วันที่ 14 พ.ค. เวลา 09.30 น.ที่รัฐสภา ก่อนประชุม ครม.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงพัทยาไม่พอใจ น.ส.บงกช คงมาลัย หรือตั๊ก นักแสดงสาวชื่อดัง ที่แสดงความคิดเห็นผ่านเครือข่ายออนไลน์กรณีอากง เสียชีวิต และเข้าปิดล้อมขับไล่ ระหว่างถ่ายภาพยนตร์ ว่า ตนคิดว่าคนเสื้อแดงไม่ได้กดดันอะไร เพียงแต่เป็นเรื่องของความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน เนื่องจาก น.ส.บงกชคิดอย่างหนึ่งและ คนเสื้อแดงเห็นอย่างหนึ่ง ดังนั้นตรงนี้ถือว่าเป็นสีสันของประชาธิปไตย อย่าไปมองอะไรให้มันลึกหรือไกลเกินไป ไม่มีอะไร เป็นเรื่องของอารมณ์ หลังจากนี้ 72 ชั่วโมงทุกอย่างคงเบาลง ใครจะไปทำอะไรคนสวย ใครไปกดดันพอเห็นหน้าตั๊ก ก็อารมณ์ดีแล้วไม่มีใครทำอะไรรุนแรง
รองนายกฯ กล่าวในตอนท้ายว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล ใครจะทำอะไร ถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล ถ้าผิดกฎหมายก็แจ้งความดำเนินคดี และคงไม่ต้องกำชับอะไรเจ้าหน้าที่ เพราะตำรวจทำหน้าที่อยู่แล้ว อะไรที่ผิดกฎหมายละเว้นเขาก็ติดคุก ผู้สื่อข่าวซักว่า ประชาชนเรียกร้องให้รัฐบาลปรามคนเสื้อแดง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า จะไปป้องปรามเขาได้อย่างไร เพราะเป็นสิทธิ แต่ใครก็ตามที่ทำผิด จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ใช่เรื่องสลับซับซ้อนอะไร
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 16 พ.ค. ที่พรรคเพื่อไทย สมาชิกบ้านเลขที่ 111 ไทยรักไทย ร่วมแถลงภายหลังการหารือ โดยนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทยกล่าวว่า ในการหารือครั้งนี้ประเด็นที่พูดถึงมีแค่เรื่องกิจกรรมที่จะทำในระหว่างก่อนวันพ้นโทษ ซึ่งทุกคนเห็นตรงกันว่าควรจะได้จัดเสวนาสื่อสารในเรื่องที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการยุบพรรคไทยรักไทยและการตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคทั้ง 111 คนให้สังคมได้รับทราบ โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 30 พ.ค.นี้ ในโอกาสครบรอบ 5 ปีวันยุบพรรคไทยรักไทย นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบการตั้งกรรมการ 1 ชุดประกอบด้วย 7 คน ได้แก่ นายโภคิน พลกุล นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช นายภูมิธรรม เวชยชัย นายวราเทพ รัตนากร นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล และตนเอง จะทำหน้าที่ในการประสานงานเตรียมการการจัดกิจกรรมต่างๆ โดยวันที่ 31 พ.ค.วันแรกที่จะมีสิทธิเป็นพลเมืองชั้น 1 สมาชิกบ้านเลขที่ 111 จำนวนหนึ่งจะเดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยพร้อมกัน จากนั้นจะเดินทางไปร่วมกิจกรรมรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 ที่ จ.เชียงใหม่ ยืนยันว่าวันนี้ไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องที่เกี่ยวกับรัฐบาลและเรื่องของตำแหน่งแต่อย่างใดทั้งสิ้น
เมื่อถามว่า จะรณรงค์ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตราที่เกี่ยวข้องกับการยุบพรรคหรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ส่วนที่มีข่าวว่าสายของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา จะกลับมาร่วมงานนั้น ไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ รวมถึงไม่มีการพูดถึงบ้านเลขที่ 111 ที่แยกตัวไปร่วมงานกับพรรคการเมืองอื่นด้วย
นายเอกภาพ พลซื่อ คนสนิทนายพินิจ จารุสมบัติ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่แยกตัวออกไปตั้งพรรคเพื่อแผ่นดิน ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เป็นการเดินทางมาในนามส่วนตัวไม่ใช่ตัวแทนของสายเพื่อแผ่นดิน แต่หลังพ้นโทษแล้ว นายพินิจ และนายปรีชา เลาหะพงศ์ชนะ รวมถึงสมาชิกรายอื่นๆ ก็จะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ส่วนจะกลับมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้นยังไม่ขอตอบแต่มีการพูดคุยและมีสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสมาชิก 111 กำหนดกิจกรรม ในวันที่ 30 พ.ค. เวลา 10.00 น.จะมีการทำบุญตักบาตรที่มูลนิธิ 111 ไทยรักไทย ย่านนางเลิ้ง จากนั้นเวลา 11.00 น. กิจกรรมปล่อยนกพิราบ 111 ตัว เวลา 17.30 น. จะมีงานเลี้ยงร่วมรับประทานอาหารที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ และเวลา 20.00 น.พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะวีดีโอลิงค์มาภายในงาน
วันที่ 17 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มี นายเกียรติ แปงอุด หรือโก้ อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 46 หมู่ที่ 1 ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน อดีตทหารเกณฑ์ที่เพิ่งปลดประจำการ โชว์ท้าพิสูจน์ความเผ็ดกินพริกขี้หนูสด ๆ จำนวน 1 ถาด ที่ร้านเจ๊กิม ร้านไก่ย่างเขาสวนกวาง รสชาติจัดจ้าน ตั้งอยู่เลขที่ 525/2 หมู่ที่ 11 ตำบลไชยสถาน อำเภอเมือง จ.น่าน ต่อหน้านางวาสนา ปัญญาภู อายุ 50 ปี เจ้าของร้าน สื่อมวลชนและลูกค้าที่สนใจรุมล้อมดูอย่างใกล้ชิด
โดยนายโก้หยิบพริกที่เจ้าของร้านรับรองว่าเผ็ดที่สุดมาเต็มกำมือแล้วใส่ปากเคี้ยว โดยไม่แสดงความรู้สึกอะไร หลังจากนั่งเคี้ยวพริกขี้หนูเข้าไปเกือบ 50 เม็ด ก็คายเมล็ดพริกที่เคี้ยวในปากออกมาใส่มือ พร้อมทาละเลงใส่ในลูกตาทั้ง 2 ข้าง ทั่วใบหน้าและแขน สร้างความหวาดเสียวให้กับผู้พบเห็น แต่นายโก้กลับไม่มีท่าทีสะทกสะท้าน ไม่มีน้ำตาไหลเหมือนคนธรรมดา และผิวหนังไม่เป็นอะไรเลย
ระหว่างนั้นมีลูกค้าคนหนึ่งในร้าน ได้ทดลองหยิบพริกขี้หนูในถาดกัดกินได้เพียงนิดเดียวปรากฏว่า เผ็ดจี๊ดปวดแสบร้อนไปทั่วปาก วิ่งหาน้ำแข็งและน้ำเย็นมาดื่มกินคลายความเผ็ด เช่นเดียวกับนางวาสนาฯ เจ้าของร้านก็ลองหยิบพริกมากัดกินก็รู้สึกเผ็ดร้อนสุดขีดเช่นกัน ทำให้ผู้ที่เห็นการเปิบพริกพิสดารครั้งนี้ถึงกับตลึงและทึ่งในความสามารถของหนุ่มอดีตทหารเกณฑ์รายนี้ มิหนำซ้ำนางวาสนาฯ เจ้าของร้านส้มตำต้องเสียไก่ย่างไป 1 ตัว จากการท้าพิสูจน์ความเผ็ดครั้งนี้ด้วย
นายโก้ มนุษย์พริก ที่ชีวิตนี้ไม่รู้จักคำว่าเผ็ดได้เล่าว่า กินพริกมาตั้งแต่อายุ 11 ปี เป็นเวลา 12 ปีแล้ว ทุกครั้งที่กินอาหารไม่มีความรู้สึกว่า รสเผ็ดนั้นเป็นอย่างไร จึงแปลกใจตนเอง พยายามตามหาความเผ็ดมาตลอดเพื่อจะได้รู้ว่ามันเป็นอย่างไร เพื่อน ๆ หลายคนก็ท้าพิสูจน์มาตลอด ตนก็อยากให้ใครก็ได้ที่คิดว่าพริกที่ไหนมีรสเผ็ดขอให้นำมาให้กินด้วย แม้แต่อาหารประเภทแกงเผ็ด ผัดเผ็ด ก็ไม่เคยได้ลิ้มลองความเผ็ดสักครั้ง เวลาเคี้ยวพริก ก็มีความรู้สึกเฉยๆ เหมือนกินข้าว เพราะตนเหมือนเกิดมาอาภัพ ไม่เคยรู้สึกหรือสัมผัสกับความเผ็ดว่าเป็นอย่างไร ด้านนางวาสนาฯ และลูกค้าในร้าน ต่างยอมรับกับความสามารถของหนุ่มโก้คนนี้ พร้อมยกนิ้วให้เป็นมนุษย์มหัศจรรย์ หรือมนุษย์พริกจังหวัดน่าน
ขณะที่ นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ รองผอ.โรงพยาบาลจังหวัดน่าน กล่าวถึงกรณีที่นายเกียรติ แปงอุด อายุ23 ปี อดีตทหารเกณฑ์กินพริกขี้หนูครั้งละมาก ๆ และนำมาทาหน้าทาตา แต่ไม่มีความรู้สึกอย่างไร ว่า เป็นความสามารถพิเศษ ไม่อยากให้คนเลียนแบบเพราะผู้กินได้อาจจะมีความเคยชินกินมานานเป็นลักษณะพิเศษของร่างกาย ไม่แนะนำให้คนทำตาม เพราะจะทำให้กัดกระเพาะอาหารได้ และบางคนหากแพ้ก็เป็นอันตรายกับผิวหนังและร่างกายได้ แม้จะมีความเชื่อว่ากินพริกบ่อย ๆ จะทำให้ชะลอความชราได้ เนื่องจากในพริกมีสารแคปไซซิลเป็นสารต้นอนุมูลอิสระ แต่ไม่แนะนำให้กินครั้งละจำนวนมาก และที่สำคัญไม่ควรนำมาทาตามร่างกายด้วย.
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012