ ผวจ.สระแก้ว ศูนย์ประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา และหน่วยงานกัมพูชาที่เกี่ยวข้องมาตลอด ในชั้นนี้หน่วยงานของไทยที่อยู่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาร่วมกันจัดตั้งศูนย์ประสานงานรับข้อมูลผู้ประสบภัย เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการกลับประเทศไทย ส่วนใหญ่ประสบปัญหาหนังสือเดินทางหรือเอกสารที่ใช้สำหรับการเดินทางถูกไฟไหม้ไปแล้ว ดังนั้น สถานเอกอัครราชทูตไทยฯ จะช่วยเร่งออกหนังสือรับรองการเดินทางกลับและทำกระบวนการส่งต่อเอกสารให้ศูนย์ประสานงานนำไปดำเนินการต่อไป


สภาแห่งชาติลาวตั้ง “สอนไซ สีพันดอน” เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่

นายสอนไซ สีพันดอน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของลาว แทนนายพันคำ วิพาวัน ซึ่งขอลาออก “เพราะมีปัญหาสุขภาพ”...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. ว่า ที่ประชุมสภาแห่งชาติลาว มีมติเสียงข้างมากท่วมท้น 149 จาก 151 เสียง เมื่อวันศุกร์ เลือกนายสอนไซ สีพันดอน อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แทนนายพันคํา วิพาวัน ซึ่งดำรงตำแหน่งเมื่อเดือน มี.ค. ปีที่แล้ว และขอลาออก “ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับสุขภาพ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความราบรื่นและประสิทธิภาพในการบริหารกิจการแผ่นดิน”...

อนึ่ง นายสอนไซ วัย 56 ปี เป็นบุตรชายของ พล.อ.คำไต สีพันดอน อดีตประธานประเทศลาว ระหว่างปี 2541-2549

ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งสำคัญในลาวรอบนี้ เกิดขึ้นหลังรายงานโดยบริษัทมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ของสหรัฐฯ ระบุว่า ลาวกำลังอยู่บนเส้นทางสู่การผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งเป็นผลจากการบริหารจัดการด้านธรรมาภิบาลที่อ่อนแอ ภาระหนี้สาธารณะที่พอกพูน แต่ทุนสำรองระหว่างประเทศกลับมีไม่เพียงพอ ที่จะใช้จัดการกับภาระหนี้ได้...

ขณะที่รายงานโดยธนาคารโลก ( เวิลด์แบงก์ ) ระบุว่า สถิติล่าสุดถึงเมื่อเดือนธ.ค. 2564 ปริมาณทุนสำรองระหว่างประเทศของลาว อยู่ที่ประมาณ 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 44,863 ล้านบาท ) แต่มูลค่าหนี้ต่างประเทศซึ่งต้องชำระคืนในแต่ละปี กลับจะยังคงอยู่ในระดับเดียวกันนี้ไปจนถึงปี 2568 “เป็นอย่างน้อย” ซึ่งเป็นมูลค่าประมาณครึ่งหนึ่งของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ( จีดีพี ) ของลาว

เครดิตภาพ : สำนักข่าวสารประเทศลาว... สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/1846235/


‘เนทันยาฮู’ คืนสู่อำนาจ นั่งนายกฯอิสราเอลรอบที่ 6 หลังเข้าพิธีสาบานตน

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า นายเบนจามิน เนทันยาฮู หวนกลับคืนสู่อำนาจอีกครั้ง โดยกลับมานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของอิสราเอลเป็นสมัยที่ 6 หลังเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ในเยรูซาเล็ม โดยนายเนทันยาฮูถือเป็นผู้นำรัฐบาลขวาจัดและมีความเคร่งศาสนามากที่สุดในประวัติศาสตร์ 74 ปีของประเทศอิสราเอล

นายเนทันยาฮู ขึ้นกล่าวระหว่างการประชุมรัฐสภาก่อนที่จะมีพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความดุเดือด โดยตอบโต้เสียงวิจารณ์ และกล่าวหาว่าฝ่ายค้านพยายามที่จะทำให้สาธารณชนรู้สึกกังวลถึงการเข้ารับตำแหน่งของตน โดยกล่าวว่า “ผมได้ยินเสียงโอดครวญจากฝ่ายค้านเกี่ยวกับการสิ้นสุดของประเทศและประชาธิปไตยมาอย่างต่อเนื่อง สมาชิกฝ่ายค้านทุกท่านครับ การแพ้การเลือกตั้งไม่ใช่จุดสิ้นสุดของประชาธิปไตย แต่มันคือแก่นแท้ของประชาธิปไตย”

สุนทรพจน์ของเนทันยาฮู ถูกขัดจังหวะจากเสียงโห่และเสียงเย้ยหยันจากทางฝ่ายค้าน

พิธีสาบานตนของเนทันยาฮู ถือเป็นการกลับมาสู่อำนาจอีกครั้ง หลังหลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ตนเองดำรงตำแหน่งมายาวนานต่อเนื่องถึง 12 ปี เมื่อเดือนมิถุนายน 2021 โดยรัฐบาลชุดใหม่ของนายเนทันยาฮูรับปากว่าจะให้ความสำคัญในการขยายการตั้งถิ่นฐานของชาวยิวในเขตเวสต์แบงค์ รวมถึงเพิ่มเงินสนับสนุนจำนวนมากให้กับพันธมิตรทางการเมืองของเนทันยาฮู และผลักดันการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ที่หลายคนวิจารณ์ว่านโยบายดังกล่าวเป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยของประเทศ

นอกเหนือจากนั้นแล้ว เนทันยาฮูยังประกาศขณะประชุมคณะรัฐมนตรี ว่าจะเน้นไปที่การมุ่งยุติการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน เพิ่มความเข้มแข็งให้กับรากฐานของกฎหมาย และต่อสู้กับปัญหาค่าครองชีพที่สูงของอิสราเอล อีกทั้งจะมุ่งขยายความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลและชาติอาหรับ

เนทันยาฮู กล่าวอีกว่า “ผมรู้สึกซาบซึ้งจากความเชื่อมั่นอย่างหนักแน่นที่ชาวอิสราเอลได้มอบให้กับเรา” โดยกล่าวถึงคณะรัฐมนตรีว่าตนรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ทำงานกับทีมที่ยอดเยี่ยม พร้อมกล่าวกับบรรดารัฐมนตรีอีกว่า “เรามาเริ่มงานกันเถอะ”

รัสเซียย้ำไม่เอาด้วย แผนสันติภาพของผู้นำยูเครน

มอสโก/เคียฟ (เอพี/รอยเตอร์ส) - รัสเซียย้ำจะไม่ดำเนินการตามแผนสันติภาพของผู้นำยูเครน และคิดว่ายูเครนยังไม่พร้อมที่จะเปิดการเจรจาเพื่อสันติภาพอย่างจริงจังกับรัสเซีย ด้านยูเครนเผยรัสเซียระดมยิงขีปนาวุธถล่มหลายเป้าหมายของยูเครน จากทั้งภาคพื้นดิน ทางทะเลและทางอากาศมากกว่า 120 ลูก

เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย ระบุว่า รัสเซียจะไม่ดำเนินการตามแผนสันติภาพของประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครน ที่ต้องการขับรัสเซียออกจากพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครนและคาบสมุทรไครเมียโดยได้รับความช่วยเหลือจากชาติตะวันตก และต้องการให้รัสเซียจ่ายเงินชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ยูเครนนั้นเป็นเหมือนภาพลวงตาที่ไม่มีวันเป็นจริง ทั้งยังระบุว่า รัสเซียจะยังคงเพิ่มความแข็งแกร่งด้านการต่อสู้และขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีในสมรภูมิยูเครนต่อไป

ด้าน ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย เผยว่า รัสเซียจะไม่เจรจาสันติภาพกับยูเครน หากยูเครนไม่ยอมรับว่าแคว้นทั้งสี่ ได้แก่ แคว้นลูฮันสก์กับโดเนตสก์ ทางตะวันออก และแคว้นเคอร์ซอนกับซาโปริซเซีย ทางตอนใต้ ได้รับการผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียแล้ว ทั้งนี้ คำกล่าวของเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งสองคนของรัสเซียมีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีกำลังเดินหน้าเสนอแผนสันติภาพ 10 ข้อ ซึ่งรวมถึงข้อเรียกร้องให้รัสเซียเคารพอำนาจอธิปไตยของยูเครน และถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากยูเครน

ขณะเดียวกัน โอเลกซี อาเรสโตวิช ที่ปรึกษาทำเนียบประธานาธิบดียูเครน เผยว่ายูเครนกำลังตกเป็นเป้าโจมตีจากขีปนาวุธกว่า 120 ลูก ที่รัสเซียระดมยิงมาจากทั้งภาคพื้นดิน ทางทะเลและทางอากาศ จนเสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศดังทั่วประเทศ ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์ส และสื่อท้องถิ่นของยูเครนรายงานตรงกันว่า ขณะนี้ มีเสียงระเบิดดังขึ้นหลายครั้งในกรุงเคียฟ เมืองซิตโทเมีย และเมืองโอเดสซา โดยที่ทางการยูเครนได้ประกาศตัดไฟฟ้าที่เมืองโอเดสซาและแคว้นดนิโปรเปตรอฟสก์เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานแล้ว

ในอีกด้านหนึ่ง เซบาสเตียน เลอคอร์นู รัฐมนตรีกลาโหมของฝรั่งเศสเดินทางไปเยือนกรุงเคียฟ และได้พบกับหารือกับทั้งประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีผู้นำยูเครน รวมถึงบรรดารัฐมนตรีและนายทหารของยูเครน โดยได้เน้นย้ำว่า ฝรั่งเศสมีจุดยืนมั่นคงที่จะช่วยเหลือยูเครนต่อไป โดยเขาจะหารือเพิ่มความช่วยเหลือ

ด้านการทหารตามที่ยูเครนจำเป็นต้องใช้หลังจากที่รัฐบาลได้อนุมัติงบช่วยเหลือก้อนใหม่จำนวน 200 ล้านยูโร คาดว่าน่าจะเป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศและรถหุ้มเกราะ รวมถึงเครื่องปั่นไฟซึ่งหลายพื้นที่ในยูเครนต้องการมากเพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ทั้งนี้ ฝรั่งเศสเป็นชาติหนึ่งที่มอบความช่วยเหลือให้กับยูเครนอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นปืนใหญ่ จรวดต่อต้านรถถัง เครื่องยิงจรวด และระบบป้องกันภัยทางอากาศ นอกจากนั้นยังช่วยฝึกฝนกำลังพลของยูเครนกว่า 2,000 คนด้วย