ข่าว
เปิดใจครู 'จิ๋ว'อินเดีย-สูงไม่ถึงเมตร

เมื่อ 5 มี.ค. เดลี่เมล์รายงานชีวิตต้องสู้ของนายอาซาด ซิงห์ วัย 22 ปี ครูชาวอินเดีย ที่มีรูปร่างหน้าตาไม่ต่างจากเด็ก 7 ขวบ ขึ้นแท่นเป็นครูตัวเล็กที่สุดในโลกด้วยความสูงเพียง 91 ซ.ม. และหนักแค่ 19 ก.ก. เท่านั้น

นายซิงห์เปิดใจว่า ร่างกายหยุดโตเมื่อ 5 ขวบ ตอนเด็กถูกเพื่อนรังแกตลอด ซ้ำยังถูกข่มขู่ว่าจะจับตัวไปเป็นนักแสดงคณะละครสัตว์ แต่กัดฟันสู้เรียนจนจบได้เป็นอาจารย์สอนคอมพิวเตอร์ที่โรงเรียนในเมืองเกอร์กอน รัฐหรยาณา "ครูตัวน้อย" ที่เด็กๆเรียก กล่าวว่าแม้ต้องใส่เสื้อผ้าเด็ก ต้องยืนบนโต๊ะเพื่อสอนนักเรียน แต่ไม่รู้สึกเป็นปมด้อย "ผมไม่สนหรอก เพราะผมได้เป็นครูตามที่ฝันไว้ และผู้คนดูจะให้เกียรติผมมากขึ้นเมื่อมีงานทำ" นายซิงห์อธิบายอย่างภาคภูมิใจ

เศรษฐีมะกันเปิดทัวร์ดาวอังคารปี 2561

เดนนิส ติโต้ วิศวกรและมหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ประกาศรับสมัครนักท่องเที่ยวอวกาศสำหรับโครงการ "อินสไปเรชั่น มาร์ส" โครงการสำรวจดาวอังคารของตนซึ่งจะส่งยานอวกาศไปโคจรรอบดาวอังคารในปี 2561 ก่อนบินกลับสู่โลก ซึ่งหากสำเร็จจะเป็นภารกิจเยือนดาวอังคารครั้งแรกของมนุษย์ ทั้งยังเป็นผลงานของบริษัทเอกชน ที่ยังไม่มีรัฐบาลประเทศใดทำได้มาก่อน

นายติโต้กล่าวว่า เหตุที่รับสมัครเฉพาะคู่รักหรือคู่ชีวิต เนื่องจากจะต้องทนอยู่ด้วยกันในยานอวกาศที่คับแคบถึง 1 ปีครึ่ง และต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกันในสถานการณ์กดดันต่างๆ ส่วนตนไม่ได้ไปด้วย แต่ถ้าหากหนุ่มกว่านี้ 30 ปี คงไม่แน่

ยานอวกาศจะออกเดินทางวันที่ 5 ม.ค. 2561 ไปโคจรรอบดาวอังคาร 1 รอบในระยะห่างจากผิวดาว 160 กิโลเมตร จากนั้นจะใช้แรงดึงดูดของดาวเหวี่ยงส่งกลับสู่โลก โดยดาวอังคารนั้นอยู่ห่างจากโลกกว่า 120 ล้านกิโลเมตร

โครงการนี้ไม่เกี่ยวข้องกับองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ หรือนาซ่า โดยติโต้ซึ่งเป็นอดีตวิศวกรของนาซ่าใช้เงินส่วนตัวมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 30,000 ล้านบาท ดำเนินการเอง หลังได้แรงบันดาลใจที่ตีตั๋วให้รัสเซีย 20 ล้านดอลลาร์ หรือราว 600 ล้านบาทเป็นนักท่องเที่ยวอวกาศคนแรกขึ้นไปเที่ยวสถานีอวกาศเมื่อปี 2544


"เฟซบุ๊ก"ยกเครื่อง"นิวส์ฟีด-ไทม์ไลน์"ครั้งใหญ่ในรอบ 6 ปี

มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก เจ้าพ่อเฟซบุ๊ก ประกาศเปิดตัวเฟซบุ๊กโฉมใหม่ ที่เน้นเอาใจผู้ที่นิยมโพสต์ภาพลงในเว็บไซต์เฟซบุ๊กในโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ

การเปลี่ยนโฉมของเฟซบุ๊กในครั้งนี้ด้วยปรับปรุงนิวส์ฟีดใหม่ เพื่อเอาใจผู้ที่เล่นเฟซบุ๊กบนโทรศัพท์สมาร์ทโฟน มีความสะดวกสบายในการใช้งานมากยิ่งขึ้น และมีปฏิสัมพันธ์กันระหว่างผู้ใช้เฟซบุ๊กด้วยกันมากขึ้น นอกจากนี้ยังเอาใจผู้ที่สนใจจะลงโฆษณาบนเว็บไซต์เฟซบุ๊กด้วยการให้พื้นที่โฆษณาที่ใหญ่กว่าเดิม การตัดสินใจเปลี่ยนโฉมของเฟซบุ๊กครั้งนี้ มีขึ้นท่ามกลางการขับเคี่ยวกับคู่แข่งสำคัญในด้านธุรกิจบนโลกอินเทอร์เน็ต คือ บริษัท กูเกิล

การเปิดตัวระบบนิวส์ฟีด และไทม์ไลน์ ใหม่ในครั้งนี้ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุด บนหน้าจอของเฟซบุ๊คในรอบ 6 ปี ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า ระบบใหม่ของเฟซบุ๊ค จะช่วยจำแนกข้อมูลต่างๆ ออกเป็นหมวดหมู่ แทนการขึ้นรูปภาพ คลิปวิดีโอ หรือข้อความของเพื่อนบนเฟซบุ๊คแบบที่มีอยู่ในปัจจุบัน

