ข่าว
‘ฮุน เซน’ เตรียมลาออก จากตำแหน่งนายกฯ กัมพูชา

พนมเปญ (เอเอฟพี/บีบีซี นิวส์) : นายกรัฐมนตรี ฮุน เซน เตรียมประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้นำประเทศ หลังครองอำนาจมาอย่างยาวนาน เพื่อเตรียมส่งมอบตำแหน่งต่อให้บุตรชายคนโต หลังพรรครัฐบาลของเขาชนะการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันอาทิตย์แบบถล่มทลาย

ฮุน เซน วัย 70 ปี แถลงผ่านรายการพิเศษทางสถานีโทรทัศน์ที่มีการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศวานนี้ (26 ก.ค.) ว่า เขาขอให้ประชาชนกัมพูชาเข้าใจถึงความตั้งใจของเขาที่จะลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะการอยู่ในตำแหน่งต่อไปหลังผ่านพ้นการเลือกตั้งไปแล้วอาจส่งผลให้รัฐบาลใหม่ขาดเสถียรภาพ แต่เขาจะยังคงทำหน้าที่ผู้นำพรรคประชาชนกัมพูชา หรือซีพีพี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลต่อไป หลังจากพรรคซีพีพีของเขา คว้าชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันอาทิตย์ ได้เสียงสนับสนุนร้อยละ 84.6 ได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร 120 ที่นั่งจากทั้งหมด 125 ที่นั่ง นอกจากนี้ เขาจะยังดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา และทำหน้าที่ประมุขของประเทศ ในกรณีที่กษัตริย์ของกัมพูชาเสด็จพระราชดำเนินไปต่างประเทศ

ฮุน เซน บอกด้วยว่า ฮุน มาเนต บุตรชายคนโตวัย 45 ปีซึ่งเป็นนายพล 4 ดาวแห่งกองทัพบก ได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสมัยแรกด้วย และเตรียมเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกัมพูชาคนใหม่ต่อจากตัวเขา ในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ ซึ่งเขาขอให้ประชาชนชาวกัมพูชาสนับสนุน ฮุน มาเนต ในฐานะนายกรัฐมนตรีและผู้นำประเทศคนใหม่ด้วย โดยก่อนหน้านี้ ในช่วงเช้าของวันพุธ ฮุน เซน ได้เดินทางไปเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี ที่พระราชวังในกรุงพนมเปญ เพื่อแจ้งข่าวการเตรียมลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว

ฮุน เซน ดำรงตำแหน่งผู้นำกัมพูชามายาวนานตั้งแต่ปี 1985 และครองอำนาจบริหารประเทศแบบเบ็ดเสร็จ ด้วยการปราบปรามกลุ่มการเมืองฝ่ายค้านและบรรดาผู้เห็นต่างอย่างหนัก เห็นได้จากการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ ที่ทางการใช้ช่องทางกฎหมายสกัดกั้นพรรคแสงเทียน พรรคฝ่ายค้านที่เป็นคู่แข่งสำคัญ ไม่ให้ส่งผู้แทนลงชิงชัยในการเลือกตั้ง อ้างว่าส่งเอกสารการเลือกตั้งล่าช้า ส่งผลพรรคซีพีพีแทบไม่มีคู่แข่งในการเลือกตั้งจนคว้าชัยชนะอย่างไม่ยากเย็น

แม้รัฐบาลกัมพูชาจะอ้างว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ประสบความสำเร็จ และเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม แต่ชาติตะวันตก รวมถึงสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป วิจารณ์การเลือกตั้งของกัมพูชาครั้งนี้ว่าไม่โปร่งใสและไม่ยุติธรรม ขณะที่นักวิเคราะห์บางคนมองว่า การที่ ฮุน เซน ประกาศให้บุตรชายคนโตดำรงตำแหน่งต่อในฐานะนายกรัฐมนตรี เป็นเหมือนการส่งต่ออำนาจบริหารประเทศให้กับคนในครอบครัว ไม่ต่างจากระบอบในเกาหลีเหนือ

ตะลึง แฉโครงการลับ รบ.สหรัฐฯ แอบกู้ซาก UFO พบ 'สิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์'

อดีต จนท.ข่าวกรองกองทัพอากาศสหรัฐฯ เปิดโปง โครงการลับ รบ.สหรัฐฯ แอบกู้ซาก UFO ที่ตก และพบ 'สิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์' เผย รบ.สหรัฐฯ ตระหนักถึงความเคลื่อนไหวของเอเลี่ยนมาตั้งแต่ทศวรรษ 1930

สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังถูกจับตาจากชาวโลกมากขึ้นเรื่อยๆ ว่ามีการปกปิดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวัตถุบินที่ไม่สามารถระบุอัตลักษณ์ได้ ( UFO) และมนุษย์ต่างดาวหรือไม่ เมื่อคณะอนุกรรมาธิการกำกับดูแลด้านกิจการความมั่นคงแห่งชาติและการต่างประเทศของสหรัฐฯ ประจำสภาคองเกรส ได้เปิดรับฟังคำให้การกรณีปรากฏการณ์ทางอากาศที่ไม่สามารถอธิบายได้ (UAP) :ผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ, ความปลอดภัยสาธารณะและความโปร่งใสของรัฐบาล ซึ่ง UAP เป็นคำที่รัฐบาลสหรัฐฯ ใช้เรียกแทน UFO เมื่อวันพุธที่ 26 ก.ค. 2566

อดีตเจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐฯ 3 คน ซึ่งยกมือสาบานตนจะพูดความจริง ได้ให้การต่อคณะอนุกรรมาธิการฯ สภาคองเกรสว่า พวกเขาเชื่อว่า รัฐบาลสหรัฐฯ รู้เกี่ยวกับ UFO มากกว่าที่บอกต่อสาธารณชน

เดวิด กรัสช์ อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองประจำกองทัพอากาศสหรัฐฯ หนึ่งในอดีตเจ้าหน้าที่ที่ให้การต่อคณะอนุกรรมาธิการฯ สภาคองเกรส ในครั้งนี้อ้างว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ทำโครงการลับมาหลายทศวรรษ ในการเก็บรวบรวม และพยายามที่จะทำวิศวกรรมย้อนกลับ เก็บกู้ซากจานบิน UFO ที่ตก

นอกจากนั้น กรัสช์ ซึ่งเป็นผู้นำการวิเคราะห์ปรากฏการณ์ UAP ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ มาจนถึงปี 2566 ยังอ้างว่า มีการพบ 'สิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์' ในบริเวณที่พบ UFO ตก อย่างไรก็ตาม กรัสช์ใช้คำว่า 'สิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์' มากกว่าจะใช้คำว่าเอเลี่ยน หรือมนุษย์ต่างดาว

กรัสช์ อดีตนายทหารยศพลอากาศตรีก่อนจะลาออกจากกองทัพอากาศสหรัฐฯ ให้การว่า เขามั่นใจมาก ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ได้ครอบครองยานพาหนะที่ไม่ใช่ของมนุษย์ และกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ พยายามวิเคราะห์รายงานเกี่ยวกับการเห็น UAP และได้รับแจ้งเกี่ยวกับโครงการที่มีจุดมุ่งหมายในการเก็บรวบรวมและสร้างยานอวกาศที่พังเสียหายขึ้นมาใหม่ และโดยส่วนตัว เขาไม่เคยเห็น UAP

เมื่อคณะอนุกรรมาธิการฯ สภาคองเกรสถามกรัสช์ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ รู้ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตนอกโลกหรือไม่ กรัสช์ตอบว่า ดูเหมือนรัฐบาลสหรัฐฯ ตระหนักถึงความเคลื่อนไหวของ 'สิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์' มาตั้งแต่ทศวรรษ 1930 แล้ว

ทั้งนี้ กรัสช์ เป็นหนึ่งในคนที่กล้าให้เบาะแสร้องเรียนเกี่ยวกับการปกปิดโครงการลับ UFO ของรัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2565 โดยกรัสช์ เผยถึงสาเหตุที่ออกมาเปิดโปงเรื่องนี้ว่า ในฐานะที่เขามีหน้าที่ในการสอบสวนในสิ่งที่กองทัพ กระทรวงกลาโหมและหน่วยงานอื่นๆ ของสหรัฐฯ รู้เกี่ยวกับเอเลี่ยน และยานของเอเลี่ยน แต่เขากลับถูกขัดขวางไม่ให้เข้าถึงโครงการลับของรัฐบาล

