ข่าว
ชื่นชม "หมอริท เดอะสตาร์" จอดรถหรู ลงช่วยคนบาดเจ็บกลางถนน

ชาวเน็ตแห่ชื่นชมดาราหนุ่ม ริท เดอะสตาร์ เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช จอดรถลงมาช่วยเหลือคนบาดเจ็บที่ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถโม่ปูน

เพจ 123 คนดีมีน้ำใจ เผยแพร่คลิปอุบัติเหตุบริเวณแยกเอกมัยเหนือ ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ มีรถจักรยานยนต์ ชนกับรถโม่ปูน ทะเบียน 71-6191 กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีผู้บาดเจ็บชาย 1 รายอาการขาผิดรูป

โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังทำการช่วยเหลือ ได้มีรถเบนซ์สีขาวได้จอดและคนขับได้ลงมาช่วยเหลือคนเจ็บ ซึ่งชายคนนั้นก็คือ หมอริท หรือ ริท เดอะสตาร์ เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช ซึ่งคลิปดังกล่าวได้มีชาวโซเชียลเข้ามาชื่นชมสิ่งที่ หมอริท ทำอย่างมากมาย

'คู่ปรับลุงป้อม ยกธงขาว' บิ๊กยอร์ช ลาออก ‘ทษช.’ ปิดตำนานจิ้งจกเปลี่ยนสี

หายเงียบไปนาน ภายหลัง ออกมาเป็นข่าวประกาศตัวร่วมลงสมัครเป็นสมาชิกพรรค ไทยรักษาชาติ "บิ๊กยอร์ช" พล.อ.ยศนันท์ หร่ายเจริญ อดีต รอง ผบ.ทหารสูงสุด ในฐานะอดีต ผบ.นรด. โผล่หน้าตบเท้าเข้าร่วมงาน 71 ปี วันสถาปนา นรด. วันที่ 4 ก.พ. 62 ที่หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.)


ทูตออสเตรเลีย ซัด "รัฐบาลบาห์เรน" ทำไทยอยู่ในภาวะลำบาก

เฟซบุ๊ก Australia in Thailand ออกแถลงการณ์เผยแพร่หน้าเพจ ถึงการกระทำของรัฐบาลบาห์เรน กรณีออกหมายจับนักบอลลี้ภัย ระบุชัด ทำให้ประเทศไทยอยู่ในสถานะที่ลำบากมาก

ในนามของเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย รัฐบาลบาห์เรนทราบดีอยู่แล้วว่าคุณ Hakeem al-Araibi อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลีย มาตั้งแต่ปี 2557 ในห้วงเวลา 4 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลบาห์เรนไม่เคยแสดงความพยายาม หรือแจ้งรัฐบาลออสเตรเลีย แม้แต่ครั้งเดียวถึงกรณีคุณ Hakeem หรือต้องการตัวคุณ Hakeem กลับประเทศ

แต่ว่าทันทีที่คุณ Hakeem และภรรยาเดินทางมา ฮันนีมูนที่ประเทศไทย รัฐบาลบาห์เรนได้ประสานมาที่รัฐบาลไทยอย่างเร่งด่วน เพื่อขอให้ควบคุมตัวคุณHakeem และดำเนินการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับประเทศบาห์เรนทันที การกระทำของรัฐบาลบาห์เรน ทำให้ประเทศไทยอยู่ในสถานะที่ลำบากมาก ซึ่งจริงๆ แล้วปีนี้เป็นปีที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับประชาชนชาวไทยและประเทศไทย

ผมขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า รัฐบาลออสเตรเลียต้องการให้ คุณHakeem กลับไปประเทศออสเตรเลีย เพราะเขาเป็นผู้ลี้ภัย และเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรที่ประเทศออสเตรเลียโดยเร็วที่สุด คุณHakeem เป็นนักฟุตบอลที่รักของแฟนฟุตบอล ทีม Pascoe Vale FC และแฟนฟุตบอลทั่วประเทศ เราหวังว่าคุณ Hakeem จะได้กลับไปหาครอบครัวและภรรยาของเขาในเร็ววัน


2 ผัวเมีย แจกอั่งเปาไม่อั้น จนกว่าคนจะหมด เผย ทำมา 16 ปีแล้ว

2 ผัวเมีย เจ้าของร้านขายของแจกอั่งเปาเด็กและผู้ใหญ่ กว่า 300 คน เนื่องในวันตรุษจีน เผย ทำติดต่อกันมา 16 ปี ระบุ ที่ทำเพราะแต่ก่อนยากจน กว่าจะมีวันนี้ก็อยากให้ความสุขกับเด็กๆ ปีนี้แจกแบบไม่อั้นรอจนกว่าคนจะหมด

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 4 ก.พ. 62 ที่ร้านขายของลุงเกียรติ สี่แยกตลาดบางแสม เลขที่ 65/28 ม.6 ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งมี นายเกียรติ สัจจวทีกุล อายุ 76 ปี และ นางสมพิศ สัจจวทีกุล อายุ 68 ปี เป็นเจ้าของร้าน ได้จัดพิธีไหว้บรรพบุรุษช่วงบ่าย ซึ่งหลังจากที่ไหว้เสร็จแล้วก็จะเผากระดาษแล้วจุดประทัด ซึ่งก่อนหน้าที่จะจุดก็มีเด็กและผู้ใหญ่กว่า 300 คน มารวมตัวกันอยู่บริเวณหน้าร้าน ซึ่งเมื่อเข้าไปสอบถามเด็ก ก็พบว่าวันนี้ทางร้านจะแจกอั่งเปา โดย คุณป้าสมพิศ เป็นคนแจก ในวันตรุษจีน ซึ่งทางคุณป้าสมพิศ ได้แลกแบงก์ 50 บาท และ 100 บาท ไว้จำนวน 60,000 บาท เอาไว้สำหรับแจก

ลุงเกียรติ บอกว่า เมื่อก่อนครอบครัวนั้นลำบากมาก ซึ่งเมื่อปัจจุบันครอบครัวนั้นพอมีพอกิน ก็แบ่งปันเงินบางส่วน มาให้เป็นของขวัญในวันตรุษจีน ซึ่งได้ทำติดต่อกันมา 16 ปีแล้ว โดยแต่ละปีจะแจกไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับคนที่มารอรับ โดยปีนี้ยังแจกให้กับคนรู้จัก และลูกน้องภายในร้านอีก 20,000 บาท โดยบอกว่า นอกจากการทำบุญแล้วก็ต้องทำทานด้วย โดยสามารถที่จะมอบความสุขให้กับเด็กๆ และคนโตให้มีความสุขในวันตรุษจีนทุกๆ ปี ซึ่งหลายคนก็ยังอวยพรให้คุณลุง คุณป้า มีสุขภาพแข็งแรง โดยปีนี้คาดว่าอาจจะต้องเพิ่มเงินประมาณ 20,000 บาท เพราะมีคนมาเรื่อยๆ โดยทางคุณป้าสมพิศ ก็แจกไม่อั้นจนกว่าคนจะหมด


ตม.รวบหัวหน้าแก๊งเกาหลี ผุดเว็บปลอมตุ๋นเหยื่อซื้อลอตเตอรี่ตปท.หนีซุกไทย

6 ก.พ.62 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ผบช.สตม.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ , พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(บก.สส.สตม.) ดำเนินการสืบสวนหาข่าวจับกุมกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะกลุ่มที่ก่ออาชญากรรมในประเทศต่างๆ แล้วใช้ประเทศไทยเป็นแหล่งหลบซ่อนกบดาน ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย

ต่อมา พล.ต.ต.พนัญชัย ได้รับการประสานข้อมูลจากทางการเกาหลีใต้ ว่า ได้มีนายซองฮวา ลี (MR.SUNGHWA LEE) อายุ 53 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นหัวหน้าขบวนการและเป็นบุคคลที่มีหมายจับของทางการประเทศเกาหลีใต้ และตำรวจสากล ในฐานความผิดสร้างเว็บไซต์ปลอมหลอกลวงผู้เสียหายกว่า 340 ราย ให้ซื้อลอตเตอรี่ต่างประเทศ ปรากฏมูลค่าความเสียหายกว่า 4 หมื่นล้านวอน หรือประมาณ 1,129 ล้านบาท จากนั้นได้หลบหนีเข้ามายังประเทศไทย โดยใช้วิธีการเปลี่ยนที่พักอาศัยในกรุงเทพฯไปเรื่อยๆ

จนมาถูกจับกุมเมื่อวันที่ 4 ก.พ.62 ที่บริเวณหน้าศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ ถ.สุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ในความผิดฐานเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามา และอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย ขณะนี้ถูกกักขังแทนค่าปรับอยู่ที่สถานกักขังกลาง จ.ปทุมธานี กรมราชทัณฑ์

ทั้งนี้ มีผู้ร่วมขบวนการกระทำความผิดที่ถูกจับกุมตัวตามหมายจับตำรวจสากลได้ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.61 คือ นายจินวู อัน (MR.AHA JINWOO) อายุ 28 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ ปัจจุบันถูกเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรแล้ว หลังจากคดีเสร็จสิ้น ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายจะถูกส่งตัวกลับไปดำเนินคดีต่อที่ประเทศเกาหลีใต้ต่อไป โดยที่ผ่านมาในคดีดังกล่าวมีผู้ร่วมกระทำความผิดจำนวน 15 คน ถูกจับกุมและรับโทษตามความผิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ในรายของนายซองฮวา ลี เป็นผู้ต้องหารายสำคัญที่หลบหนีมายังประเทศไทย ตั้งแต่ปี 57

ทั้งนี้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แจ้งว่า คนต่างชาติที่เดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยจะต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และกฎหมายระเบียบที่เกี่ยวข้อง และต้องไม่มีพฤติการณ์ที่เป็นลักษณะต้องห้ามเข้ามาและอยู่ในประเทศไทย เช่น มีพฤติกรรมที่ผิดกฎหมาย หลบหนีคดีมาจากประเทศอื่น ก่อเหตุเข้าลักษณะอาชญากรรมข้ามชาติ เป็นต้น หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด ให้แจ้งมายังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178

#ขอบคุณข้อมูล-ภาพ : พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.อก.สตม.และโฆษก บก.อก.สตม.


'เก่ง การุณ'สุดงง! โดนแจ้งห้ามติดป้ายรอบเขต แต่ทำไมพรรคอื่นทำได้?

“มีหนังสือแจ้งถึงผมจากสำนักงานเขตดอนเมือง ขอความร่วมมือห้ามติดป้ายรอบสำนักงานเขต #ผมปฏิบัติตามคำขอร้อง แต่ถามกลับว่าพรรคอื่นที่ติดไว้จะทำอย่างไร ผู้ที่ติดต่อผมมาให้ไปรับหนังสือ ตอบว่าเดี๋ยวปรึกษาผู้ใหญ่ก่อน #มันใช่ไหมครับ #ไม่ได้โทษนักการเมืองแต่ไม่พอใจข้าราชการที่ทำงานแบบนี้ครับ”


อีกแล้ว! สื่ออังกฤษเผยนักข่าวเวียดนามขอลี้ภัยในไทยหายตัวลึกลับ คาดถูกตามอุ้มข้ามแดน

6 ก.พ. 2562 เว็บไซต์ นสพ. The Guardian ของอังกฤษ รายงานว่า ตรวง ดุย นัท (Truong Duy Nhat) ผู้สื่อข่าวชาวเวียดนามจากสำนักข่าว Radio Free Asia สหรัฐอเมริกา ซึ่งนำเสนอข่าววิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเวียดนาม หายตัวไประหว่างเดินทางเข้ายื่นคำขอลี้ภัย ณ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ที่กรุงเทพฯ เมืองหลวงของประเทศไทย เมื่อ 26 ม.ค. 2562 แล้วไม่มีใครทราบข่าวของนายตรวงอีก

ลิบบี หลิว (Libby Liu) ประธานสำนักข่าว Radio Free Asia แสดงความกังวลด้านความปลอดภัยของนายตรวง และหวังว่าจะได้รับการติดต่อกลับมาว่าขณะนี้อาศัยอยู่ที่ใดเพื่อให้มั่นใจว่านายตรวงจะไม่ตกอยู่ในอันตราย พร้อมกับได้แจ้งไปยังกระทรวงการต่างประเทศรวมถึงรัฐสภาสหรัฐ ขณะที่ บุย ตัน ฮิว (Bui Thanh Hieu) ผู้สื่อข่าวชาวเวียดนามอีกรายที่อาศัยอยู่ในเยอรมนี ระบุว่ารัฐบาลเวียดนามเคยข่มขู่จะลักพาตัวนายตรวง

ด้านองค์กรนักข่าวไร้พรมแดน (Reporters Without Borders) ที่ต่อสู้ในประเด็นเสรีภาพสื่อมวลชนทั่วโลก เรียกร้องให้ทางการไทยเข้ามาสืบสวนเรื่องนี้ เพราะเหตุที่เกิดขึ้นเป็นการข่มขู่ไปยังบรรดาสื่อมวลชนหรือนักเขียนชาวเวียดนามที่อาศัยอยู่นอกกรุงเทพฯ โดย แดเนียล บัสตาร์ด (Daniel Bastard) ผู้เชี่ยวชาญด้านทวีปเอเชียขององค์กร Reporters Without Borders กล่าวว่า หากทางการไทยไม่ทำอะไร นั่นเท่ากับคนของทางการเวียดนามสามารถตามล่าผู้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลได้อย่างไม่ต้องสนใจอำนาจอธิปไตยของชาติอื่นรวมถึงกฎหมายระหว่างประเทศ

รายงานของ The Guardian ระบุว่า นายตรวงเคยถูกจำคุกที่เวียดนามเป็นเวลา 2 ปี ในข้อหาโพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์พรรคคอมมิวนิสต์ที่ครองอำนาจนำในเวียดนาม และล่าสุดก่อนเดินทางมายื่นเรื่องของลี้ภัยกับสำนักงาน UNHCR ที่ประเทศไทยนั้น เขาได้โพสต์ข้อความทำนองพาดพิงเหตุประท้วงต่อต้านรัฐบาลในประเทศเวเนซุเอลา ว่าอาจเป็นต้นแบบของการเปลี่ยนแปลงในเวียดนามบ้าง อนึ่ง ทาง Free Radio Asia อ้างถึงเพื่อนร่วมงานของนายตรวง ที่กล่าวว่านายตรวงถูกจับขณะไปซื้อไอศกรีมในศูนย์การค้าชื่อดังแห่งหนึ่งในประเทศไทย

"ชัชชาติ"ไม่ลง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่ถนัดงานนิติบัญญัติ

พรรคเพื่อไทย ส่งรายชื่อปาร์ตี้ลิสต์ 97 คน แล้ว ไม่มีชื่อ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ที่อยู่เฉพาะบัญชีนายกรัฐมนตรี ร่วม สุดารัตน์ – ชัยเกษม พรรคชี้แจงเพราะไม่ถนัดนิติบัญญัติ หวังเป็นรัฐบาลเพื่อทำงานบริหารเท่านั้น เจ้าตัวเผยถ้าไม่ได้เป็นรัฐบาลอาจลงผู้ว่าฯ กทม.

นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ชี้แจงเรื่องรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อไม่มีชื่อนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่า เพราะนายชัชชาติถนัดงานบริหารมากกว่างานนิติบัญญัติ และปฏิเสธไม่มีการฮั้วกับพรรคอื่น ส่วนพื้นที่ที่ไม่มีตัวแทนพรรคเพื่อไทยลงสมัคร ขอให้ประชาชนสนับสนุนพรรคที่สนับสนุนประชาธิปไตย ส่วนกรณีที่นักวิชาการวิเคราะห์ว่าพรรคเพื่อไทยอาจไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เนื่องจากแค่โควตา ส.ส แบบแบ่งเขตก็น่าจะครบแล้ว นายภูมิธรรมชี้แจงว่า เป็นเพียงการคาดการณ์ ทางพรรคไม่กังวลแต่อย่างใด

ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลที่ไม่มีรายชื่อสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อว่า เป็นไปตามมติคณะกรรมการบริหารพรรค ส่วนตัวยืนยันทำงานด้านยุทธศาสตร์ทางด้านเศรษฐกิจต่อไป ส่วนตัวยังคงทำงานสนับสนุนพรรคเพราะทุกคนทำงานเป็นทีม ส่วนกระแสข่าวลือว่า หากไม่ติดในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจะกลับไปทำงานบริหารธุรกิจนั้น นายชัชชาติระบุเป็นเรื่องอนาคต แต่การตัดสินใจมาทำงานการเมืองครั้งนี้มาแบบเต็มตัว ไม่ใช่มาเล่นๆ

ทั้งนี้ นายชัชชาติ เปิดเผยว่า หากพรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นฝ่ายบริหารอาจจะลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร