เว็บไซต์ข่าว“เอมิเรตส์” ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รายงานจากประเทศแอลจีเรีย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ว่า เจ้าบ่าวชาวแอลจีเรียที่ไม่ได้รับการเปิดเผยชื่อ ยื่นฟ้องเจ้าสาวของตัวเองในข้อหาทำร้ายจิตใจ หลังพบว่าภรรยาในสภาพไม่แต่งหน้านอนอยู่ข้างๆ โดยฝ่ายหญิงแต่งหน้ากลบเกลื่อนรูปโฉมที่แท้จริงหลอกลวงเขามาตลอดตั้งแต่ก่อนแต่งงาน
เมื่อทั้งคู่เข้าพิธีวิวาห์เสร็จเรียบร้อย ในเวลาเช้าของวันรุ่งขึ้น เจ้าบ่าวตื่นขึ้นมาเห็นใบหน้าของภรรยาซึ่งไร้เครื่องสำอางค์ ก็ตกใจสุดขีด คิดว่า เธอเป็นขโมยเข้ามาขโมยของในอพาร์ทเม้นต์ของเขา
ชายหนุ่มกล่าวในชั้นศาลว่า เขาจำเธอไม่ได้จริงๆ เนื่องจากใบหน้าเธอแตกต่างจากสภาพในวันวิวาห์มาก เขารับไม่ได้ที่เหตุการณ์เป็นเช่นนี้ จึงตัดสินใจฟ้องร้องภรรยาในข้อหาหลอกลวง ทำร้ายจิตใจ โดยในช่วงก่อนแต่งงานเธอก็แต่งหน้ากลบเกลื่อนรูปโฉมมาโดยตลอด ทำให้เขาไม่มีโอกาสได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงเลยสักครั้ง
ชายหนุ่มเผยว่า ภรรยาของเขาดูมีเสน่ห์และสวยมากเมื่ออยู่ในสภาพแต่งหน้า แต่เมื่อเขาตื่นเช้าขึ้นมาในวันแรกของชีวิตคู่กลับพบเธอในสภาพล้างเครื่องสำอางค์ออกทั้งหมด เขาจำเธอไม่ได้และกล่าวหาว่า เธอเป็นขโมย ล่าสุดเจ้าบ่าวต้องการค่าชดเชยจากภรรยา 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ (700,000 บาท)ข้อหาทำร้ายจิตใจ
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การส่งออกของไทยที่ติดลบต่อเนื่องว่า การส่งออกปี 2558 มีโอกาสติดลบแน่นอน แต่จะเป็นเท่าไร ได้ให้สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าจัดทำตัวเลขบนพื้นฐานปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจโลก อัตราแลกเปลี่ยน ราคาสินค้า โดยเฉพาะสินค้าเกษตร รวมถึงประเทศคู่ค้า ให้ได้ข้อสรุปภายในวันที่ 6 สิงหาคม สำหรับข้อเรียกร้องของภาคเอกชนขอให้จัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาการระหว่างประเทศ มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานนั้น คณะกรรมการชุดนี้ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปแล้ว อยู่ระหว่างขั้นตอนจัดทำองค์ประกอบของคณะกรรมการ เพื่อเรียกประชุมนัดแรกในเร็วๆ นี้ โดยกระทรวงพาณิชย์จะรายงานสถานการณ์การส่งออกและทิศทางต่างๆ เพื่อใช้ประกอบในการขับเคลื่อนการส่งออกในปีที่เหลือ 2558 และปี 2559
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้กระทรวงพาณิชย์กำหนดประชุมประเมินสถานการณ์การส่งออกของปีนี้ โดย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวยอมรับว่าตัวเลขการส่งออกปีนี้คงไม่สามารถผลักดันให้เติบโต 1.2% ได้ โดยจะประเมินสถานการณ์อีกครั้งในวันที่ 5 สิงหาคม และประกาศตัวเลขที่ปรับใหม่ อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ได้เลื่อนการแถลงตัวเลขส่งออกใหม่เป็นวันที่ 6 สิงหาคมแทน
