ข่าว
แก๊งขายอวัยวะ"สุดเถื่อน"ควักลูกตา"เด็กน้อย" เจ้าตัวนอนซมในรพ.

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 28 สิงหาคมว่า ครอบครัวจีนต้องเผชิญกับเหตุการณ์สยองและป่าเถื่อน เมื่อแก๊งค้ามนุษย์ได้ควักลูกนัยน์ตา 2 ข้างของลูกชายวัย 6 ขวบ โดยที่ผ่านมา จีนต้องประสบกับเหตุการณ์ผู้คนเป็นเหยื่อแก๊งค้าอวัยวะมนุษย์อย่างหนัก

รายงานระบุว่า เด็กชาย"บินบิน"ต้องกลายเป็นเหยื่อเคราะห์ร้ายของแก๊งค้าอวัยวะมนุษย์จีน เมื่อเขาถูกลักพาตัว และวางยาสลบ ขณะออกไปเล่นนอกบ้าน ก่อนที่ครอบครัวจะพบเด็กชายบินบินในสภาพอาบด้วยเลือด และร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด และมีการพบดวงตาของเขาใกล้ ๆ กับกระจกตาที่หายไป ก่อนที่เด็กจะถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล และสร้างความช็อกให้แก่แพทย์ที่พบว่า สองตาของเขาถูกควัก ขณะที่ตำรวจบอกว่า นี่เป็นฝีมือของแก๊งค้าอวัยวะ โดยคาดว่า คนร้ายต้องการกระจกตาของเด็ก เพื่อนำไปปลูกถ่ายให้แก่ผู้ป่วยที่มีปัญหาจอตาเสื่อม

ตำรวจยังเผยด้วยว่า คนร้ายได้ใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดใส่เด็กชายบินบิน ส่งผลให้เสื้อผ้าเด็กชายฉีกขาดเพราะแรงดันสูงของน้ำ และจมูกอาบเลือด ก่อนที่เขาจะล้มลงกับพื้นคอนกรีต และเขาถูกวางยาก่อนถูกลักพาตัว และควักลูกตา โดยคนร้ายได้ปลอบเด็กชายบินบินจะไม่ทำอันตรายใด ๆ แก่เขา

ทั้งนี้ ธุรกิจเถื่อนการค้าอวัยวะมนุษย์เป็นไปอย่างเฟื่องฟูในเมืองจีน ซึ่งขาดแคลนผู้บริจาคอวัยวะ และส่งผลให้ทางการปักกิ่งถูกเรียกร้องให้ปราบปรามกวาดล้างธุรกิจผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะเถื่อนที่ทำเงินเป็นจำนวนหลายล้านดอลลาร์ต่อปี

ลูกชายนายพลจีนวัน 17 ปี ขึ้นศาลคดีรุมโทรมหญิงในโรงแรม

บุตรชายของนายทหารระดับสูงของจีน ได้เข้ารับการไต่สวนในคดีรุมโทรมหญิงวัยรุ่น ที่ก่อให้เกิดกระแสการถกเถียงอย่างเผ็ดร้อนในโลกออนไลน์

สื่อรัฐบาลจีนรายงานว่า นายหลี เทียนยี่ วัย 17 ปี ถูกตั้องข้อหาพร้อมกับผู้ต้องสงสัยอีก 4 คน จากการรุมโทรมหญิงคนหนึ่งในโรงแรมในกรุงปักกิ่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากกลับจากการกินดื่มที่บาร์แห่งหนึ่ง

นายหลีเป็นบุตรชายของพลเอก หลี ฉวงเจียง ที่รู้จักในฐานะผู้ร้องเพลงปลุกใจในรายการทางโทรทัศน์ ขณะที่มารดาของเขาคือนางเหมิง จี้ นักร้องชื่อดังประจำกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน

เมื่อปี 2011 เขาคยถูกกักบริเวณในสถานกักกันเด็กและเยาวชนนานกว่า 1 ปี จากอุบัติเหตุทางถนนที่ก่อให้เกิดความไม่พอใจอย่งรุนแรงของสังคมจีน โดยในขณะนั้น นายหลี ซึ่งมีอายุเพียง 15 ปี ขับรถบีเอ็มดับเบิลยูที่ไม่มีทะเบียนในกรุงปักกิ่ง ชนเข้ากับรถยนต์ของคู่สามีภรรยาวัยกลางคน ก่อนที่จะมีปากเสียงและทำร้ายทั้งสองคน เขาตะโกนด่าประชาชนในบริเวณดังกล่าว พร้อมท้าทายให้แจ้งตำรวจ กระทั่งพ่อของเขาต้องออกมาขอโทษต่อทั้งคู่

ด้านทนายความของเขาเปิดเผยว่า ลูกความของเขาจะไม่ยอมรับสารภาพผิด แต่ไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติม ขณะที่ที่ปรึกษาทางกฎหมาย ได้ร้องขอให้ศาลสืบสวนความเป็นไปได้ของหญิงขายบริการที่มีการอ้างถึง และการขู่กรรโชกที่เกี่ยวกับคดี

คดีของนายหลี ได้สร้างกระแสความไม่พอใจของประชาชนที่มีต่อลูกหลานของนักการเมืองและบุคคลที่มีชื่อเสียง ที่มักทำตัวเหนือกฎหมายและอวดเบ่ง

ด้านหนังสือพิมพ์พีเพิลส์ เดลี่ ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาล กล่าวแสดงความเห็นต่อคดีนี้ว่า ความล้มเหลวอย่างเห็นได้ชัดของระบบครอบครัวในการให้การศึกษาแก่บุตรหลาน อาจเป็นอันตรายต่อสังคม

โดยเมื่อเดือนกรกฎาคม เว็บไซต์ของสำนักทนายความที่ว่าความให้แก่นายหลี ถูกแฮ็คเกอร์เจาะเข้าระบบอินเตอร์เน็ต พร้อมเขียนข้อความว่า "เราแค่อยากนำความยุติธรรมให้แก่ลูกความ"


เด็กมะกันคลั่งเกมส์ยิงพี่เลี้ยงดับ

สลอเทอร์ (เอพี) - สำนักงานนายอำเภอเขตเฟลิเซียนาตะวันออก แถลงข่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่า นางมารี สมูเธอร์ส หญิงชราวัย 87 ปี ถูกยิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านเคลื่อนที่ในเมืองสลอเทอร์ รัฐลุยเซียนา โดยมีแผลถูกยิงที่ศีรษะ เจ้าหน้าที่บอกเพียงว่าหญิงชราผู้นี้เป็นพี่เลี้ยงของเด็กชายวัย 8 ปีคนหนึ่ง และมีความสัมพันธ์อันดีกับครอบครัวและตัวเด็ก แต่ไม่ระบุว่าเป็นญาติหรือไม่ ขณะที่สำนักข่าวดับเบิลยูบีอาร์ซีในเครือสถานีโทรทัศน์เอบีซี รายงานว่าหญิงชราคนนี้เป็นญาติของเด็กและว่า ปืนกระบอกที่ใช้ก่อเหตุเป็นของนางสมูเธอร์ส

ในด้านการสืบสวน สำนักงานนายอำเภอฯแถลงว่า แม้ในเบื้องต้น เด็กจะให้การว่า เขายิงหญิงชราโดยบังเอิญขณะกำลังเล่นปืน แต่จากการสืบสวนค้นพบบางอย่าง ทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่า เด็กตั้งใจยิงที่หลังศีรษะของนางสมูเธอร์สขณะที่เธอกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในห้องนั่งเล่น และเสริมว่าความรุนแรงในโลกเสมือนจริง อาจเป็นสาเหตุนำไปสู่การฆาตกรรมในครั้งนี้ก็เป็นได้ โดยระบุว่า เด็กชายผู้ต้องสงสัย เล่นวีดีโอเกมชื่อว่า “Grand Theft Auto IV” บนเครื่องเล่นเกมเพลย์ สเตช่ัน 3 ซึ่งเป็นเกมในโลกเสมือนจริงมีเนื้อหารุนแรง และได้รับแต้มรางวัลเมื่อสังหารตัวละครในเกม เพียงไม่กี่นาทีก่อนเกิดเหตุฆาตกรรม

ทั้งนี้ ทนายความ สคลีนสกี เลเกอร์ เผยต่อดับเบิลยูเอเอฟบี ว่า เด็กคนนี้จะไม่ถูกเจ้าหน้าที่ตั้งข้อกล่าวหา ตามกฎหมายรัฐลุยเซียนา ซึ่งกำหนดให้เด็กอายุต่ำว่า 10 ปี ไม่ต้องรับโทษในคดีอาญา และว่า เด็กคนนี้ไม่เข้าใจถึงผลกระทบจากสิ่งที่เขาได้ทำลงไปเลยแม้แต่น้อย

ส.ส. ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน เข้าเฝ้าพระเทพฯ 30 ส.ค.

28 ส.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ท.หญิง ลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา ลูกครึ่งไทย-สหรัฐฯ ได้เดินทางเยือนประเทศไทยในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 27 ส.ค.- 3 ก.ย.นี้ ภายใต้โครงการเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับไทยแก่เจ้าหน้าที่รัฐบาลและรัฐสภาสหรัฐฯ ของสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา

โดยนางดักเวิร์ธ มีกำหนดการเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในช่วงบ่ายของวันที่ 30 ส.ค.นี้ พร้อมทั้ง จะขึ้นกล่าวปาฐกถาหัวข้อ “ความสมดุลของชีวิตและการทำงาน” ในการสัมมนาวิชาการด้านสตรีและครอบครัว ที่โรงแรมปรินซ์ พาเลซ ซึ่งจัดโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก่อนจะพบหารือกับคณะกรรมาธิการต่างประเทศ และคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุและผู้พิการ ของสภาผู้แทนราษฎร

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 29 ส.ค. ช่วงเช้า นางดักเวิร์ธ จะบรรยายเรื่องนโยบายต่างประเทศสหรัฐฯในทัศนะของตนเอง ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นในเวลา 12.00 น. จะเข้าร่วมรับประทานอาหารกลางวันที่กระทรวงการต่างประเทศ โดยมีนายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นเจ้าภาพเลี้ยงเพื่อเป็นเกียรติ ก่อนจะเข้าเยี่ยมคารวะน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในช่วงบ่าย ที่ทำเนียบรัฐบาล

สำหรับวันที่ 1 ก.ย. นางดักเวิร์ธ จะไปทัศนศึกษาศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่จ.อยุธยา ต่อมา ในเช้าของวันที่ 2 ก.ย. จะเข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับการเรียนรู้ฟื้นฟูเด็กพิการ ที่ศูนย์เรียนรู้ฟื้นฟูเด็กพิการโดยครอบครัว บ้านบางแค จากนั้นจะไปเยี่ยมให้กำลังใจทหารผ่านศึก และรับฟังการบรรยายสรุป ที่ศูนย์ฝึกอาชีพองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก โรงพยาบาลทหารผ่านศึก ถนนวิภาวดีรังสิต ในเวลา 14.00 น. ต่อมา ในวันที่ 3 ก.ย. เวลา 15.00 น. นางดักเวิร์ธ จะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ที่โรงแรมดุสิตธานี ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเยือนไทย