ข่าว
สธ.ทำอะไรถึงปล่อย "ตูน บอดี้สแลม" ออกมาวิ่ง

จากกรณี "ตูน บอดี้สแลม" หรือนายอาทิวราห์ คงมาลัย นักร้องชื่อดัง จัดโครงการก้าวคนละก้าว โดยวิ่งจาก อ.เบตง จ.ยะลา จนถึง อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อรับบริจาคเงินสมทบช่วยโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) 11 แห่ง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนสื่อสังคมออนไลน์ว่า เจ้าหน้าที่ สธ.ทำอะไรอยู่ ถึงต้องให้ ตูน บอดี้สแลมออกมาวิ่ง (30 ต.ค.) นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ ว่า ขอตอบว่า สธ.ทำงานเต็มที่อยู่ ซึ่งไม่ว่าประเทศไหนในโลกก็จะมีคนดีแบบคุณตูนอยู่ที่ออกมาช่วยเหลือ รพ. เพราะฉะนั้นการบริจาค ให้ระบบสุขภาพของประเทศ จึงเป็นสิ่งที่คนดีพึงกระทำกัน ซึ่งคุณตูนเป็นตัวอย่างหนึ่ง ของการช่วยเหลือที่ไม่ได้ใช้เงิน แต่ใช้ศักยภาพที่ตัวเองมีในการดึงดูดให้คนไทย หันมาช่วยดูแลระบบสุขภาพและช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน ทั้งนี้ ไม่มีงบประมาณด้านสุขภาพ ประเทศไหนในโลกที่เพียงพอ เพราะมีโรคต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย แม้มีเทคโนโลยีในการรักษา ที่ดีขึ้น แต่ก็มีราคาแพงขึ้น บวกกับมีจำนวนผู้สูงอายุมากขึ้น มีการเจ็บป่วยตามวัยมากขึ้น จึงไม่มีงบประมาณในเรื่องนี้ของประเทศไหนเพียงพอ โดยอาศัยเพียงงบประมาณจากภาครัฐเพียงอย่างเดียว

ผู้พันเบิร์ดตอกฝรั่งวิจารณ์งบพระราชพิธี เหน็บทุกข์อะไรด้วย

“ผู้พันเบิร์ด” โพสต์ตอกฝรั่งวิจารณ์ไทยใช้งบพระราชพิธีฯ ระบุเป็นความสุขของคนไทยที่ได้แสดงออกซึ่งความจงรักภักดี ฝรั่งทุกข์อะไรด้วย

31 ต.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “ผู้พันเบิร์ด” พ.อ.วันชนะ สวัสดี โพสต์ข้อความใต้ภาพลง instagram ส่วนตัว @colonelbird โดยกล่าวถึงกรณีมีชาวต่างชาติออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการใช้งบประมาณในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่า เป็นการใช้เงินที่สิ้นเปลืองและควรเอาเงินไปให้คนที่ยากจน ซึ่ง “ผู้พันเบิร์ด” นายทหาร ซึ่งรับบทเป็นสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในภาพยนตร์เรื่อง “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” โพสต์ข้อความ ระบุว่า

“ผมกำลังพูดถึงอดีต ปัจจุบัน อนาคต หรือจะเป็นบรรพบุรุษ ตัวเราและลูกหลาน แต่ที่เห็นจะเหมาะที่สุดก็น่าจะเป็นผู้สร้าง ผู้รักษา ผู้สืบทอด อนาคตข้างหน้า นี่จะเป็นการจารึกร่องรอยทางประวัติศาสตร์เพื่อบอกลูกหลานของเราว่า เราคือประเทศที่มีวัฒนธรรมที่สวยงามอย่างไร ผมกำลังพูดถึงอนาคตของลูกหลานของเราครับ

ส่วนอดีตที่บรรพบุรุษของเราสร้างเอาไว้นั้น ก็ได้แสดงออกถึงความเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมที่วิจิตรบรรจงมาแต่เก่าก่อน การสร้างความเจริญนับแต่วันนี้ไปจนถึงอนาคตเราสร้างกันได้ แต่อดีตและวัฒนธรรมที่มีมาแต่ก่อนนั้น เราย้อนกลับไปสร้างไม่ได้อีกแล้ว

นี่ผมกำลังพูดถึงอดีตของประเทศของเรา และนี่คือวิถีของประเทศที่มีขนบประเพณี ที่เราต้องการที่จะเก็บรักษาไว้

ส่วนการมองในปัจจุบันนั้น การใช้เงิน 1000 ล้านบาทในครั้งนี้ผมมองว่ามันถูกสร้างขึ้นภายใน1ปีแต่นับจากนี้มันไม่ได้หายไปไหนเลย แต่มันกลับกลายเป็นว่า มันจะอยู่ไปชั่วลูกชั่วหลานต่างหากเพราะนี่คือการส่งมอบมรดกทางวัฒนธรรมของคนรุ่นเราไปสู่ลูกหลานของเรา

มันคือความสุขของคนไทยในปัจจุบัน

ความสุขมาก ที่ได้แสดงออกซึ่งความจงรักภักดี

สุขมากที่ได้แสดงพลังของความสามัคคี

สุขมากที่ได้เป็นผู้ให้

เราจึงไม่ว่าและไม่ตำหนิอะไรถึงคนที่วิจารณ์เรื่องงบประมาณในการสร้างเพราะนั่นมันก็อาจจะเป็นความสุขของผู้วิจารณ์ ก็ได้ ที่ผมมองว่าเป็นความสุขของผู้วิจารณ์นั้นเพราะผมไม่เห็นว่าเขาจะทุกข์อะไร

เพราะไม่ได้เอาเงินของเขามาสร้าง

แต่สิ่งที่เราทำในวันนี้มันก็คือความสุขของเราเช่นเดียวกัน ปัจจุบันคนไทยมีความสุขมากๆที่ได้ทำ วิถีของไทย วิถีของเรา #คนใจบอด”


'ประยุทธ์'ยิ้มออก ภาพรวมศก. 9 เดือน ส่งออกสูงเป็นประวัติการณ์

เมื่อวันที่ 29 ต.ค.60 พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พอใจสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่ดีขึ้น นับตั้งแต่ก่อนที่รัฐบาลจะเข้ามาบริหารประเทศเมื่อปี 2557 โดยยืนยันว่าขั้นตอนทุกอย่างจะเป็นไปตามโรดแม็พที่กำหนดไว้ และย้ำว่าไม่ใช่เพียงการประกาศให้มีการเลือกตั้งเท่านั้นที่ทำให้เศรษฐกิจขยายตัว เพราะความจริงประเทศไทยมีพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว นักลงทุนมีความเชื่อมั่น ขอเพียงทุกฝ่ายหันมาร่วมมือกัน

พลโทสรรเสริญ กล่าวว่า นอกจากนี้ ตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือน ก.ย.60 มีมูลค่าถึง 2.18 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.22 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออกข้าว ซึ่งเป็นผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญของเกษตรกร มียอดการส่งออกตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา 8.97 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.28 และคาดว่าสิ้นปีนี้อาจส่งออกข้าวได้สูงสุดใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้คือ 11 ล้านตัน


ตร.ค้านประกันตัว “ผู้กองเหน่ง” ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “ผอ.อ้อย”

(30 ต.ค.) พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ศรีสะเกษ พร้อมด้วย พนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีการหายตัวไปของ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน ผอ.กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้แจ้งข้อหา เพิ่มเติมต่อ ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือผู้กองเหน่ง นายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ผู้ต้องหาคดีนี้ ซึ่งพนักงาน สอบสวน ได้ทำการสอบปากคำ ผู้กองเหน่ง นานกว่า 4 ชั่วโมง โดยมีนายทหาร รัฐธรรมนูญมาร่วม รับทราบการแจ้งข้อหาและการสอบปากคำผู้กองเหน่งในครั้งนี้ด้วย พล.ต.ต.สุรเดช กล่าวว่า ในวันนี้ได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่ ร.อ.ศุภชัย ภาโส จำนวน 2 ข้อหา คือ ข้อหาฆ่าคนตาย โดยเจตนา และข้อหาซ่อนเร้นอำพรางศพ ส่วนข้อหากักขัง หน่วงเหนี่ยวทำให้ ผู้อื่นเสื่อมเสีย เสรีภาพ ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาไปก่อนแล้ว ซึ่งรวมขณะนี้ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา ร.อ.ศุภชัยไปแล้วจำนวน 10 ข้อหา ซึ่งพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว ร.อ.ศุภชัย เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีสำคัญและมีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ต้องหา จะหลบหนีและเข้า ไปยุ่งเหยิง พยานหลักฐาน โดยได้นำตัว ร.อ.ศุภชัยไปฝากขังผัดที่ 2 ที่ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ต่อไป ซึ่งคดีนี้ทางพนักงานสอบสวนกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานว่าจะสามารถสรุปสำนวนคดีส่งฟ้องต่ออัยการและศาลได้ในเร็วๆ นี้


'ศรีวราห์' ยัน 'บัวแก้ว' ยกเลิกพาสปอร์ต 'ปู' แล้ว 4 เล่ม

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ด้านความมั่นคง กล่าวถึงการติดตามตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาหลบหนีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ฐานปล่อยปละละเลย ไม่ระงับยับยั้ง เป็นเหตุให้เกิดการทุจริตในโครงการจำนำข้าว ว่า จนถึงขณะนี้ตำรวจยังคงติดตามเบาะแสของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากการสอบถามไปยังตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องรายงานความคืบหน้าทุก 7 วัน แต่ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหว โดยขณะนี้ยังไม่มีประเทศใดตอบกลับมาว่าพบเห็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ใด และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลการขอลี้ภัยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ด้วย

ส่วนการยกเลิกหนังสือเดินทาง หรือ พาสปอร์ต ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงการต่างประเทศได้ยกเลิกหนังสือเดินทางไปแล้ว 4 เล่ม ประกอบด้วย 1.หนังสือเดินทางทูต เลขที่CD1000101 , 2.หนังสือเดินทางทูต เลขที่CD1002731 , 3.หนังสือเดินทางบุคคลทั่วไป เลขที่ AA3085997 และ 4.หนังสือเดินทางบุคคลทั่วไป เลขที่AA4522382 เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา

สำหรับกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ยื่นอุทธรณ์ หรือขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ออกไป หลังครบกำหนด 30 วัน เมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น ประเด็นนี้เป็นเรื่องของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ สำหรับในส่วนของตำรวจได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องไปหมดแล้ว


จบมหากาพย์จำนำข้าว! 2ฝ่ายไม่อุทธรณ์ 'ยิ่งลักษณ์' หนีสุดชีวิต

เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 60 เวลา 10.20 น. นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยต้องโทษจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญาตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคดีจำนำข้าว ที่ให้ปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ เอื้อให้การทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจีกระทั่งรัฐได้รับความเสียหายเปิดเผยถึงการอุทธรณ์ ว่า หลังจากมีการอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 27 ก.ย. 60 ที่ผ่านมาแล้ว จนถึงตอนนี้เมื่อทนายความไม่ได้รับการติดต่อจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงไม่ได้ยื่นขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ รวมทั้งไม่ได้ยื่นคำอุทธรณ์คดีจำนำข้าวต่อศาลฎีกาแต่อย่างใด ซึ่งคดีดังกล่าวโดยครบกำหนดระยะเวลาการยื่นอุทธรณ์ 30 วันเมื่อวันศุกร์ที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมาแล้ว

ทั้งนี้นายนรวิชญ์ ยังระบุได้ว่านับตั้งแต่วันที่ศาลฎีกาฯ เลื่อนอ่านคำพิพากษาคดีจำนำข้าวครั้งแรกตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 ส.ค.เขาก็ไม่ได้รับการติดต่อจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์อีกเลย