เมื่อวันที่ 5 ส.ค. นายจำเริญ วราภรณ์ ทนายความของ นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ที่ถูกศาลฎีกาพิพากษายืน จำคุก 1 ปี 6 เดือน ในคดีทุจริตการเลือกตั้ง ได้เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ได้เดินทางไปเยี่ยม นายชนม์สวัสดิ์ ที่เรือนจำกลางสมุทรปราการ ขณะนี้ นายชนม์สวัสดิ์ ยังอยู่ในภาวะมีความเครียด โดยตนและมารดาของ นายชนม์สวัสดิ์ พยายามพูดให้กำลังใจ ซึ่ง นายชนม์สวัสดิ์ ได้กล่าวกับญาติที่ไปเยี่ยมว่า ยอมรับในความเป็นจริง ขณะนี้พยายามที่ทำใจให้ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น
“ในระยะเวลา 7 วันแรกเป็นช่วงของการปรับตัวกับสภาพกับความเป็นอยู่ในเรือนจำ ส่วนเรื่องการขออภัยโทษสามารถกระทำได้ทันที แต่ขณะนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวมเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ทั้งผลงานการกระทำคุณงามความดี ประวัติการไม่เคยถูกคุมขัง เพื่อเรียบเรียงเป็นคำร้องยื่นถวายฎีกา รวมไปถึงการหารือร่วมกับ นายชนม์สวัสดิ์ ว่าพอใจหรือไม่ ทั้งนี้ความผิดในชั้นฎีกาถือเป็นที่สุด ต้องรับสภาพเท่านั้น”
นายจำเริญ กล่าว นายจำเริญ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่สื่อมวลชนลงข่าวคำพิพากษาไปเมื่อวันที่ 4 ส.ค. ตนอยากอธิบายให้กระจ่างว่าการกระทำความผิดของ นายชนม์สวัสดิ์ มีเฉพาะการลงลายมือชื่อในเอกสารเสนอเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งเท่านั้น.
เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ว่าที่ประชุมได้หารือกรณีการส่งเรื่องไปยังอัยการ ยื่นคำร้องต่อศาลยึดรถยนต์ลัมโบกินี่ของ บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ดาราชื่อดัง ที่ซื้อต่อจาก นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง(สจล.) โดยที่ประชุมเห็นว่า ควรจะส่งเรื่องต่ออัยการ เพื่อยึดรถยนต์ ที่ บอย-ปกรณ์ ซื้อไว้แต่เสียงไม่ถึง 2 ใน 3 จึงต้องคืนรถยนต์ดังกล่าวให้ บอย-ปกรณ์ เพราะเห็นว่า ซื้อรถยนต์ดังกล่าวด้วยเจตนาบริสุทธิและใช้เงินที่หามาได้ด้วยความสุจริต ส่วนการดำเนินคดีของ นายกิตติศักดิ์ ก็ต้องดำเนินการต่อไป
ด้านพ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง.กล่าวว่า นอกจากกรณีของ บอย-ปกรณ์ แล้วยังมีอีกคดีหนึ่งซึ่งเป็นลักษณะเดียวกัน ที่ประชุมก็ได้มีมติคืนรถยนต์เช่นเดียวกันจึงยืนยันว่าการคืนรถยนต์ให้กับ บอย-ปกรณ์ นั้นไม่เกี่ยวว่าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและจะใช้กรณีดังกล่าวเป็นบรรทัดฐานในการพิจารณาคดีอื่น ๆ ต่อไป.