นอกเหนือจากนิวส์ฟีดในรูปแบบมาตรฐานทั่วไป ผู้ใช้สามารถเลือกฟีดอื่นๆได้ตามต้องการ ซึ่งรวมถึงทุกโพสต์ของเพื่อนผู้ใช้ที่ปรากฏในหน้าฟีด แทนที่จะเป็นโพสต์ที่ปรากฏตามชุดของคำสั่งที่สร้างไว้ตามขั้นตอน หรือโพสต์จากหน้าเพจขององค์กรหรือบุคคลที่เรา"ตาม"

โดยการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดคือ การจัดวางข้อมูลในไทม์ไลน์ จากรูปแบบ 3 คอลัมน์ จะเหลือเพียง 2 คอลัมน์ ทำให้มีพื้นที่ในการโพสต์ข้อความ ลิงค์ ภาพถ่าย และอื่นๆกว้างยิ่งขึ้น ส่วนคอลัมน์ด้านซ้ายของหน้าไทม์ไลน์ จะถูกเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่แสดงโปรไฟล์ของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นเพลงและหนังสือที่ผู้ใช้โปรดปราน ซึ่งรวมถึงแอพพลิเคชันถ่ายภาพอย่างอินสตาแกรม ที่ถูกจัดมาลงยังคอลัมน์ด้านซ้ายเช่นกัน เพื่อจัดหน้าเฟซบุ๊กให้เป็นระเบียบยิ่งขึ้น

"ฮิวโก ชาเวซ"ผู้นำเวเนซุลา ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว

นายนิโคลัส มาดูโร รองประธานาธิบดีเวเนซุเอลา แถลงว่า นายฮิวโก ชาเวซ ประธานาธิบดีเวเนซุเอลาวัย 58 ปี ได้ถึงแก่อสัญกรรมแล้วเมื่อเวลา 16.25 น.วันที่ 5 มีนาคม หลังต้องเผชิญโรคมะเร็งมาเป็นเวลานาน

ทั้งนี้ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว นายชาเวซเดินทางไปรักษาโรคมะเร็งที่ประเทศคิวบา และสั่่งให้ นายมาดูโร ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศแทน หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายชาเวซ เดินทางกลับมาพักฟื้นที่กรุงคารากัส เมืองหลวงของเวเนซูเอลา และทวิตข้อความ ขอบคุณชาวเวเนซุเอลาทุกคนที่ให้กำลังใจ

สำหรับ นายชาเวซ เป็นนักการเมืองเวเนซุเอลาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของเวเนซูเอลา โดยชาเวซ ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศครั้งแรกเมื่อปี 2541 และเพิ่งชนะการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา รวมเป็นผู้นำประเทศทั้งหมด 3 สมัย

"ฮิวโก ชาเวซ" ยังเป็นหนึ่งในผู้นำที่สร้างสีสันให้กับโลกไม่เพียงเป็นผู้นำที่หลงใหลในลัทธิสังคมนิยมเท่านั้นหากยังเป็นศัตรูตัวฉกาจของสหรัฐอเมริกา


เสริมสวยจีน"ใช้ไฟอบหน้า"หญิง ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 8 มี.ค.ว่า วงการเสริมสวยจีนสร้างความฮือฮาใช้เทคนิคนำ"ไฟ"จากสารละลายแอลกฮอลล์ อบบริเวณใบหน้า ของลูกค้า เพื่อช่วยให้ผิวหน้าเปล่งปลั่ง โดยเทคนิกนี้จะกระตุ้นเซลล์ให้เกิดใหม่และสดใสขึ้น โดยเทคนิกพิศดารนี้มาจากการค้นพบของนักบำบัดผิวหน้า ซึ่งจะใช้ผ้าขนหนูจุ่มแอลกฮอลล์และจุดไฟ มาอบบริเวณหน้าตรงดวงตา โดยมีผ้ารอง โดยไฟจะเกิดการคุตัวไปรอบบริเวณดวงหน้า และความร้อนของไฟจะกระตุ้นเซลล์ผิวหนัง สามารถขจัดริ้วรอย ใบหน้าหมอง ผิวย้อย รวมทั้งตีนกา นอกจากนี้ เทคนิกนี้ยังสามารถใช้รักษาได้อีกหลายอย่างเช่น โรคอ้วน และโรคหวัดด้วย

ด้านร้านเสริมสวยที่ใช้เทคนิค"ไฟอบหน้า"คุยว่า เทคนิกนี้ถือเป็นการบำบัดรักษาที่ปลอดภัยอย่างสมบูรณ์แบบ โดยนักบำบัดได้รับการฝึกฝนมาอย่างละเอียดในการใช้ไฟอบหน้าได้อย่างเชี่ยวชาญเป็นอย่างดี โดยสารละลายดังกล่าวจะเพียงแค่ทำให้ผิวหน้าเกิดการอุ่นตัว แต่ไม่ไหม้ผิวหนัง อย่างไรก็ตาม เทคนิกนี้ยังมีหลายฝ่ายวิตกว่าจะเป็นอันตรายได้หลายอย่าง เมื่อนำไฟมาใช้กับผิวหน้าล้วน ๆ โดยการใช้สารละลายดังกล่าวไม่จำเป็นต้องจุดไฟ แต่เทคนิกนี้ก็อาจมีผลดีในแง่กระตุ้นให้สารอดีนารีนตอบสนอง เปลี่ยนระบบเคมีภายในร่างกาย ช่วยทำให้ร่างกายย่อยอาหารได้ดีขึ้น และเพิ่มการเผาผลาญในร่างกาย