สำหรับการเปิดไต่สวนของคณะอนุกรรมาธิการฯ สภาคองเกรสในครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากข้อร้องเรียน ของกรัสช์ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ได้แอบเก็บยานอวกาศของเอเลี่ยนอย่างลับๆ

กรัสช์ ยังกล่าวถึงสาเหตุที่เขากล้าออกมาเป็นผู้ให้เบาะแสเกี่ยวกับการปกปิดข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯ เกี่ยวกับ UFO ว่า เกิดขึ้นหลังการพบของเขา และเขาต้องเผชิญกับการตอบโต้อย่างรุนแรง ทว่ากรัสช์ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับแทคติกที่ถูกใช้ตอบโต้เขา โดยกรัสช์ กล่าวเพียงว่า 'มันโหดเหี้ยมมาก และโชคร้ายมาก

แทคติกบางอย่างที่พวกเขาใช้ทำร้ายผม ทั้งต่ออาชีพการงานและโดยส่วนตัว'

ระหว่างการถูกซักถามของคณะกรรมาธิการฯ สภาคองเกรส เมื่อวันพุธที่ผ่านมา กรัสช์ยืนยันว่า เขารู้เรื่องเกี่ยวกับผู้คนที่ได้รับอันตรายหรือบาดเจ็บ จากความพยายามของรัฐบาลที่ต้องการให้ปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับ UFO และเมื่อกรัสช์ถูกถามว่าเขากลัวอันตรายที่จะเกิดกับชีวิตตัวเองหรือไม่ ซึ่งกรัสช์ตอบว่า เขากลัวอย่างแน่นอน แต่เขาก็หวังว่าการออกมาเปิดเผยในเรื่องนี้จะนำไปสู่ผลลัพธ์ในแง่บวกที่จะมีความโปร่งใสในเรื่อง UFO เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ด้านกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธคำอ้างของกรัสช์ที่อ้างว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ปกปิด

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ UFO

ที่มา : TheGuardian, AP


สหรัฐฯ ประกาศมาตรการรับมืออากาศร้อนจัด หลังเจอคลื่นความร้อนแผ่ปกคลุม อุณหภูมิพุ่งสูง

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ประกาศมาตรการใหม่ ปกป้องคนงานที่ทำงานกลางแจ้ง และเกษตรกร จากคลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุม ทำอุณหภูมิพุ่งสูงหลายพื้นที่ของประเทศ

สำนักข่าว BBC รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2566 ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ประกาศมาตรการรับมือคลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุมทั่วสหรัฐฯ เพื่อช่วยปกป้องคนงานที่ทำงานกลางแจ้งและ ปรับปรุงการพยากรณ์อากาศ และทำให้น้ำดื่มสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น หลังจากอุณหภูมิพุ่งสูงทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ใน เดือนนี้ และคาดว่าสภาพอากาศจะร้อนมากขึ้นในแถบมิดเวสต์ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า ได้สั่งการให้กระทรวงแรงงานเพิ่มการตรวจสอบสถานที่ทำงานที่อาจเป็นอันตราย เช่น ฟาร์มและสถานที่ก่อสร้างกลางแจ้ง นอกจากนี้เขายังต้องการให้มีการบังคับใช้การละเมิดความปลอดภัยด้านความร้อนมากขึ้น

นายไบเดนกล่าวว่า เขาไม่คาดคิดว่าจะมีใครปฏิเสธผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อีกแล้ว แม้แต่ผู้ที่ปฏิเสธว่าเราอยู่ท่ามกลางวิกฤติสภาพอากาศก็ไม่อาจปฏิเสธผลกระทบที่ความร้อนจัดมีต่อชาวอเมริกัน หลังจากสถิติระบุว่าคลื่นความร้อน คร่าชีวิตคนงานในสหรัฐฯ ไป 436 ศพตั้งแต่ปี 2554


ไต้ฝุ่น “ทกซูรี” ถล่มมณฑลฝูเจี้ยน จีนเตือนภัยระดับสูงสุด

เมื่อวันที่ 28 ก.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติจีน (ซีเอ็มเอ) รายงานว่า ว่า มณฑลฝูเจี้ยนเผชิญกับน้ำท่วมฉับพลันและความเสียหายในหลายเขต

จากอิทธิพลรุนแรงของไต้ฝุ่น “ทกซูรี”... ไต้ฝุ่นทกซูรี ขึ้นฝั่งที่มณฑลฝูเจี้ยน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ เมื่อช่วงเช้าของวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น ด้วยความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง 175 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทั้งนี้ ซีเอ็มเอยังคงระดับการเตือนภัยสภาพอากาศ “สีแดง” ซึ่งเป็นขั้นสูงสุดจากทั้งหมด 4 ระดับ ครอบคลุมมณฑลฝูเจี้ยน ให้มีผลตลอดทั้งวันศุกร์ที่ 28 ก.ค. นี้ ด้านสำนักข่าวซินหัวรายงานเพิ่มเติมว่า หน่วยงานท้องถิ่นร่วมกันอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงของมณฑลฝูเจี้ยนมากกว่า 416,000 คน ไปยังสถานที่ปลอดภัย ก่อนการขึ้นฝั่งของพายุ

แม้พายุมีแนวโน้มอ่อนกำลังลงอีก เมื่อเคลื่อนผ่านภูมิภาคทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขา อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างการประกาศจากซีเอ็มเอ ว่าสภาพอากาศรุนแรงจะยังคงปกคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของมณฑลฝูเจี้ยน มณฑลเจ้อเจียง และมณฑลกวางตุ้ง ตลอดจนไต้หวัน

อนึ่ง ไต้ฝุ่นทกซูรีซึ่งก่อตัวกลางมหาสมุทรแปซิฟิกในสัปดาห์นี้ และมีความเร็วลมช่วงหนึ่งในระดับซูเปอร์ไต้ฝุ่น ขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์เป็นประเทศแรก คร่าชีวิตประชาชนอย่างน้อย 13 ราย แต่ยังมีผู้สูญหายอีกอย่างน้อย 21 คน

เครดิตภาพ : AFP...


กงสุลใหญ่ นครลอสแองเจลิส ต่อ ศรลัมพ์ ประธานพิธี ถวายพระพร พร้อมคณะ สมาคมไทยแคลิฟอร์เนียภาคใต้

กงสุลใหญ่ นครลอสแองเจลิส ต่อ ศรลัมพ์ ประธานพิธี ถวายพระพร พร้อมคณะ สมาคมไทยแคลิฟอร์เนียภาคใต้ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2023 เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ณ วัดไทย ลอสแองเจลิส ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน

ปลอมแอปยืนยันตัวตน..ดูดเงินเกลี้ยงบัญชี

สน.รอตรวจ โดย บิ๊กสลีป ว่าด้วยเรื่อง แอปยืนยันตัวตนของคนไทยอย่าง ThaID กำลังถูกพวกมิจฉาชีพนำมาหลอกลวงดูดเงินจากบัญชีประชาชน ด้วยการทำแอปปลอมขึ้นมา ถ้าไม่ระวังเงินเราอาจเกลี้ยงบัญชี คงต้องย้ำเพื่อเตือนภัยไปเรื่อยๆ แม้บางท่านจะระมัดระวังตัวอยู่แล้ว แต่พวกมิจฉาชีพมันก็ยัง พยายามเสาะแสวงหาวิธีมาหลอกล่อหมายจะดูดเงินอยู่ตลอดเวลา

ฉะนั้นเตือนไม่ใช่สิ่งเสียหายอะไรถ้ามันจะช่วยรักษาเงินจากน้ำพักน้ำแรงของเราได้ ล่าสุดคือพวกมันใช้วิธีส่งข้อความมาที่มือถือเหยื่อ แล้วแอบอ้างแอปพลิเคชัน ThaID เพื่อหลอกให้กดลิงก์ จากนั้นก็จะควบคุมโทรศัพท์ของเรา เพื่อโอนเงินออกไป ซึ่งกลุ่มคนร้ายจะอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากแอป ThaID ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันของกรมการปกครอง ในการแสดงบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านออนไลน์

โดยคนร้ายจะติดต่อผู้เสียหายหลายทาง มีทั้งโทรศัพท์เข้ามาอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง ให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ThaiD ปลอม หรือส่ง SMS เข้าโทรศัพท์ผู้เสียหายในชื่อ ThaiD เพื่อให้ผู้เสียหายทำการอัพเดตให้ยืนยันตัวตน หรือไม่ก็อ้างเหตุผลอื่นๆ ผ่านลิงก์ wsc.fit/62 ซึ่งเป็น LINE Account ชื่อ Thai ID ปลอม

เมื่อพูดคุยผ่านไลน์แล้ว พวกมันจะหลอกล่อให้ดาวน์โหลดแอปดูดเงิน ซึ่งจะทำให้โทรศัพท์มือถือไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราว และคนร้ายจะทำการดูดเงินออกจากโทรศัพท์ผู้เสียหายไปทันที

ความเสียหายนี้มีมากขึ้นเรื่อยๆ มีคนตกเป็นเหยื่อไม่น้อย ขอให้ตั้งสติให้ดีอย่าไปหลงเชื่อโดยเด็ดขาด หากได้รับการติดต่อทางทางโทรศัพท์หรือ SMS ดังกล่าว อย่าดาวน์โหลด หรือหากเผลอไปติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมแล้ว ให้รีบตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ถอดซิมโทรศัพท์มือถือออก และแจ้งความตำรวจผ่านระบบ www.thaipoliceonline.com

นั่งยันยืนยันนอนยันว่ากรมการปกครองไม่มีช่องทางไลน์ทางการ (LINE Official Account) ในการติดต่อกับประชาชน และไม่มีนโยบายในการส่งข้อความไปยังประชาชน หากต้องการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “ThalD” (ไทยดี) สามารถดาวน์โหลด หรือติดตั้งผ่าน App Store หรือ Play Store เท่านั้น และสามารถลงทะเบียนได้ด้วยตัวเอง หรือลงทะเบียนผ่านเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานเขต/ที่ว่าการอำเภอ

สำหรับแอปพลิเคชัน ThaID นั้นบางท่านอาจจะยังไม่รู้จักหรือยังไม่รู้ว่ามันมีประโยช์อย่างไรและใช้ทำอะไรได้บ้าง เลยอยากจะอธิบายเพิ่มเติมไส้สักหน่อย

โดยวัตถุประสงค์ของแอปพลิเคชันนี้คือ “การพิสูจน์และยืนยันตัวตน…ของคนไทย” มีระบบบริการที่ใช้ยืนยันตัวตนได้แล้ว 11 ระบบ ดังนี้

1.งานทะเบียนออนไลน์ โดยกรมการปกครอง เช่น การใช้แทนบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง การตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ การแจ้งย้ายที่อยู่ด้วยตนเอง การมอบหมายปลูกสร้างบ้านใหม่ (ขอเลขที่บ้าน) การคัดรับรองเอกสารด้วยตนเอง

2.ยื่นภาษีออนไลน์ โดยกรมสรรพากร

3.ระบบ Health Link โดยสถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ (สวข.)

4.ระบบยื่นคำขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมออนไลน์ โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน

5.แอปพลิเคชันเงินเด็ก โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน

6.ระบบการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย โดยสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

7.ระบบแฟ้มสะสมผลงานอิเล็กทรอนิกส์ โดยสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ

8.ระบบ DIP e-services โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา

9.ระบบ SEIS โดยสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน

10.ระบบจองหมายเลขทะเบียนรถยนต์ผ่านอินเทอร์เน็ต ของกรมการขนส่งทางบก

11.ระบบ LandsMaps ของกรมที่ดิน และจะมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่ร่วมใช้ระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลกับกรมการปกครองเพิ่มขึ้นอีกในระยะต่อไป

ส่วนความปลอดภัยนั้นก็เป็นไปตามมาตรฐานสากล เช่น มีข้อความเตือนทุกครั้งที่มีการขอเข้าถึงข้อมูล การให้ข้อมูลนั้นเจ้าของข้อมูลจะต้องให้ความยินยอม โดยต้องใส่รหัส 8 หลักตามที่ตั้งไว้เอง ถ้าไม่ยินยอมหรือรหัสไม่ตรงกับที่ตั้งไว้ ข้อมูลจะไม่มีการส่งออกไป

สามารถตรวจสอบรายการที่ให้ข้อมูลได้ด้วยตนเองจากประวัติการให้ข้อมูล สามารถใช้งานได้เพียงโทรศัพท์เครื่องเดียวเท่านั้น ถ้ามีการลงทะเบียนเครื่องใหม่สำเร็จ เครื่องเก่าจะถูกยกเลิกทันที โทรศัพท์ที่มีการแก้ไขระบบของเครื่องจะไม่สามารถใช้งาน ThaID ได้

อย่าลืมนะ..สติและความสงสัยจะเกราะป้องกันเงินของเราได้ !!... สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/articles/2560393/