(5 ส.ค.58) ที่ห้องประชุมสภาเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 5 สิงหาคม นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายก ทน.ฯ พร้อมนายอารมณ์ ทางตะคุ ปลัด ทน.ฯ และเจ้าหน้าที่สำนักกองช่างสุขาภิบาล ได้ประชุมหารือเร่งด่วน เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในเขตเมืองซ้ำซาก กรณีพบเสาเข็มฐานกำแพงฮวงจุ้ย ศาลองค์พระรูปไต้ฮงกง ด้านหน้าคลินิกหัวเฉียวไทย-จีน แพทย์แผนไทย สาขาโคราช ตั้งอยู่ริมถนนท้าวสุระ บริเวณโค้งวัดศาลาลอย ปักลงกลางท่อระบายน้ำทิ้ง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 120 เซนติเมตร ซึ่งเป็นสิ่งกีดขวางเส้นทางระบายน้ำลงคลองน้ำธรรมชาติ ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในเขตตัวเมืองชั้นใน และถนนมิตรภาพ
นายสุรวุฒิ ให้สัมภาษณ์ว่า การหารือในประเด็นน้ำท่วมขัง บางแห่งไม่เคยปรากฏมาก่อน เช่น เส้นทาง ถ.มิตรภาพ ถึง ถ.บุรินทร์ บริเวณหน้าสถานีขนส่งนครราชสีมา แห่งที่ 1 หรือ บขส. เก่า ถ.มิตรภาพ บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ และทางแยกอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี บริเวณหน้าห้างไอทีโคราช รวมทั้งเส้นทาง ถ.จอมพล ด้านหลังอนุสาวรีย์ ถึงไนท์บาร์ซ่าสวนหมาก บางแห่งแม้เคยท่วมขัง แต่ระดับน้ำไม่สูงมากและน้ำลดลงค่อนข้างเร็ว
เจ้าหน้าที่จึงเร่งหาสาเหตุครั้งแรก ปริมาณน้ำฝน 103 มิลลิเมตร พบเศษขยะมูลฝอย วัชพืชอุดตัน จึงจัดการสะสางออกจากท่อระบายน้ำ ต่อมาเมื่อวันที่ 1 และ 2 สิงหาคม ที่ผ่านมา ปริมาณน้ำฝน วัดได้ 72 มิลลิเมตร และ 38 มิลลิเมตร ตามลำดับ ซึ่งน้อยกว่าฝนแรก แต่น้ำได้ท่วมขังเหมือนเดิม โดยน้ำในคูเมือง ซึ่งเป็นแก้มลิงของตัวเมืองชั้นใน มีปริมาณเกินความจุเก็บกักได้ไหลออกตามช่องทางระบายน้ำล้นอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่จึงเร่งหาสาเหตุ พบเสาเข็มฐานกำแพง คลินิกหัวเฉียว ปิดกั้นเส้นทางน้ำที่สูบออกมาจากสถานีสูบน้ำแห่งที่ 1 ตรงข้ามโรงเรียนเมืองนครราชสีมา เพื่อระบายลงลำตะคอง ข้างวัดศาลาลอย ท่อทรงกลมขนาด 1.2 เมตร ถูกฐานเสาเข็มปิดกั้นเกือบ 100% ทำให้ก้อนน้ำไหลไม่สะดวก ส่วนหนึ่งได้ไหลย้อนขึ้นมา
เบื้องต้นได้พูดคุย ทำความเข้าใจกับผู้รับผิดชอบ คลินิก เพื่อให้เร่งนำฐานเสาเข็มออกด่วนที่สุด ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานเอกชนมาดำเนินการ คาดจะแล้วเสร็จในเร็วๆนี้
จากกรณี เมื่อกลางดึกวันที่ 1 ส.ค. ด.ญ.พี (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ได้ถูก 4 หนุ่มวัยรุ่น ลวงผ่านทางเฟซบุ๊กไปข่มขืนคาบ้านพักเลขที่ 33/2 หมู่ 10 บ้านผาแตก ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ต่อมาได้มีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่มาขอเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้น แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอม เพราะเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับเด็กและพร้อมดำเนินคดีอย่างเต็มที่ กระทั่งวันที่ 3 ส.ค. ตำรวจก็สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คนคือ นายธีรกร คำแดง อายุ 38 ปี เป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ นายชาย บุญมา อายุ 26 ปี และนายหนึ่ง (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ในข้อหาร่วมกันพรากผู้เยาว์และร่วมกันกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี” แต่ยังเหลือผู้ต้องหาที่หลบหนีอยู่อีก 1 ราย ซึ่งเป็นทหารอยู่ที่ จ.พะเยา
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 5 ส.ค. พ.ต.อ.ทรงกริช ออนตะไคร้ ผกก.สภ.แม่สาย จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาอีก 1 รายคือ ส.ต.ชลกร พันธุ์สอาด อายุ 25 ปี ทหารสังกัดค่ายขุนจอมธรรม อ.เชียงคำ จ.พะเยา ที่หลบหนีอยู่ได้เข้ามามอบตัวกับพนักงานสอบสวนแล้วในช่วงดึกที่ผ่านมา เนื่องจากอับอายไม่ต้องการพบสื่อมวลชน ซึ่งเจ้าตัวก็รับสารภาพตามพรรคพวกที่โดนจับก่อนหน้านี้ โดยได้ควบคุมตัวไปฝากขังแล้วด้วย
สำหรับคดีดังกล่าว นายธีรกร ผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ก่อนหน้ารับสารภาพว่าเป็นคนติดต่อและล่อลวง ด.ญ.พี ผ่านทางเฟซบุ๊ก จากนั้นได้พูดคุยลักษณะจีบกันไปมา จนทำให้เกิดความเชื่อใจ ก่อนจะออกอุบายว่าอยากเจอ กระทั่งมาหาตามที่นัดกันไว้ จากนั้นก็ออกไปรับและพามาที่บ้านพัก ซึ่งขณะนั้นก็มีกลุ่มอีก 3 ราย นั่งตั้งวงดื่มสุราและเสพยารออยู่แล้ว กระทั่งช่วงที่ ด.ญ.พี เดินไปเข้าห้องน้ำ ทั้งหมดก็ตามไปถีบประตูจนพัง ก่อนจะรุมโทรม แต่เหยื่อได้ดิ้นหลุดหนีไปหาคนมาช่วยได้.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 6 ส.ค. ว่านายแซร์จ แมคโกเวียค รองอัยการสูงสุดของฝรั่งเศส แถลงเมื่อวันพุธ เกี่ยวกับผลการทดสอบชิ้นส่วนความยาว 2 เมตร ซึ่งลอยมาเกยตื้นที่ชายฝั่งของเกาะเรอูนิยง ดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศสในมหาสมุทรอินเดีย เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ว่าผลในเบื้องต้นบ่งชี้เป็นชิ้นส่วนจากปีกเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 777 และ "มีความเป็นไปได้สูงมาก" ที่จะมาจากเที่ยวบินเอ็มเอช 370 ของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส
ทั้งนี้ ทีมผู้เชี่ยวชาญจะเร่งดำเนินการทดสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนที่มีกำลังขยายสูงเป็นพิเศษ เพื่อวิเคราะห์รูปแบบของแรงกระแทกที่ทำให้ชิ้นส่วนดังกล่าวหลุดออกมา ซึ่งถ้อยแถลงของทางการฝรั่งเศสถือเป็นการใช้ถ้อยคำที่ "ระมัดระวัง" มากกว่าของรัฐบาลมาเลเซีย โดยนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ประกาศอย่างเป็นทางการว่า ชิ้นส่วนนั้นเป็นของเที่ยวบินเอ็มเอช 370 ซึ่งหายสาบสูญไปตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. ปีที่แล้ว ขณะเดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปยังกรุงปักกิ่ง พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือรวม 239 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนและชาวมาเลย์
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012