ขณะที่นายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล ผู้ตรวจการอัยการ ซึ่งเป็นรองหัวหน้าคณะทำงานอัยการรับผิดชอบคดีจำนำข้าวและระบายข้าว ได้กล่าวว่า คดีจำนำข้าวที่อัยการสูงสุดได้ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นจำเลยนั้น ขณะนี้ถือว่าคดีเป็นที่สุดตามคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ แล้ว เพราะไม่ได้มีการยื่นอุทธรณ์คดี โดยในส่วนของโจทก์เอง นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด ก็ได้มีความเห็นเมื่อวันศุกร์ที่ 27 ต.ค. ที่ผ่านมาแล้วเห็นว่าศาลฎีกาฯ ได้พิพากษาจำคุก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตามบทลงโทษที่ได้ยื่นฟ้องคดีแล้วจึงไม่ได้ยื่นอุทธรณ์อีกต่อไป และเมื่อคดีถึงที่สุด ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ แล้วจากนี้ก็จะเป็นเรื่องการบังคับคดีตามคำพิพากษา ก็จะต้องดำเนินกระบวนการติดตามตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ มารับโทษต่อไปซึ่งจะไม่มีการนับอายุความแล้ว หากหลบหนีก็ต้องหลบหนีไปตลอด


ขับรถบรรทุกพุ่งชนคน ดับแล้ว 8 เจ็บ 15 ในนิวยอร์ก

เมื่อช่วงเวลาประมาณ 03.00 น.ที่ผ่านมา ตามเวลาในไทย ได้มีชายอายุ 29 ปี คนหนึ่ง ขับรถบรรทุกสวนเข้าไปในเลนรถจักรยานเลียบแม่น้ำฮัดสัน ไล่ชนนักปั่นจักรยานและผู้คนที่กำลังเดินอยู่ ทำให้มีเสียชีวิตที่คาที่ 6 ศพและไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 2 ศพ นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 15 คน หลังเกิดเหตุเพียงไม่กี่นาที ตำรวจได้ตรงเข้ายิงสกัดคนร้าย ที่ลงจากรถบรรทุกมาพร้อมกับอาวุธปืนปลอม ทำให้ชายคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บก่อนที่จะถูกตำรวจจับกุมตัวไป

รายงานข่าวระบุว่า คนร้ายเป็นชายอายุ 29 ปี เช่ารถบรรทุกมาก่อเหตุ ซึ่งจุดเกิดเหตุ คือ บริเวณย่านแมนฮัตตั้นตอนใต้ ใกล้ๆกับอาคารเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ ซึ่งขณะนี้ตำรวจยังคงสั่งปิดพื้นที่เพื่อตรวจสอบจุดเกิดเหตุ

ด้านนายบิล เดอ บลาสซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก กล่าวว่า เป็นการกระทำที่โง่เขลาแบบก่อการร้ายที่ต้องการพุ่งเป้าโจมตีพลเรือนผู้บริสุทธิ์ และทำลายขวัญกำลังใจชาวเมืองนิวยอร์ก

กระปุกแรกของโครงการ 'ตูน บอดี้สแลม'เผยเรื่องราวสุดประทับใจจากเด็กชายตัวน้อย

31 ต.ค. 60 จากกรณี นายอาทิวราห์ คงมาลัย ตูน บอดี้สแลม นักร้องหนุ่ม ที่เตรียมออกมาวิ่งอีกครั้งจากใต้สุดสูดเหนือสุดเป็นระยะทางกว่า 2,191 กิโลเมตร เป้าหมาย 700 ล้านบาท เพื่อระดมทุนช่วยเหลือ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. - 25 ธ.ค. 60 ภายใต้โครงการ "ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ"

ล่าสุด อาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลมได้โพสต์เรื่องราวดีๆผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว@artiwara ก่อนจะออกวิ่งวันแรก ถึงน้องภูเก็ต ที่มอบเงินออมที่สะสมด้วยตนเอง เพื่อช่วยระดมทุน โดยระบุว่า

artiwara30/10/2017..."น้องภูเก็ต"...ใจดียกให้ทั้งกระปุกไปช่วยคุณหมอคุณพยาบาลและคนเจ็บป่วย :)#กระปุกแรกของโครงการปีนี้ #คุณแม่น้องบอกธรรมดาน้องเป็นคนขี้เหนียวมาก555 #ก้าว #ก้าวคนละก้าวเพื่อ11โรงพยาบาลทั่วประเทศ #ก้าวนี้เพื่อเป็นกำลังใจแด่คุณหมอคุณพยาบาลและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทุกคน