ข่าว
'อียู'คว่ำบาตร'โสมแดง'เพิ่ม จำกัดน้ำมัน-ห้ามชาว'เกาหลีเหนือ'เข้ามาทำงาน'

11 ต.ค.60 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน สหภาพยุโรป หรือ อียู ได้คว่ำบาตรเกาหลีเหนือเพิ่ม ซึ่งเป็นไปตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพื่อแรงกดดันเกาหลีเหนือเพิ่มจากโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และทดสอบขีปนาวุธ

โดยมาตรการคว่ำบาตรครั้งนี้ ได้มีการสั่งห้ามจำหน่ายก๊าซธรรมชาติเหลว จำกัดการจำหน่ายน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมกลั่นให้แก่เกาหลีเหนือ รวมไปถึงห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์สิ่งทอจากเกาหลีเหนือส่ง และสั่งห้ามประเทศสมาชิกมอบใบอนุญาตให้พลเมืองเกาหลีเหนือเข้ามาทำงานอีกด้วย

ก่อนหน้านี้ อียู เพิ่งขึ้นบัญชีดำบริษัทและกลุ่มบุคคลเกาหลีเหนือ ตามมาตรการคว่ำบาตรอีกชุด

ขาประจำไม่เชื่อลมปากบิ๊กตู่เลือกตั้งพ.ย.ปี 61

11 ต.ค.60 นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น (คปต.) กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ประกาศจะมีการเลือกตั้งใหญ่ในเดือนพฤศจิกายน 2561 ว่า ตนไม่ได้ให้ความเชื่อถือเนื่องจากขณะนี้ไม่มีหลักประกันใดๆ ที่แน่ชัดว่ารัฐบาลและ คสช. จะดำเนินการตามที่ประกาศ เนื่องจากเมื่อถึงเวลาที่กำหนดก็จะมีข้ออ้างจากเหตุผลเรื่องความสงบเรียบร้อยจากแนวทางการปฏิรูปหลายด้าน รวมทั้งการสร้างความปรองดองของคนในชาติที่ขัดแย้งยาวนานหลายปี ซึ่งตนไม่เชื่อว่าจะมีจริง

นอกจากนั้นแกนนำรัฐบาลบางคนประกาศจะอยู่ยาวตามแนวทางการปฏิรูป 20 ปี ทั้งที่หลังจากมีการยึดอำนาจในปี 2557 ก็บอกว่าจะอยู่ไม่นาน จะมีการเลือกตั้งในปี 2558 แต่สุดท้ายไม่มีการเลือกตั้งโดยไม่ได้แสดงความรับผิดชอบ


ผบ.ทบ.ปัดรถถังจีนค้างสต็อก ยันพร้อมให้สื่อพิสูจน์ใช้งานได้จริง

ผบ.ทบ."เผย จีนส่งรถถังให้ไทยก่อนกำหนด6เดือน เหตุแข่งขันทางธุรกิจ ยันไม่ใช่ของค้างสต็อก การันตีใช้ได้- สมบูรณ์ ยินดีให้สื่อเข้าชมหลังส่งมอบ ระบุส่งให้ 2 กองพันในอีสาน ลดอัตราบรรจุให้เหมาะสม แต่ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

11 ต.ค.60 ที่ พล.ม.2 รอ. พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีที่จีนได้ส่งรถถัง VT-4 มายังประเทศไทย เมื่อวันที่ 8 ต.ค.60 ที่ผ่านมาว่า เป็นไปตามแผนโครงการจัดหารถถังเข้าประจำการเพื่อทดแทน รถถัง เอ็ม-41 ที่กำลังปลดประจำการ ซึ่งได้มีการลงนามในการจัดซื้อเมื่อเดือน มี.ค.2559 ซึ่งตามกำหนดการนั้น จะมีการส่งมอบในเดือน มี.ค. 2561 เพียงแต่ทางจีนโดยผู้ผลิตสามารถดำเนินการได้ก่อน จึงส่งมอบให้กับกองทัพบกไทยก่อน ขณะนี้ได้มีการส่งไปถึงศูนย์การทหารม้า(ศม.) แล้ว 28 คัน อยู่ในระหว่างการติดตั้งวิทยุสื่อสาร เพราะในช่วงของการเดินทางไม่ได้ติดตั้งมา จากนั้นจะเป็นเรื่องขั้นตอนการตรวจรับ และเข้าสู่การซักซ้อมการปฏิบัติ และก็จะส่งมอบให้กับหน่วย คือ กองพันทหารม้าที่6 (ม.พัน.6) และ กองพันทหารม้าที่ 21 (ม.พัน.21) ในเร็วๆนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อผ่านการตรวจรับตามขั้นตอนกฎหมายแล้ว ก็พร้อมให้สื่อมวลชนเข้าไปดูได้ ทั้งนี้ตนยินดี และเต็มใจให้ไปชม

"ถือว่าจีนส่งให้เราเร็วกว่ากำหนด 6 เดือน เป็นเรื่องแข่งขันทางธุรกิจ แต่เราก็ได้ประโยชน์ครบถ้วนสมบูรณ์ ถือเป็นเรื่องที่ดี เมื่อได้รถมาเร็ว จะได้มีการเตรียมการที่เร็ว" พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว

เมื่อถามว่า มีการวิจารณ์เรื่องที่จีนอาจนำของในสต็อกคุณภาพไม่ดีมาส่งมอบ พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า คงไม่ใช่ ซึ่งในปี 2559 ตนมีโอกาสได้เดินทางไปดูโรงงาน และกระบวนการผลิตของเขา ก็ยืนยันว่าใช้ได้ และสมบูรณ์

พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวอีกว่า ตามแผนพัฒนากองทัพมีความต้องการจัดหารถถังจำนวน 2 กองพัน แบ่งเป็นกองพันละ 44 คันตามการบรรจุอัตราเต็ม ล็อตแรกได้ดำเนินการไปแล้ว 21 คัน และ ในงบประมาณปี 2560 จัดหา 10 คัน งบประมาณปี2561 จัดหาเพิ่มอีก 10 คัน ตามกรอบงบประมาณที่มีอยู่ ทำให้แจกจ่ายให้ 2 กองพันดังกล่าวได้ กองพันละ 20 กว่าคัน ทั้งนี้ตนได้ปรับอัตราลดลงให้เหมาะสม สามารถปฏิบัติภารกิจได้ โดยอยู่ในเกณฑ์อัตรากองพันละ 30 คัน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ถึงตามเกณฑ์ แต่ขอให้เป็นไปตามกรอบนี้ก่อน


เอมเหนื่อยใจแทนพ่อแม้ว ยืนยันจงรักภักดีต่อสถาบัน

10 ต.ค.60 จากกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ถึงบุคคลที่แอบอ้างชื่อไปเกี่ยวข้องกับการจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง และเตรียมที่จะให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการเอาผิดนั้น

ล่าสุด "เอม" พินทองทา คุณากรวงศ์ (ชินวัตร) ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว "aimpintongta" ให้กำลังใจนายทักษิณ ว่า "เห็นใจและเหนื่อยใจแทน กับทุกๆ ครั้งที่พ่อโดนใส่ร้ายเรื่องนี้ ตลอดเวลาในชีวิตรับราชการ, ออกมาทำธุรกิจ, เป็นนักการเมือง หรือแม้กระทั่งหลายๆ ปี ที่พ่อจากประเทศไทยไป ลูกๆ ทุกคนรู้ว่าพ่อมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างไม่มีวันเสื่อมคลาย อดทนไว้นะคะพ่อ ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ขอให้พ่อเข้มแข็ง และขอให้กำลังใจพ่อค่ะ"


สหรัฐยั่วยุทั้งเกาหลีเหนือ-จีน

โซล/ปักกิ่ง (เอเอฟพี/รอยเตอร์) - กองทัพสหรัฐส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ 2 ลำ ไปบินผ่านเหนือน่านฟ้าในคาบสมุทรเกาหลี เพื่อแสดงแสนยานุภาพ แถมด้วยการส่งเรือรบล่องเข้าใกล้หมู่เกาะที่ประเทศจีนอ้างกรรมสิทธิ์ในทะเลจีนใต้

สำนักงานคณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้กล่าวในแถลงการณ์ว่า เครื่องบินทิ้งระเบิดแบบบี-วันบี ของสหรัฐ 2 ลำ จากฐานทัพสหรัฐที่เกาะกวม พร้อมด้วยเครื่องบินขับไล่แบบ เอฟ-15เค 2 ลำ ของกองทัพเกาหลีใต้ได้ปฏิบัติการบินร่วมกันเมื่อคืนวันอังคาร โดยหลังจากเข้าสู่น่านฟ้าเกาหลีใต้แล้ว เครื่องบินทิ้งระเบิดของสหรัฐทั้ง 2 ลำ ได้ซ้อมยิงขีปนาวุธจากอากาศสู่พื้นในบริเวณน่านน้ำนอกชายฝั่งตะวันออกของเกาหลีใต้ จากนั้นก็บินไปซ้อมยิงขีปนาวุธอีกครั้งบริเวณน่านน้ำระหว่างเกาหลีใต้กับจีน ในขณะที่กองทัพสหรัฐได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า เครื่องบินขับไล่ของเกาหลีใต้ได้ร่วมปฏิบัติการฝึกซ้อมในครั้งนี้ด้วย ซึ่งนับเป็นการซ้อมรบร่วมในเวลากลางคืนเป็นครั้งแรกระหว่างเครื่องบินทิ้งระเบิดของสหรัฐกับเครื่องบินขับไล่จากเกาหลีใต้และญี่ปุ่น

ทางด้านทำเนียบขาวของสหรัฐกล่าวว่า ประธานาธิบดีทรัมป์เป็นประธานในการประชุมเพื่อหารือแนวทางการรับมือกับเกาหลีเหนือ ซึ่งเขารับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์จากนายเจมส์ แมททิส รัฐมนตรีกลาโหม และพลเอกโจเซฟ ดันฟอร์ดประธานคณะเสนาธิการทหารร่วม โดยมีคณะทำงานด้านความมั่นคงแห่งชาติของนายทรัมป์เข้าร่วมประชุมด้วย

ขณะเดียวกัน สหรัฐได้ส่งเรือพิฆาตล่องเข้าใกล้หมู่เกาะพาราเซลที่จีนอ้างกรรมสิทธิ์ในทะเลจีนใต้เมื่อวันอังคาร แม้ว่าคณะรัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังพยายามขอความร่วมมือจากจีนในการควบคุมโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ โดยปฏิบัติการเดินเรือครั้งนี้เป็นความพยายามครั้งล่าสุดในการตอบโต้สิ่งที่สหรัฐเรียกว่าเป็นการจำกัดเสรีภาพการลาดตระเวนในน่านน้ำยุทธศาสตร์ของจีนแต่การเดินเรือครั้งนี้ไม่มีพฤติกรรมยั่วยุดังเช่นเรือที่สหรัฐส่งไปทะเลจีนใต้ลำก่อนๆนับตั้งแต่ประธานาธิบดีทรัมป์ ก้าวขึ้นสู่อำนาจในเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สหรัฐได้ส่งเรือพิฆาตเข้าใกล้เกาะเทียมของจีนในทะเลจีนใต้ ในระยะ 12 ไมล์ทะเล แต่เรือพิฆาตลำล่าสุดนี้เข้าใกล้หมู่เกาะพาราเซลแต่ไม่ได้อยู่ในระยะเขตแดนของหมู่เกาะดังกล่าว


ไฟป่าแคลิฟอร์เนียเผาวอด ยอดตายเพิ่มเป็น 13 ราย

มีผู้เสียชีวิตแล้ว 13 คน และอพยพประชาชนกว่า 20,000 คน หลังเกิดไฟป่ารุนแรงหลายสิบจุดในแคลิฟอร์เนียทั้งเหนือและใต้ เผาผลาญพื้นที่ผลิตไวน์สำคัญและบ้านเรือนนับพันหลังคาเรือน

11 ต.ค.60 นายเจอร์รี บราวน์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ ประกาศภาวะฉุกเฉิน ในพื้นที่ 8 เทศมณฑล หรือเคาน์ตีทางเหนือของรัฐ รวมทั้งภูมิภาคผลิตไวน์ อย่างนาปาและโซโนมา เพื่อรับมือเหตุไฟป่าโหมลุกไหม้ในกว่า 17 จุดทั่วรัฐ จนต้องอพยพผู้คนราว 20,000 คน บ้านเรือนหรืออาคารถูกไฟเผาวอดกว่า 2,000 หลัง และยังคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 13 คน และทำให้คนไร้บ้านอีกหลายพันคน ท่ามกลางการปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันของพนักงานดับเพลิงที่ถูกส่งเข้าสกัดไฟป่าตามจุดต่างๆ ที่กินพื้นที่มากกว่า 115,000 เอเคอร์

ด้านสำนักงานนายอำเภอเขตโซโนมา เคาน์ตี้ แถลงผ่านเฟซบุ๊กว่า ได้รับรายงานคนสูญหาย 150 คน แต่มั่นใจหลายคนในนี้จะถูกตามตัวพบปลอดภัยและกลับคืนสู่ญาติมิตรได้

ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ อนุมัติการประกาศภัยพิบัติในรัฐแคลิฟอร์เนียด้วยเช่นกันเพื่อส่งความช่วยเหลือจากส่วนกลางเข้าพื้นที่ให้ทันสถานการณ์ เนื่องจากไม่เพียงแต่พื้นที่ทางเหนือเท่านั้น เขตทางใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนียรวมทั้งเขตออเรนจ์ เคาน์ตี เผชิญเหตุไฟป่าคุกคามจนต้องอพยพผู้คนนับพันด้วยเช่นกัน

สำหรับเหตุไฟป่าครั้งล่าสุดในรัฐแคลิฟอร์เนียในครั้งนี้ ลุกลามขยายวงไหม้รุนแรง เพราะได้รับอิทธิพลจากสภาพอากาศแห้งและลมพัดแรง และเกิดขึ้นหลังนายบราวน์ประกาศสิ้นสุดภาวะแล้งจัดอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา หลังแคลิฟอร์เนียเผชิญภัยแล้งต่อเนื่องมากว่า 5 ปี

ร้าวฉาน'ตุรกี'บอยคอต'ทูตสหรัฐ'

11 ต.ค.60 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ประเทศตุรกีได้ประกาศบอยคอตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศร้าวฉานมากยิ่งขึ้น

โดยประธานาธิบดี เรเจป ไตยิป เอร์โดอาน ผู้นำตุรกี กล่าวเมื่อวานนี้ (10 ต.ค.) ว่า "รัฐบาลอังการาขอปฏิเสธสถานะผู้แทนรัฐบาลสหรัฐฯ ของเอกอัครราชทูต จอห์น แบสส์ เขาไม่ใช่ผู้แทนสหรัฐอเมริกาในตุรกีอีกต่อไป และจะไม่ยินยอมให้เอกอัครราชทูตผู้นี้เข้าพบคณะรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา รวมถึงตัวผม เพื่อกล่าวคำอำลาก่อนที่เขาจะพ้นตำแหน่ง"

สำหรับนายจอห์น แบสส์ จะเสร็จสิ้นการทำหน้าที่เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำตุรกี ในเร็วๆนี้ และเข้ารับตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำอัฟกานิสถานคนใหม่ ซึ่งท่าทีของรัฐบาลอังการาในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่กรุงตุรกีประกาศไม่ยอมรับสถานะของทูตอเมริกัน

ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศสั่นคลอนมากขึ้น หลังจากตุรกีได้สั่งควบคุมตัวเจ้าหน้าที่ชาวตุรกีประจำสถานกงสุลสหรัฐ เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่แล้ว ฐานพัวพันกับกลุ่มของนายเฟตฮุลเลาะห์ กูเลน นักสอนศาสนาชาวตุรกีที่ลี้ภัยอยู่ในสหรัฐ และถูกรัฐบาลตุรกีโทษว่าบงการการก่อกบฏเมื่อเดือนกรกฎาคมปีก่อน ซึ่งต่อมาสหรัฐฯ ได้ตอบโต้ด้วยการระงับการออกวีซ่าชั่วคราว (non-immigrant visa) ให้แก่พลเมืองตุรกี ก่อนที่ตุรกีจะออกมาตอบโต้กลับด้วยการระงับออกวีซ่าทุกประเภทให้แก่พลเมืองอเมริกัน